วันที่ 19 เมษายน 2566 พันตำรวจเอกปริวัฒน์ นาคำ เบอร์ 5 ผู้สมัครพรรคพลังประชารัฐ เขต 11 จังหวัดนครราชสีมา พร้อมด้วยทีมงานรวม 3 คน ได้เดินผ่านแสงแดดอันร้อนระอุกว่า 41 องศา เพื่อขอคะแนนชาวบ้าน พร้อมทั้งพูดถึงนโยบายของพรรค ตามสโลแกนที่ว่า ก้าวข้ามความขัดแย้ง ขจัดทุกปัญหา พัฒนาทุกพื้นที่ โดยได้รับเสียงตอบรับเป็นอย่างดีจากชาวบ้านในพื้นที่พันตำรวจเอกปริวัฒน์ เผยว่า การที่เลือกเป็นผู้สมัครพรรคพลังประชารัฐด้วยเหตุผลที่ว่า ลดความขัดแย้ง ที่ พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคฯจะรวมคนไทยทุกคนให้เป็นหนึ่งเดียวกัน ส่วนอีกเหตุผลคือ พรรคพลังประชารัฐได้บริหารประเทศมาก่อนหน้านี้และได้ช่วยชาวบ้านอย่างจริงจัง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องบัตรประชารัฐ เพิ่มเงินเป็น 700 บาท มอบสวัสดิการผู้สูงอายุเกิน 80 ปีรับ 5,000 บาท สวัสดิการประชารัฐจากครรภ์มารดา ผุดนโยบาย แม่ บุตร ธิดา ประชารัฐ ชูนโยบาย น้ำมันประชาชน นโยบายบริหาร จัดการน้ำ ที่ดินทำกิน นี่คือหัวใจของชาวบ้าน การแก้ไขปัญหาที่ทำกินจะต้องนำเสนอต่อรัฐสภา เพื่อให้แก้ไขปัญหาที่ทับซ้อน ระหว่าง สปก ป่าไม้ และอุทยาน ทำยังไงจะให้กรรมสิทธิ์มาตกอยู่กับประชาชน เพื่อที่จะได้ครอบครองและนำมาพัฒนาต่อได้ ในส่วนเขตเลือกตั้งที่ 11 จะมีเขื่อนใหญ่อยู่ 3 เขื่อน คือเขื่อนลำแชะและเขื่อนมูลบนรวมไปถึงเขื่อนลำพระเพลิง ส่วนใหญ่จะมีปัญหาในพื้นที่ห่างไกล การแก้ไขคือทำยังไงก็ได้ต่อท่อจากทั้ง 3 เขื่อน ลงไปช่วยเหลือชาวบ้านโดยเฉพาะพี่น้องเกษตรกร ในส่วนพื้นที่สูง จะต้องหาไฟฟ้าเพื่อที่จะสูบน้ำจากใต้ดินเข้ามาใช้ บนพื้นที่สูง ในส่วนของราคาพืชผลทางการเกษตร จะต้องหาตลาดให้กับพี่น้องเกษตรกร ให้เกิดความต้องการสูง ราคาผลผลิตก็จะสูงขึ้น และลดต้นทุนการผลิตให้มากที่สุด และสิ่งสำคัญคือต้องหาปุ๋ยราคาที่ถูก และสิ่งสำคัญคือการขนส่งสินค้าทางการเกษตร จะต้องสะดวกและรวดเร็ว