“บิ๊กตู่” นำทัพเศรษฐกิจรทสช. แถลงนโยบายสร้างรายได้ปท. เติมเงินพัฒนาคุณภาพคน ขยายโครงสร้างพื้นฐาน ลดเหลื่อมล้ำ สร้างสังคมเท่าเทียม

“บิ๊กตู่” นำทัพทีมเศรษฐกิจ พรรครวมไทยสร้างชาติ โชว์นโยบายเศรษฐกิจชุดใหญ่ ลดความเหลื่อมล้ำ สร้างสังคมเท่าเทียม ย้ำขอเป็นพรรคหลักจัดตั้งรัฐบาล

วันนี้ (26 เม.ย.) ที่พรรครวมไทยสร้างชาติ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ประธานคณะกรรมการกำหนดแนวทางและยุทธศาสตร์พรรค ในฐานะแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรครวมไทยสร้างชาติ พร้อมด้วยนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรค นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ ที่ปรึกษาทีมเศรษฐกิจ นายสุชาติ ชมกลิ่น รองหัวหน้าพรรค และนายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ เลขาธิการพรรค

 

 

 

 

 

 

พล.อ.ประยุทธ์ ยืนยันว่า เป็นความตั้งใจของพรรคที่จะสานต่อโครงการต่าง ๆ ที่รัฐบาลปัจจุบันได้ดำเนินการไปแล้ว ซึ่งมีผลชัดเจนว่าทำให้ประชาชนมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น และสามารถช่วยให้ประชาชนคลายความเดือดร้อนในช่วงวิกฤตเศรษฐกิจ และพรรคพร้อมเดินหน้าขับเคลื่อนอีกหลายโครงการเพื่อแก้ไขปัญหาของประเทศ ทั้งระบบเศรษฐกิจมหภาค เพิ่มศักยภาพให้ประเทศ และเศรษฐกิจจุลภาค แก้ปัญหาปากท้อง ความเป็นอยู่ของประชาชนทุกกลุ่ม ทุกอาชีพ และทุกช่วงวัย ตั้งแต่แรกเกิดถึงวัยชรา เพราะความเดือดร้อนของประชาชนไม่สามารถรอได้ ทางพรรคจึงเสนอนโยบายที่ครอบคลุมทั้งด้านเศรษฐกิจและสังคม ที่พร้อมนำพาประเทศไปข้างหน้า และช่วยแบ่งปัญหาและสร้างโอกาสใหม่ ๆ ให้ชีวิตให้ประชาชน

 

 

นโยบายแต่ละด้าน มีทั้งนโยบายหาเงินเข้าประเทศ 4 ล้านล้านบาท ต่อยอดไอเดีย EEC เพิ่มระเบียงเศรษฐกิจอีก 4 ภาค และยังมีการลงทุนในด้านสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐาน 3 ล้านล้านบาท ซึ่งทำให้ประเทศไทยมีการคมนาคม ทั้งทางถนน ทางราง ทางน้ำที่สมบูรณ์ สามารถลดค่าขนส่งสินค้าภายในประเทศ และที่ส่งออกไปยังต่างประเทศได้เป็นอย่างดี

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวอีกว่า สาธารณูปโภคขั้นพื้นฐาน ไม่ว่าจะเป็นดิจิทัล หรือระบบกายภาพที่สมบูรณ์ ที่รัฐบาลได้ไปปักธงที่ต่างประเทศว่าประเทศไทยจะลดคาร์บอนให้เหลือ 0% ภายในปี 2050 และไทยจะไร้คาร์บอนไดออกไซด์ ทำให้ไทยเป็นฐานของอุตสาหกรรมใหม่ที่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานสะอาด ปรับเลี่ยนมาใช้รถ EV ที่ขยายถึง 15% สามารถต่อยอดได้อีก รวมทั้งขยายแนวคิดของ BCG ให้เป็นอุตสาหกรรมใหม่ของประเทศ และต่อยอดไอเดียของ EEC 4 ภาค

ทั้งนี้การเพิ่มรายได้ให้ประเทศปีละ 4 ล้านล้านบาท จะทำให้เศรษฐกิจโตปีละ 5% รายได้ต่อคนเพิ่มขึ้นปีละ 20,0000 บาท สามารถสร้างงานเพิ่มได้ 6.25 แสนตำแหน่ง

