ประยุทธ์อย่านอนใจ ปล่อยค่าไฟแพง

ระวังจะกระทบกับงานใหญ่ พาลส่งผลไปถึงการเลือกตั้ง ค่าไฟมันเรื่องใกล้ตัว ชาวบ้านเดือดร้อนแสนสาหัส ต้นตอแพงเพราะยุคใดต้องออกมาชี้แจงให้ชัด เสธ.หิย้ำ อนุมัติผลิตไฟฟ้า 5.3 พันเมกกะวัตต์ยุคเจ๊ปูว์เปิดทางเอกชนผลิตไฟสำรองเกินความจำเป็น จตุพรสับเงิน 4.6 หมื้นล้านบาท ประมูลผลิตไฟฟ้าได้เจ้าเดียว เข้ากระเป๋าใครทุกคนรู้ดี เตือนสติบิ๊กตู่ดังๆ อย่าเบาใจเรื่องไฟแพง จะคิดแก้อะไรก็ต้องรีบอย่าปล่อยไว้นานเดี๋ยวจะกลายเป็นไฟลามทุ่ง กระทบงานใหญ่ในอนาคต

บรรยากาศการเลือกตั้งช่วงโค้งสุดท้ายกับอากาศเดือนเมษายนถือว่าร้อนมากแล้ว แต่ที่ร้อนกว่าคือราคาค่าไฟเดือนนี้นี่แหละที่ล่าสุดได้กลายเป็นกระเด็นร้อนในสังคม จากประเด็นปากท้องค่าครองชีพ ล่าสุดก็ถูกดึงมาเป็นประเด็นทางการเมืองเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ความจริงประเด็นค่าไฟฟ้ามีหลายส่วนที่ต้องพูดถึง และเป็นเรื่องที่มีรายละเอียดจำนวนมาก จู่ๆจะมาพูดมาด่าว่ารัฐบาลชุดปัจจุบัน ด่าว่า “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ เป็นต้นเหตุทำให้ค่าไฟแพงก็ไม่ถูกทั้งหมดเสียทีเดียว พูดแบบนี้ไม่ใช่ต้องการมาปกป้องพล.อ.ประยุทธ์แต่อย่างใด เพราะเรื่องความเดือดร้อนของประชาชนเรื่องผลประโยชน์ของชาวบ้านไม่ว่าใครหน้าไหนถ้าทำไม่ถูกปกป้อง “นายทุน” เอื้อประโยชน์ให้ธุรกิจยักษ์ใหญ่ก็ต้องไล่เบี้ยก็ต้องเปิดหน้าชกกันให้รู้แล้วรู้รอด ทำดีก็ต้องชื่นชมทำเลวทำชั่วช้าทำไม่ถูกก็ต้องด่าต้องเตือนสติกัน

เรื่องค่าไฟต้องย้อนกลับไปที่ต้นเหตุ ทำไมการไฟฟ้าฝ่ายผลิต (กฟผ.) ถึงทำสัญญาทาสให้เอกชนผลิตไฟฟ้าสำรองเกินความจำเป็น จนเป็นที่มาให้ชาวบ้านตาดำๆต้องแบกภาระจ่ายค่าผลิตไฟฟ้าส่วนเกินมาจนถึงทุกวันนี้ ย้อนกลับไปเมื่อ 19 มิ.ย.2555 สมัยรัฐบาล “เจ๊ปูว์” ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกฯน้องสาวของทักษิณเคยอนุมัติการปรับปรุงแผนพัฒนาผลิตกำลังไฟฟ้าของประเทศ หรือ ” PDP” ที่ตอนนั้นครม.ก็เห็นชอบตามมติคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) ซึ่งมีตัวเจ๊ปูว์นั่งเป็นประธาน เมื่อวันที่ 8 มิ.ย. พ.ศ.2555 นั้นแหละ เรื่องการปรับปรุงแผน PDP 2010 ฉบับปรับปรุงครั้งที่ 3 โดยอนุมัติให้มีการรับซื้อพลังงานไฟฟ้าจากผู้ผลิตเอกชน IPP ในปริมาณ 5,400 เมกะวัตต์โดยโดยระบุสเปคที่เป็นสาระสำคัญว่า ” จะต้องเป็นพลังงานไฟฟ้าที่ใช้เชื้อเพลิงเป็นก๊าซธรรมชาติทั้งหมด ” จากนั้นทางสำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) ก็ออกประกาศรับซื้อไฟฟ้าจากผู้ผลิตไฟฟ้าเอกชน ก่อนจะมีการออกประกาศเชิญชวนการรับซื้อไฟฟ้าจากผู้ผลิตเอกชนรายใหญ่ (IPP) ปริมาณ 5,400 เมกะวัตต์ ในปี พ.ศ.2556 สำหรับกำหนดการผลิตในช่วงปี พ.ศ. 2564 ถึงปี 2569 โดยมีผู้ผลิตให้ความสนใจและซื้อเอกสารจำนวน 89 ราย หลังการเปิดซองข้อเสนอด้านเทคนิค คงเหลือผู้ยื่นข้อเสนอทั้งสิ้น 9 ราย จาก 5 กลุ่มบริษัทท้ายที่สุดแล้ว ได้ผู้ชนะการประมูลคือ บริษัท กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) ซึ่งเป็นเอกชนรายเดียวที่ได้กำลังผลิตไฟฟ้าปริมาณเกือบ 5,400 เมกะวัตต์ ไปครอบครองแต่เพียงผู้เดียว โดยได้เข้าทำสัญญาซื้อขายไฟฟ้ากับกฟผ. เป็นระยะเวลานานกว่า 25 ปี

