นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ อดีตนักการเมืองชื่อดัง เดินลากกระเป๋าเดินทางเข้าที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ บอกว่า ผมแก่แล้วมีเจ้าหน้าที่มาช่วยยกกระเป๋าบ้างไหม ก่อนจะให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนว่า วันนี้ (25 เม.ย.66) ได้ยื่นหนังสือให้ตรวจสอบคลิปวิดีโอที่มีตำรวจท่องเที่ยว 2 นาย ให้บริการอำนวยความสะดวก ลาก และยกกระเป๋าเดินทางบริการให้ทนายตั้ม ษิทรา เบี้ยบังเกิด ขณะอยู่ภายในสนามบินสุวรรณภูมิ เพื่อเตรียมเดินทางไปยังต่างประเทศ โดยมีพนักงานสายการบินยืนเรียงแถวต้อนรับ
"ชูวิทย์" ร้องผบ.ตร. สอบคลิปตร.ท่องเที่ยว อำนวยความสะดวก "ทนายตั้ม" กลางสนามบิน
ข่าวที่น่าสนใจ
ซึ่งพฤติกรรมอันพึงกระทำของตำรวจ ก่อให้เกิดความเสื่อมเสียต่อภาพลักษณ์ขององค์กรตำรวจ จึงขอให้มีคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง ดังนี้
1.เจ้าหน้าที่ตำรวจทั้ง 2 นาย ที่ปรากฏในคลิปวิดีโอ อยู่ในระหว่างเวลาปฏิบัติหน้าที่หรือไม่
2.หากเจ้าหน้าที่ตำรวจทั้ง 2 นาย อยู่ในระหว่างเวลาปฏิบัติหน้าที่ ได้มีการอำนวยความสะดวกให้ประชาชนทั่วไปรายอื่นๆ เช่นเดียวกับที่อำนวยความสะดวกให้กับนายษิทรา หรือไม่
3.หากเจ้าหน้าที่ตำรวจทั้ง 2 นาย ไม่ใด้อยู่ในระหว่างเวลาปฏิบัติหน้าที่การอำนวยความสะดวกของเจ้าหน้าที่ตำรวจทั้ง 2 นายให้กับนายษิทรา สืบเนื่องมาจากการได้รับคำสั่งจากผู้บังคับบัญชารายใดหรือไม่
4.ทุกครั้งที่นายษิทรา เดินทางกลับเข้าประเทศไทย เจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองได้มีการตรวจสอบสัมภาระว่ามีการนำเข้าสินค้าที่ต้องสำแดงภาษี เช่น นาฬิกา กระเป๋า เสื้อผ้า ฯลฯ หรือไม่ เพราะพบว่านายษิทรา มีเสื้อผ้าแบรนด์เนมจากต่างประเทศ มีนาฬิกาหรูยี่ห้อปาเต๊ะฟิลลิป ราคา 6 ล้านบาท กระเป๋าแบรนด์เนม และอื่นๆ อีกจำนวนมาก
ซึ่งการขอให้ตรวจสอบครั้งนี้ ต้องการให้เกิดความชัดเจนในการให้บริการของตำรวจ จะต้องไม่ให้บริการเฉพาะ VVIP เท่านั้น เพื่อไม่เกิดความเหลื่อมล้ำกับประชาชน
ขณะที่พลตำรวจโทอาชยน ไกรทอง โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เป็นตัวแทนรับหนังสือร้องเรียน พร้อมทั้งเปิดเผยว่า พลตำรวจเอก ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ไม่ได้นิ่งนอนใจและสั่งการด่วนให้กองบัญชาการตำรวจท่องเที่ยว ตรวจสอบข้อเท็จจริงดังกล่าวที่เกิดขึ้นโดยละเอียด ว่าการดำเนินการในลักษณะดังกล่าว เกิดขึ้นที่ไหนอย่างไร เป็นตำรวจในสังกัดกองบัญชาการตำรวจท่องเที่ยวหรือไม่ และเป็นการดำเนินการตามอำนาจหน้าที่หรือไม่ รวมทั้งการให้บริการอำนวยความสะดวกดังกล่าว มีความเหมาะสมหรือไม่อย่างไร และได้สั่งการให้ดูแลอำนวยความสะดวกเป็นกรณีพิเศษ หรือใช้อภิสิทธิ์ชน จนกระทบต่อภาพลักษณ์ขององค์กรหรือไม่ หากพบว่าเป็นความผิดให้ดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ โดยรายงานผลให้ทราบโดยเร็ว
นอกจากนี้ ยังได้สั่งให้ทบทวนการดูแลอำนวยความสะดวกประชาชนของเจ้าหน้าที่ กำหนดขอบเขตการทำงานให้ชัดเจน ไม่เป็นการเลือกปฏิบัติ หรือเกินความเหมาะสม เพื่อให้มีมาตรฐานการปฏิบัติงานเป็นมาตรฐานเดียวกัน ไม่เกิดความเหลื่อมล้ำ
ข่าวที่เกี่ยวข้อง