สำหรับนโยบายแก้ปัญหาหนี้ครัวเรือน แช่แข็งหนี้สูงสุด 3 ปี แก้กฎหมายเครดิตบูโรให้ความเป็นธรรมแก่ลูกหนี้ และตั้งกองทุนฉุกเฉินประชาชน 3 หมื่นล้าน หนี้ครัวเรือนเป็นปัญหาที่สะสมมานาน นโยบายของพรรครวมไทยสร้างชาติเราจะให้ความสำคัญกับเรื่องหนี้ และมีที่พึ่งยามยากด้วยกองทุนฉุกเฉินประชาชน 3 หมื่นล้าน เพื่อปลดพันธนาการเงินนอกระบบ

ส่วนนโยบายช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อย ให้ทุนช่วยนักเรียนยากจนได้เรียนหนังสือจนจบมัธยม ช่วยผู้สูงอายุ คนพิการมีที่อาศัย เน้นในการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ โดยเฉพาะเรื่องของเด็กที่มีมากถึง 50% ที่เริ่มต้นเรียน ป.1 แต่ไม่สามารถจบการศึกษาระดับมัธยมปลายได้เพราะยากจน และนโยบายสร้างเด็กไทย ด้วยโครงการอยากเรียนอะไรต้องได้เรียน มอบทุนการศึกษาอาชีวะ 100 ทุน ต่อ 1 อำเภอ รวมถึงโครงการ เรียนจบมีงานทำ

ด้านการดูแลผู้สูงอายุ และผู้พิการที่มีที่พักอาศัยไม่เหมาะสม พล.อ.ประยุทธ์ เผยว่า ได้ซ่อมแซมแล้ว 180,000 ครอบครัว และยังทำต่อเนื่องทุกปี ได้หาที่อยู่อาศัยให้ผู้มีรายได้น้อย ทั้งในเมืองและต่างจังหวัด กับโครงการบ้านเช่า เดือนละ 999 บาท ครอบคลุม 13,000 ครอบครัว ขณะนี้มีโครงการที่อยู่ในขั้นตอนก่อสร้างและในอนาคตจะทำให้ครบ 100,000 หลัง ในส่วนของแม่และเด็กอ่อนได้ดูแลเด็กแรกเกิดให้ได้รับการช่วยเหลือค่านม เดือนละ 600 บาท เพื่อให้เด็กอ่อนมีการพัฒนาการที่เหมาะสม

ข่าวที่น่าสนใจ

 

 

 

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวต่อว่า ตนมีวิสัยทัศน์และเป็นวิสัยทัศน์ที่ทำมาแล้วคือมั่นคงมั่งคั่งอย่างยั่งยืน จะเห็นว่าการวาดภาพอนาคตว่าอนาคตข้างหน้าในอีกกี่ปี เราจะมีพื้นฐานอยู่บนความมั่นคงในทุกมิติ และเรื่องความมั่งคั่งของประชาชนทุกกลุ่ม ทุกฝ่าย ทุกวิชาชีพ ทุกรายได้ยั่งยืนไม่ใช่ทำปุ๊บปั๊บ แล้วไม่ทำโครงสร้างต่างให้ดีขึ้น ให้เกิดการพัฒนาต่อเนื่อง ก็จะไปไม่ได้อยู่ดี ไม่เกิดความยั่งยืน พร้อมกับกล่าวว่า ตนอยากให้นโยบายเราเป็นพรรคที่เรียกว่าเป็นพรรคหลัก ในอนาคต ถ้าเราสามารถที่จะเข้ามาในสภาฯ ได้มาก เราก็สามารถดำเนินการตรงนี้ให้ดีขึ้นกว่าเดิม เพราะการเลือกตั้งเราก็ได้รัฐบาลผสมหลายพรรคตั้งขึ้นมา แต่ละพรรคก็มีนโยบายของตัวเอง เหมือนกับนักฟุตบอลต่างสโมสรมาเข้าทีมแข่งขันทีมชาติมันก็มีปัญหาหมด เวลาการประชุมอะไรต่างๆ ก็ต้องนำคำนึงถึงนโยบายพรรคด้วย ผมขอร้องให้ทุกคนได้มองถึงนโยบายของรัฐบาลด้วย เพราะเป็นนโยบายถึงภาพรวม