ประเด็นนี้ต่างหากที่เป็น “ต้นเหตุ” ที่เป็น “ต้นทาง” ให้รัฐบาลถูกมัดมือชกจากเอกชน ที่ดำเนินการผลิตไฟฟ้าสำรองส่วนเกินความจำเป็นของคนไทย จนปัญหาวนกลับมาที่คนไทยต้องแบกรับการจ่ายเงินต้นทุนการผลิตไฟฟ้าส่วนเกินที่มากกว่าความเป็นจริงหรือมากกว่าปริมาณที่ต้องการใช้ แล้วถามว่าเรื่องนี้บิ๊กตู่รู้หรือไม่รู้แล้วทำอะไรเพื่อแก้ไขไหม หลังรัฐประหารเข้ามาควบคุมอำนาจบริหารประเทศ นายกฯและคสช.ก็ได้เข้าไปดูเรื่องนี้และพยายามหาทางแก้ไขปัญหาการเซ็นสัญญาที่ไม่เป็นธรรมหรือการเซ็นสัญาที่อาจทำให้ประชาชนและรัฐเสียประโยชน์ มีการออกคำสั่งให้กระทรวงพลังงานเจรจายกเลิกโครงการนี้เพราะเห็นว่าอนาคตรัฐบาลขาดทุนแหง๋ๆ มีการแจ้งให้สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน หรือ “BOI” ชะลอการสนับสนุนส่งเสริมการลงทุนของโครงการ แต่เรื่องนี้มันไม่ง่ายอย่างที่คิด ไม่ใช่ว่าบิ๊กตู่สั่งให้เลิกแล้วก.พลังงาน กฟผ.จะไปเลิกสัญญาได้ เพราะงานนี้เอกชนไม่ยอม 23 ก.ค.2558 กลุ่มกัลฟ์ยื่นฟ้องต่อศาลปกครองกลางเพื่อขอความเป็นธรรม โดยไล่ฟ้องไปตั้งแต่ กกพ., สกพ., กระทรวงพลังงาน เรื่อยไปจนถึงคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงของเรื่องนี้ 8 ธ.ค.2559 ศาลปกครองกลาง มีคำพิพากษาว่า ผู้ถูกฟ้องคดี มีอำนาจดำเนินการตรวจสอบตามกฎหมายแต่ได้กระทำนอกเหนือเกินขอบเขตอำนาจในการใช้ผลการตรวจสอบดังกล่าว จนเป็นเหตุให้ผู้ฟ้องคดี ได้รับความเสียหาย ให้กระทรวงพลังงานแจ้งยกเลิกหนังสือที่ส่งไปถึง BOI เกี่ยวกับการชะลอการพิจารณาอนุมัติการส่งเสริมการลงทุน

