จากกรณีที่นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ได้โพสต์ภาพพร้อมข้อความบนเพจเฟซบุ๊ก Wiroj Lakkhanaadisorn – วิโรจน์ ลักขณาอดิศร กล่าวถึงแบบเรียนของเด็กวิชาภาษาไทยชั้น ป.5 ระบุว่า เราควรปล่อยให้เด็กไทยยอมรับสภาพ การกินข้าวเปล่าคลุกน้ำปลาบี้ไข่ จริง ๆ หรือ?
มีคนส่งเนื้อหาในหนังสือเล่มหนึ่งมาให้ผมอ่าน น่าจะเป็นหนังสือที่ชื่อว่า “ชีวิตมีค่า ภาษาพาที ชั้น ป.5 บทที่ 9” ผมอ่านแล้วผมรู้สึกไม่เห็นด้วยอย่างมาก เพราะลำพังการปล่อยให้เด็กกินข้าวกับผัดผักบุ้งและไข่ต้มหนึ่งซีก โภชนาการเพียงเท่านี้ ก็ไม่เพียงพอต่อการเสริมสร้างพัฒนาการให้กับเด็ก ๆ อยู่แล้ว
แต่หนังสือเล่มนี้ ยังคงมีเนื้อหา สอนให้เด็กยอมจำนนต่อโชคชะตายอมรับสภาพกับการกินเข้าเปล่าราดน้ำปลาบี้ไข่ หรือข้าวเปล่าคลุกกับน้ำผัดผักบุ้ง เข้าใจหรือยังครับว่าทำไมหลายสิบปีที่ผ่านมา โดยเฉลี่ยแล้ว ผลการประเมินประสิทธิภาพในการเรียนรู้ในระดับสากลของเด็กไทย ไม่ว่าจะเป็น PISA หรือ TIMSS จึงมีแนวโน้มที่ไม่ดีขึ้นเลย ประเทศไทยควรลดงบประมาณในการจัดซื้ออาวุธที่ไม่จำเป็น และแพงเกินจริง นำมาจัดสรรเป็นสวัสดิการให้กับเด็ก ๆ พร้อมกับปรับปรุงโรงเรียน ทั้งหลักสูตรที่ยืดหยุ่นคืนเวลาให้กับครูและนักเรียน ลดการสอบ ลดการบ้าน ปลดภาระงานธุรการเพื่อคืนครูสู่ห้องเรียน เพิ่มงบประมาณอาหารกลางวัน มีสวัสดิการรถโรงเรียน มีการปรับปรุงความปลอดภัยภายในโรงเรียน มีอุปกรณ์การเรียนการสอนที่ครบครัน ยกเลิดอำนาจนิยมภายในโรงเรียน ฯลฯ
งบประมาณของกระทรวงกลาโหมที่เพิ่มขึ้นมาเรื่อย ๆ จากปี 2547 ที่ 78,000 ล้านบาท จนปัจจุบันแตะระดับ 2 แสนล้านบาทต่อปี ประชาชนตอบไม่ได้เลยว่า ประชาชนได้รับความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นอย่างไร เด็ก ๆ ที่เป็นอนาคตของชาติ ได้รับการดูแลเอาใจใส่จากรัฐบาลเพิ่มขึ้นในแง่ไหนบ้าง ประชาชนต้องการ “อาชีพ” ต้องการ “อาหาร” เลิกผลาญซื้อ “อาวุธ” ได้แล้วครับ