สืบเนื่องจากกรณีที่พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. พร้อมด้วย พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. และ พล.ต.ต.ธวัชเกียรติ จินดาควรสนอง ผบก.น.5 สนธิกำลังตำรวจ บก.สส.บช.น. กก.สส.บก.น.5 และ สน.ลุมพินี จับกุมตัว นายณัฐภัทร สวัสดี หรือกบ อายุ 27 ปี และ นายณัฐพงศ์ ฆ้องคำอยู่ หรือจูน อายุ 24 ปี ผู้ต้องหาร่วมกันเรียกค่าไถ่ โดยขู่เข็ญใช้กำลังประทุษร้าย, ร่วมกันกรรโชกทรัพย์ และร่วมกันกักขังหน่วงเหนี่ยว พร้อมของกลาง กล่องพลาสติกขนาดใหญ่จำนวน 1 ใบ รถยนต์ยี่ห้อ Mercedes Benz รุ่น AMG G63 สีฟ้า ทะเบียนป้ายแดงหมายเลข น-6987 กรุงเทพมหานคร และเงินสดที่อายัดคืนมาได้อีก 2.3 ล้านบาท
โดยติดตามจับกุมตัวได้ในพื้นที่ จ.ประจวบคีรีขันธ์ หลังผู้ต้องหาทั้ง 2 ราย ร่วมกันกับพวกรวม 6 คน ก่อเหตุทำร้ายร่างกายและอุ้ม MR.WANG NANFENG อายุ 33 ปี ผู้เสียหายชาวจีนยัดใส่กล่องพลาสติกลงจากห้องพัก อาคารสินธรเรสซิเดนซ์ ถนนวิทยุ แขวงลุมพินี เขตปทุมวัน กทม. แล้วนำไปกักขังที่รีสอร์ตในพื้นที่ จ.ประจวบคีรีขันธ์ เพื่อทำการเรียกค่าไถ่จากเพื่อนและญาติ ๆ เป็นเงินจำนวน 3.93 ล้านบาท
ทั้งนี้ ภายหลังจับกุมตัวผู้ร่วมก่อเหตุเอาไว้ได้ จำนวน 2 คน ชุดคลี่คลายคดีได้รวบรวมพยานหลักฐาน เพื่อขอออกหมายจับผู้ต้องหาที่ยังหลบหนีอีก 4 คน ประกอบด้วย 1. น.ส.เพชรลดา แสงสกุล หรือน้ำเพชร อายุ 24 ปี 2. นายศุภพล ฮาลมัน อายุ 24 ปี แฟนหนุ่มชาวไทย 3. น.ส.สริตา ดอนม่วง อายุ 28 ปี เจ้าของบัญชีที่รับโอนเงินจำนวน 1.03 ล้านบาท และ 4. นายโจ (ยังไม่ทราบชื่อและนามสกุล) อายุราว 35-40 ปี ซึ่งปรากฏอยู่ในกล้องวงจรปิด ขณะร่วมกันกับ นายณัฐภัทร ขึ้นไปอุ้มตัวผู้เสียหายจากบนห้องพัก ก่อนติดตามตัวผู้ต้องหาทั้ง 4 ราย มาดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
จากการจับกุมดังกล่าว ตามแนวทางการสืบสวนในคดี คนร้ายก่อเหตุบุกคอนโดมิเนียมจับกุมตัวนายหวัง ไปเรียกค่าไถ่เป็นเงินเกือบ 4 ล้านบาทนั้น ซึ่งพบว่า นายหวัง ผู้เสียหาย เคยคบหากับ นางสาว น้ำเพชร แฟนสาวชาวไทย ซึ่งคบหากันมาเป็นระยะกว่า 1 ปี และได้เลิกรากันไป 3 เดือน ก่อนที่จะกลับมาคบกันอีกครั้ง
โดยนางสาว น้ำเพชร ทราบว่านายหวัง มีเงินมีทรัพย์สินจำนวนมาก และเป็นคนกลุ่มจีนสีเทา มีหมายจับทางการจีน เชื่อว่าคงไม่กล้าแจ้งความ จนกระทั่งได้วางแผนร่วมกับนายกาย แฟนหนุ่มชาวไทย ก่อนจะชักชวนกันก่อเหตุดังกล่าว และจากการสอบสวน นางสาวน้ำเพชร ให้การว่า นายหวังให้ค่าเลี้ยงดูเดือนละ 1 แสนบาท ส่วนแฟนหนุ่มนั้น ชอบเล่นการพนัน ไม่มีงานทำ ส่วนเงินที่ได้มา อ้างว่า ได้กดออกมาแบ่งกับทีมงานแล้ว