ฝ่ายรัฐบาลก็ยังไม่ยอมแพ้ 4 ม.ค.2560 กระทรวงพลังงาน ยื่นอุทธรณ์คำพิพากษาของศาลปกครองกลาง 14 ธ.ค.2564 ศาลปกครองสูงสุด พิพากษาว่าการกระทำของกระทรวงพลังงาน ทั้งในส่วนของการส่งหนังสือถึง BOI หรือการเรียกผู้ฟ้องคดีเข้าไปเพื่อเจรจาไกล่เกลี่ยยกเลิกสัญญาขายไฟฟ้า นั้นเป็นการกระทำที่ละเมิดต่อผู้ฟ้องคดีได้รับความเสียหาย ดังนั้นจึงพิพากษาให้กระทรวงพลังงานยกเลิกหนังสือที่ทำถึง BOI ในการให้ชะลอการสนับสนุนการส่งเสริมการลงทุนของโครงการ รวมถึงห้ามกระทรวงพลังงานนำผลการตรวจสอบข้อเท็จจริงการประมูลโครงการดังกล่าวไปใช้เจรจากับผู้ฟ้องคดีเพื่อยกเลิกสัญญาซื้อขายไฟฟ้าอีกต่อไป คำพิพากษาของศาลปกครองสูงสุดดังกล่าวถือเป็นที่สุด เป็นอันว่าเอกชนชนะการฟ้องร้อง บ.กัลฟ์ได้ดำเนินการผลิตไฟฟ้าต่อไป ยกเรื่องนี้ขึ้นมาพูดเพื่อให้เห็นว่าบิ๊กตู่กับรัฐบาลคสช.ไม่ได้นิ่งนอนใจ พยายามหาทางยกเลิกสัญญาทาสที่เจ๊ปูว์อนุมัติให้มาตลอด แต่ไม่ทำไม่ได้เพราะศาลมีคำสั่งตัดสินไว้แบบนี้

อันนี้แหละเป็นต้นทางที่ทำให้เอกชนยักษ์ใหญ่ผลิตไฟฟ้าสำรองออกมามากออกมาจนล้นเกินความจำเป็นที่คนไทยจะใช้ ที่สุดก็วนกลับมาเป็นภาระให้เราต้องแบกกันหลังแอ่นจ่ายค่าไฟกันหูตูบ เพราะฉะนั้นเรื่องนี้จะด่าใครก็ต้องด่าให้ถูกเรื่อง ด่าให้ถูกคนด่าให้ถูกที่ว่าใครเป็นต้นเหตุทำให้ค่าไฟแพง “ รู้มั้ยครับ ก่อนผมจะเข้ามาเนี่ย มีการอนุมัติในเรื่องของด้านพลังงาน 5,000 เมกะวัตต์ โดยใครรู้มั้ยครับ? ท่านรู้มั้ย? ก่อนที่จะไม่มีอำนาจเนี่ย เร่งอนุมัติให้ 5,000 เมกะวัตต์ ผมเข้ามา ผมก็หนักใจว่าจะทำยังไงไอ้ 5,000 เมกะวัตต์เนี่ย ก็ได้หาวิธีการเจรจา ทำยังไงมันจะไม่เกิดปัญหา มีการปรึกษาฝ่ายกฎหมาย เค้าก็บอก มันทำอะไรไม่ได้เลย เพราะมันเป็นสัญญาที่รัฐบาลก่อนหน้านั้นทำไว้ เมื่ออนุมัติ 5,000 เมกะวัตต์ เค้าก็ต้องทำตามสัญญาที่รัฐบาลก่อนหน้าทำไว้ ผมยกเลิกไม่ได้นะครับ” บิ๊กตู่เคยชี้แจงประเด็นนี้ เมื่อ 18 ก.พ.64 เวลา 23.30 น. ณ ห้องประชุมสภาผู้แทนราษฎร อาคารรัฐสภา ระหว่างถูกฝ่ายค้านซักฟอกญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไปเพื่อลงมติไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีเป็นรายบุคคล ขณะที่ “เสธ.หิ” ดร.หิมาลัย ผิวพรรณ น้องรักก็ออกมากระทุ้งเรื่องนี้ให้คนไทยตาสว่าง ” พรรคเพื่อไทย ควรออกมาชี้แจงว่า ทำไมรัฐบาลยิ่งลักษณ์ถึงทำล็อคผูกพันค่าไฟแพงไว้? ทำไมถึงอนุมัติให้กฟผ.ต้องซื้อไฟฟ้าจากบริษัทเอกชน ถึง 5,000 เมกะวัตต์ เป็นเวลาถึง 10 ปี? ส่งผลทำให้การสำรองไฟฟ้าล้นเกินความจำเป็น การไฟฟ้าฝ่ายผลิตต้องจ่ายเงินให้เอกชน อิงตามเอกชน ทำให้ประชาชนต้องแบกรับค่าไฟฟ้าที่แพงมหาโหดนี้ ถามว่า ทำไม คสช.ไม่ระงับสัญญา? ตอบว่า สัญญามีผลผูกพันไปแล้ว เค้าฟ้องร้องกันไปแล้ว แต่ไม่สำเร็จ” เสธ.หิย้ำ