“ทุกพรรคทุกคนมุ่งหวังที่จะทำงานในหน้าที่พันธกิจ แต่ละกระทรวงของแต่ละพรรค โดยมีการบูรณาการกับหน่วยงาน เพื่อให้ปรับ ควบคู่กับยุทธศาสตร์ และในฐานะประธานยุทธศาสตร์พรรค ตนจะพูดในสิ่งที่ตนคิด นำข้อมูลจากหลายฝ่ายมาประมวล ด้วยตนเอง ตนเป็นคนชอบเอามาคิดเอาข้อมูลต่างๆที่มีอยู่ในปัจจุบันมาคิด มารังสรรค์ มาสร้างและให้หน่วยงานต่าง ๆ ไปพิจารณาว่าจะทำอะไรอย่างไรได้บ้างควรจะเติมอะไรตรงไหน”

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า หากได้เป็นรัฐบาลจะต้องคิดให้รอบคอบ ให้อยู่ในกรอบ ควรจะคิดกำหนดนโยบายต่าง ๆ จะต้องหาคำตอบให้ได้ว่าเป้าหมายนโยบายคืออะไร และผลที่ต้องการคืออะไร ไม่ใช่มีนโยบายออกไปแล้วหาเงินไม่ได้มันทำไม่ได้หรอก แล้วใครจะได้ประโยชน์ใครจะได้รับผลกระทบมีผลข้างเคียงอะไรอย่างไร

“นี่คือบุคลากรที่มีคุณภาพทั้งสิ้น ทำแล้ว ทำอยู่ ก็มีโอกาสที่จะทำต่อ หลายท่านก็ยังทำงานอยู่ในพื้นที่ ซึ่งพรรครวมไทยสร้างชาติไม่ใช่พรรคที่มีเฉพาะคนอายุเยอะ แต่มีทุกช่วงวัย เราดูแลคนทุกวัย นี่คือประเทศไทยของเรา ประชาชนของเรา หากรอฟังเฉพาะให้ไอ้นี่ได้ ไอ้นั่นได้ แล้วไม่ต่อเนื่อง ไม่ยึดโยงกับสิ่งที่ตนพูด จะทำให้ทุกอย่างไปต่อไม่ได้ เราต้องระมัดระวังในการบริหารราชการแผ่นดิน”

 

 

 

รวมทั้งต้องทำในสิ่งที่ทำได้ ทำให้เป็น ทำให้ถูก ทำให้ตรงกลุ่มเป้าหมาย ตรงกับสิ่งที่ประชาชนเรียกร้องให้ได้มากที่สุด เพราะฉะนั้นนโยบายที่แถลงจะเกี่ยวข้องกับปากท้องและความเป็นอยู่ของประชาชน หลายเรื่องเป็นนโยบายที่ทำแล้วทำอยู่ทำต่อนโยบายใน 1 ปี 2 ปี เราจะทำอะไรบ้าง จะค่อย ๆปล่อยออกไป แต่ก็ขึ้นอยู่กับอายุรัฐบาล แต่หากเอาหลักการเหล่านี้มาก็จะต่อเนื่องไปโดยตลอด สิ่งเหล่านี้เป็นนโยบายที่เกิดขึ้นได้จริงมีการหาข้อมูลสำรวจเป็นข้อมูลจากหลายภาคส่วน และมาช่วยกันดูที่ใช้วิธีการอย่างไร และจะใช้งบประมาณเท่าใด มีเงินหรือไม่ และจะหาเงินอย่างไร มาจากที่ไหน พร้อมยืนยันว่านโยบายที่แถลงในวันนี้สามารถทำได้อย่างแน่นอน

 

 

