จากกรณีที่ผู้ใช้เฟซบุ๊ก Vachara Riddhagni ได้โพสต์ข้อความว่า ข้อพิจารณาเพิ่มเติมการให้สัมภาษณ์ของนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ นักการเมือง ในคำให้สัมภาษณ์กับนายสรยุทธ 2 เรื่องที่เขากุขึ้นมา
1. ถูกควบคุมตัวที่กองทัพอากาศ ดอนเมือง จนมางานศพไม่ทันแท้จริงแล้ว เขาถูกกักตัวที่ กองทัพอากาศเพราะวันนั้น คมช.ยึดอำนาจแล้วและตัวเขาเองก็ให้สัมภาษณ์ครั้งแรก 2552 ว่า “ถูกกักตัวเพียง 4-5 ชั่วโมงเท่านั้นเพราะว่าเหตุการณ์กำลังตึงเครียด(ระวังกองทัพอากาศอาจจะฟ้องหมิ่นประมาทให้ร้ายกองทัพอากาศได้นะ)” แต่มาให้สัมภาษณ์ปีนี้ว่า “ถูกกักตัวจนมางานศพพ่อไม่ทัน” งานสวดศพคุณพงษ์ศักดิ์นั้น คืนแรกผมก็ไปและได้เจอนายพิธาด้วย”
คุณพ่อเขาเป็นเพื่อนรุ่นน้องที่เคยทำงานด้วยกันที่ อตก.และ พูดคุยกันบ่อย พี่ชายหรือลุงนายพิธารู้ดีเพราะเป็นเพื่อนรุ่นที่สนิทกันพอควร แม้ก่อนเสียชีวิตนั้นผมแนะนำว่าคุณพงษ์ศักดิ์ว่า ควรจะไปโรงพยาบาลศิริราช เพราะเกิดอาการไอต่อเนื่องไม่ทราบสาเหตุ ผมแนะนำเพราะคิดว่าต้องมีการวินิจฉัยอย่างละเอียดด้วยอุปกรณ์ที่ทันสมัยและมีนักวิทยาศาสตร์การแพทย์ประจำห้องแลป ยังคุยกันอยู่ก่อนตายครับ
2. นายพิธากุเรื่องให้เป็นดราม่าว่า “ต้องวิ่งหาเงินทำศพพ่อ” ไร้สาระจริง อยากสร้างดราม่าเพื่อให้คนสงสาร คุณพงษ์ศักดิ์เป็นนักธุรกิจฐานะเศรษฐี อีกทั้งตระกูลนี้มีฐานะร่ำรวยจากเป็นผู้นำเข้าเชือกมะนิลาผู้เดียวในช่วงสงครามมหาเอเชียบูรพามีห้างในสำเพ็ง
ก่อนคุณพงษ์ศักดิ์เสียชีวิตคุณพงษ์ศักดิ์บริหารกิจการกว่า 10 กว่าบริษัท นายพิธา มาสร้างดราม่าเขาไม่มีเงินเพราะถูกควบคุม คสช.ไม่เคยควบคุมการเงินของตระกูลนี้เลยครับ (ผมต้องรู้ครับเพราะลุงของพิธามีโยงใยกับเพื่อนทหารหลายคนและคงต้องแจ้งให้พวกเราทราบและบุคคลในตระกูลนี้ไม่มีใครถูก คสช.
ก่อนหน้านี้ผู้ใช้เฟซบุ๊ก Vachara Riddhagni โพสต์ข้อความว่า อรัมภบท : อนุสนธิจากเมื่อคืนนี้ที่ว่าผมจะ “ชี้พฤติกรรมที่บ่งชี้ว่านักการเมืองคนนี้ ที่ไม่มีธรรมะขาดความสัตย์และมีอคติอย่างไร้ยางอายไม่มีหิริโอตตัปปะ”
นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ เป็นนักการเมืองคนนั้นที่ผมจำเป็นต้องชี้ถึงจุดอ่อนของการเป็นผู้นำทางการเมืองและไม่ควรจะเอาเยี่ยงอย่าง ผมกับนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ไม่เคยมีความบาดหมางกันเป็นการส่วนตัวและเราเคยเจอกันในงานศพคุณพ่อของเขาซึ่งเป็นเพื่อนรุ่นน้อง BCC เคยทำงานร่วมกันที่ อตก.จตุจักร เคยเสวนาสังสรรค์กันหลายครั้ง ผมพอรู้จักตระกูลนี้เพราะลุงของเขาเป็นเพื่อนรุ่นนักเรียนผมเอง
เรื่องที่นายพิธาให้สัมภาษณ์โทรทัศน์ 2 วาระ 2 สถานี 2 คนที่สัมภาษณ์แต่เนื้อหาคนละเรื่อง ที่สำคัญนายพิธาจำวันเสียชีวิตของบิดาไม่ได้ ซึ่งมีคำให้สัมภาษณ์ในคลิป ซึ่งในคลิปนายพิธาให้สัมภาษณ์ว่าคุณพ่อตายวันที่ 19 ก.ย.49 แต่ความจริงคุณพ่อเขาตาย 18 วันตายพ่อยังจำไม่ได้ดีเลยและ/หรือไม่ตรวจสอบให้แน่ชัด (ผมมีหนังสืองานศพคุณพ่อของเขายืนยันได้) ทั้งยังโกหกเรื่องถูกจับหรืออะไรทำนองนั้นแต่เขาสร้างเรื่องขึ้นมาอ้างในการให้สัมภาษณ์ครั้งกับนายสรยุทธ
นายพิธา ในคลิปหนึ่ง เมื่อให้สัมภาษณ์ครั้งแรก เล่าว่าตัวเองเป็นนักศึกษาต้องการกลับบ้านมางานศพคุณพ่อแต่อีกคลิปหนึ่ง สัมภาษณ์ครั้งหลัง อ้างว่าเป็นที่ปรึกษา ดร.สมคิดจาตุศรีพิทักษ์ รมว.กระทรวงพาณิชย์ ขณะนั้น ผมคิดว่า “ข้าราชการกระทรวงพาณิชย์ย่อมรู้ดีและคณะเลขานุการ รมว.พาณิชย์ก็สามารถยืนยันได้ว่าจริงหรือไม่จริง”
สังคมจับโกหกนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ 2 ครั้ง คือเขาอภิปรายในสภาว่า “จะยกเลิกเงินบำนาญข้าราชการเกษียณเพราะเป็นช้างป่วยเป็นภาระของชาติ” อะไรทำนองนั้น แต่ก่อนกฎหมายเลือกตั้งจะประกาศใช้บังคับ เขาปฏิเสธว่าไม่เคยมีแนวคิดเช่นนั้แต่มีคลิปของเขาอภิปรายไว้ชัดเจนถึงอคติกรรมในใจเขา
นายพิธา มีอคติจงใจที่จะชี้นำการรัฐประหาร19 กันยายน 2549 เพราะนายพิธา เสียประโยชน์แน่นอนเพราะเป็นหลานอาของนายผดุง ลิ้มเจริญรัตน์ เลนุการส่วนตัวของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีหนีคุก และการให้สัมภาษณ์เช่นนั้นเป็นการขอความเห็นใจจากสังคมเสมือนว่า “เขาถูกรังแกโดยฝ่ายทหาร” ซึ่งไม่เป็นความจริง