ด้าน “ตุ๊ดตู่” จตุพร พรหมพันธุ์ แกนนำคณะหลอมรวมประชาชน ก็ออกมายืนยันเรื่องนี้ว่ามีคนได้ประโยชน์จากการขายไฟฟ้าให้บ.เอกชนยักษ์ใหญ่ในยุคเจ๊ปูว์จริง แถามเงินทอนก็เหมือนจะเข้ากระเป๋าพี่ชาย ” ไม่มีใครคาดคิดในตอนนั้นว่าบ.เดียวจะได้ไปถึง 5พัน เมกกะวัตต์ มีคนในแวดวงการเมืองคนนึงเอ่ยชื่อก็รู้จักกันหมดมาสะกิดผมว่า คุณจตุพรจำตัวเลข 4.6 หมื่นล้านบาทได้ไหม ผมก็บอกไปว่าจำได้เพราะเป็นตัวเลขที่ศาลฎีกาพิพากษายึดทรัพย์จากนายกฯทักษิณ เขาก็ชี้ตัวเลข 5 พันเมกกะวัตต์ให้ดู นี้ก็เป็นเรื่องที่ต้องตั้งข้อสงสัยกัน เรื่องอะไรที่จะยก 5 พันเมกกะวัตต์ให้เอกชนรายเดียวผลิตไฟฟ้า หลังจากนั้นบริษัทนั้นก็เหมือนเสือติดปีก” จตุพรแฉความไม่ชอบมาพากลเกี่ยวกับเรื่องนี้ ประเด็นเรื่องค่าไฟแพงมันมีรายละเอียดมีความสลับซับซ้อนมาก จากเดิมที่ถูกมองว่าเป็นเรื่องปากท้องเป็นเรื่องเศรษฐกิจ แต่ตอนนี้ถูกลากมาเป็นประเด็นการเมืองเรียบร้อยแล้ว ไม่ว่าข้อกล่าวหาเรื่องรัฐบาลเอื้อนายทุน นายกฯไม่กล้าแตะยักษ์ใหญ่ด้านพลังงานจะเป็นจริงหรือเท็จ แต่ในช่วงที่บิ๊กตู่เป็นนายกฯในช่วงที่ยังเป็นรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ไม่ควรปล่อยให้ประชาชนต้องแบกรับภาระค่าไฟที่แพงหูฉี่แบบนี้ ลำพังตอนนี้ค่าครองชีพ ค่าน้ำ ค่าน้ำมัน ค่าอาหาร ค่าเดินทาง ฯลฯ สารพัดจิปาถะก็แพงอยู่แล้ว นายกฯและรัฐบาลไม่ควรปล่อยให้มีการเอาเปรียบขูดรีดเลือดปูจากประชาชน ยิ่งช่วงโค้งสุดท้ายของการเลือกตั้งทุกอย่างมันอ่อนไหวทุกอย่างมันเซนซิทีฟหมด ตอนนี้ก็มีขบวนการปล่อยข่าวทำลายบิ๊กตู่แซะรัฐบาลป้ายสีรวมไทยสร้างชาติออกมาระลอกใหญ่ ว่าให้ท้ายนายทุนถือหางบ.ยักษ์ใหญ่โรงไฟฟ้าจนไม่เห็นหัวคนไทยไม่เห็นใจชาวบ้านตาดำ