แต่สิ่งสำคัญคือจะทำอย่างไร ให้ประเทศที่มีรายได้เสียเงินล้านล้านบาทเพื่อที่จะสามารถดูแลคนได้ทุกกลุ่มทุกเป้าหมายทำให้เขามีชีวิตคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นถ้าสิ่งสำคัญที่สุดคือที่ตนเป็นกังวลคือการศึกษา การเกษตร ก็คือคนส่วนใหญ่ของประเทศจะต้องมีการปรับผมพยายามทำมาหลายปีแล้วจะต้องไปดูเรื่องกฎหมายโดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องการศึกษา แต่ทั้งหมดต้องอาศัยความร่วมมือความเข้าใจ เราบังคับไม่ได้ หากบังคับก็ไม่สำเร็จสักที “ประชาชนคือความรับผิดชอบของรัฐบาล ต้องปรับปรุงและแก้ไข ต้องเจอเรื่องพวกนี้ทั้งนั้นไม่ว่าใครจะเป็นรัฐบาล”

 

 

ด้านนายพีระพันธุ์ กล่าวว่า นโยบายของพรรครวมไทยสร้างชาติ สะท้อนมาจากหลายส่วน หลายคนบอกว่าเราเป็นพรรคเกิดใหม่ แต่เป็นพรรคเกิดใหม่ที่มีบุคลากรที่มากคุณภาพและประสบการณ์ ทั้งนี้การกำหนดนโยบายของพรรคจะคำนึงถึงวุฒิภาวะ และความรับผิดชอบต่อบ้านเมือง เราไม่ได้คิดกำหนดนโยบายเพื่อให้ได้คะแนนเสียง หรือนโยบายเกทับ แค่เรารับผิดชอบต่อการเมือง และสถานะทางเศรษฐกิจของประเทศด้วย

 

 

โดยมีการกำหนดนโยบายที่แก้ปัญหาให้กับประชาชนทุกช่วงวัย พร้อมนำความรู้และประสบการณ์ของ พล.อ.ประยุทธ์ มากำหนดแนวทางของนโยบายพรรค ยกตัวอย่างนโยบายเด็กเล็ก ดูแลเด็กแรกเกิดจนถึงอายุ 10 ปี เมื่อเด็กโตขึ้นก็ให้โอกาสทางการศึกษา สนองต่อความต้องการของตลาดแรงงาน และนโยบายแก้ปัญหาหนี้สินอย่างเป็นธรรมและเหมาะสม

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

ชาวบ้าน 2 ตำบลเฮ ขอบคุณป่าไม้ที่อนุญาติให้ อบต.สร้างถนนลัดไปอำเภอ หลัง สว.สุรินทร์ หารือในการประชุมวุฒิสภาช่วยแก้ปัญหาชาวบ้าน เป็นของขวัญปีใหม่
"แม่สามารถ" ยื่นจดหมายลับใส่มือนักข่าว อ้างไม่ได้รับความเป็นธรรม
“ปรเมศวร์” เตือน “อธิบดีกรมที่ดิน” เสี่ยงโดนม.157 ปมเขากระโดง
ผู้จัดการตลท. พร้อมให้ข้อมูล คดี “หมอบุญ” เตือนนักลงทุน ใช้สติก่อนตัดสินใจ
“บิ๊กน้อย” การันตี แจงแทน “บิ๊กป้อม” ไม่โทรให้ใครช่วย “สามารถ”
“ไอซ์ รักชนก” เตรียมระทึกอีก ศาลนัดฟังคำสั่งถอนประกัน 11 ธ.ค.นี้ ลุ้นชี้ชะตาจะรอดคุกหรือไม่
ชาวบ้านบุกรุกพื้นที่อุทยานขุดพรุน 14 ไร่ หาแร่ทองคำล้ำค่า เจ้าหน้าที่บุกจับแจ้ง 6 ข้อหาอ่วม
“ณัฐวุฒิ” ไม่เชื่อมีม็อบใหญ่ไล่รัฐบาล หยันหากมีก็แค่ ‘กองเชียร์ส้ม’ ในคราบอนุรักษ์นิยม
“ทนายสายหยุด” หน้าชา! “ทนายเดชา” ซัดคบไม่ได้-ขายลูกความ ไม่เชื่อ “ทนายตั้ม” ค้านประกันเมีย
รองพ่อเมืองกรุงเก่า ร่วมงานวิ่ง 'CPF & KASETPHAND RUN FOR CHARITY 2024' มอบรายได้แก่ 4 โรงพยาบาล ใน จ.พระนครศรีอยุธยา

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น