ฝากเรื่องนี้ไปถึงบิ๊กตู่ทำดีมาแทบตายตั้ง 8 ปี อย่าให้มาตกม้าตายเพราะเรื่องพรรค์อย่างนี้ อย่านอนใจปล่อยให้ค่าไฟแพง อย่าดูเบาว่าเรื่องนี้กระทบนายทุน อย่าคิดว่าเป็นเรื่องหยิกเล็บเจ็บเนื้อ แม้การรื้อเรื่องค่าไฟจะเป็นเรื่องยากเป็นเรื่องลำบาก แต่ปล่อยให้ประชาชนแบกรับค่าไฟฟ้าแบบก้าวกระโดด ขึ้นพรวดเดียว 2 เท่า 3 เท่าแบบนี้ บอกกันตรงๆเลยครับท่านนายกฯ ตายห่าหมดกันทั้งประเทศ ที่เคยรักที่เคยชื่นชมที่เคยเอาใจช่วย เจอค่าไฟแพงเรื่องเดียวระวังจะกวาดคะแนนนิยมกวาดความชื่นชมในตัวท่านไปหมด ต้องรีบคิดต้องรีบทำเรื่องค่าไฟแพง เม.ย.เผาหลอก พ.ค.เผาจริง ภาคครัวเรือนจะขยับจาก 4.72 บาท เป็น 4.77 บาท ภาคอุตสาหกรรมจากลดลงจาก 5.33 มาเป็น 4.77 บาทเหมือนกัน ลองไปคิดดูใครได้ประโยชน์ใครเสียประโยชน์ เป็นรัฐบาลอย่าโง่ให้นายทุนจูงจมูก อย่ากลัวให้โรงไฟฟ้ามาขี่คอ แบบนั้นมันไม่ใช่บิ๊กตู่แบบนั้นมันไม่ใช่นายกฯของคนไทยทั้งชาติ ของจริงท่านต้องกล้าแตกหัก อย่าไปกลัวนายทุน เพราะความกลัวทำให้เสื่อม ตอนนี้ฝ่ายค้านฝ่ายตรงข้ามเอาเรื่องนี้ไปขยับหยิบเรื่องนี้ไปขยาย คนไม่เข้าใจเรื่องนี้จะพาลคิดเข้าใจผิดว่าท่านซูเอี๋ยะได้เสียกับนายทุนยักษ์ใหญ่พลังงาน งานใหญ่ที่กำลังจะมาถึงในวันที่ 14 พ.ค.2566 จะล้มจะพังเอาง่ายๆ ต้นสายปลายเหตุไปแพงเพราะอะไรต้องช่วยกันออกมาพูดให้ชัด อธิบายให้ชาวบ้านเข้าใจ ไม่งั้นพวกปากหอยปากปูจะเอาไปบิดเบือนหมด หักคอนายทุนได้แค่ไหนตัดกำไรบ.ยักษ์ใหญ่พลังงานได้มากเพียงใด ช่วงนี้ต้องเอามาช่วยชาวบ้านก่อน ผลโพลก็ยังไม่ฉิวความนิยมก็ยังไม่พุ่งดี ทำอะไรตอนนี้ต้องให้โดนใจชาวบ้าน เรื่องดีต้องรีบทำเรื่องเป็นปัญหาต้องเร่งแก้ไข อย่าปล่อยให้นายทุนสูบเลือดสูบเนื้อคนไทยอยู่บนตึกสูง จะช่วยจะขยับอะไรเรื่องค่าไฟก็ต้องรีบทำไวไวไม่งั้นเดี๋ยวไฟลามทุ่ง จะเอากันไม่อยู่ฉิบหายวายวอดกันหมดเพราะค่าไฟตัวเดียว เป้าหมายใหญ่ดูแลบ้านเมืองปกป้องสถาบันพาลจะกระทบเอา
/////////////////////
.

ข่าวที่น่าสนใจ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

"ภูมิธรรม" ไม่รับปากเอาเรือดำน้ำ ขอศึกษาให้ชัด ยึดผลประโยชน์กองทัพ-ทำให้ปชชเข้าใจ
"มูลนิธิยังมีเรา" เป็นสะพานบุญ ส่งต่อสิ่งของบริจาค จากแฟนข่าวท็อปนิวส์ มอบเรือนจำกลางสมุทรปราการ
“ดร.ณัฏฐ์” ชี้สถานการณ์ยังไม่สุกงอม เชื่อปลุกม็อบล้มร้ฐบาลยังจุดไม่ติด
อิรวดีรายงานค.ตึงเครียดหลังไทยสั่งว้าแดงถอนทหารที่พรมแดน
ฝนตกหนักต่อเนื่อง น้ำทะลักท่วมย่านเศรษฐกิจเมืองยะลา ในรอบ 36 ปี - ถนนเชื่อมต่อระหว่างหมู่บ้านทรุดตัว
จีนสั่งสอบรมว.กลาโหมในข้อหาคอรัปชั่น
เครือซีพี ผนึก ภาครัฐ - ภาคประชาสังคม - ชุมชน เร่งฟื้นฟู “หญ้าทะเล” อ่าวไม้ขาว จ.สตูล หนุนอาหารพะยูนและแหล่งอนุบาลสัตว์น้ำ เพิ่ม Blue Carbon สร้างสมดุลระบบนิเวศทะเลไทยยั่งยืน
“บิ๊กอ้วน” เตรียมลงพื้นที่ชายแดนใต้ ช่วยน้ำท่วม หวังแก้ภัยพิบัติ ไม่ให้เกิดซ้ำ
กองปราบฯคุมตัว "พี่สาวเมียทนายตั้ม" ฝากขังศาลอาญาฯ พร้อมคัดค้านประกัน

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น