ปธน.สี ต่อสายคุยกับปธน.เซเลนสกีแล้ว ชี้การเจรจาเป็นทางออกเดียวที่จะยุติสงคราม พร้อมย้ำความเป็นกลาง ไม่เติมไฟให้สถานการณ์บานปลาย
หยู จุน รองผู้อำนวยการฝ่ายยูเรเซีย กระทรวงการต่างประเทศจีนแถลงว่า ประธานาธิบดี สี จิ้นผิง ได้ต่อสายตรงถึงประธานาธิบดี โวโลดิมีร์ เซเลนสกี ผู้นำยูเครนแล้ว ซึ่งนับเป็นการพูดคุยตรงครั้งแรก นับตั้งแต่รัสเซียเข้าทำสงครามในยูเครนเป็นต้นมา
โดยสีบอกเซเลนสกีว่า การเจรจาเป็นทางออกเดียวที่จะยุติสงครามได้ พร้อมระบุว่า จีนจะไม่เอาแต่ดูไฟไหม้ที่เกิดจากด้านหนึ่ง หรือเติมเชื้อไฟให้อีกด้านหนึ่ง และจะไม่มีการฉวยโอกาสเพื่อหาประโยชน์จากสถานการณ์ นอกจากนี้ยังเรียกร้องให้ทุกฝ่ายสงบและอดกลั้น เมื่อต้องรับมือกับความขัดแย้งที่อาจลุกลามกลายเป็นการเผชิญหน้ากันที่รุนแรงขึ้น ไม่มีใครเป็นผู้ชนะได้ในสงครามนิวเคลียร์
ด้านเซเลนสกีได้กล่าวบนทวิตเตอร์ว่า การพูดคุยนานร่วม 1 ชั่วโมงนั้น เป็นการสนทนาที่ยาวนานและมีความหมาย และการนัดพบกันระหว่างเอกอัครราชทูตยูเครนในจีน กับรัฐบาลจีนที่จะมีขึ้น จะเป็นแรงผลักดันอันทรงพลังในการพัฒนาความสัมพันธ์ทวิภาคี
นอกจากนี้ สี สัญญาว่า จะส่งทูตพิเศษไปยังยูเครนและประเทศอื่นๆ เพื่อสื่อสารเชิงลึกเกี่ยวกับการแก้ปัญหาความขัดแย้ง
สหรัฐและสหภาพยุโรปต่างก็แสดงความยินดีในการพูดคุยดังกล่าว จอห์น เคอร์บี โฆษกทำเนียบขาวด้านความมั่นคงสหรัฐให้สัมภาษณ์ว่า การโทรศัพท์หารือครั้งนี้เป็นสิ่งที่ดี ต่อคำถามที่ว่า การพูดคุยครั้งนี้จะกลายเป็นก้าวที่ยิ่งใหญ่สู่สันติภาพหรือไม่ เคอร์บีตอบว่า ผมไม่คิดว่าเราจะรู้ได้ ส่วน โจเซป บอร์เรลล์ หัวหน้านโยบายต่างประเทศของสหภาพยุโรปกล่าว ระหว่างการเยือนโคลอมเบียว่า ยินดีกับการสนทนานี้ หวังว่านี่จะเป็นก้าวแรกสำหรับจีน ที่จะมีบทบาทในการโน้มน้าวให้รัสเซียหยุดสงคราม
ทั้งนี้ในเดือนกุมภาพันธ์ ปักกิ่งได้เปิดเผยแผนงาน 12 ข้อเพื่อสันติภาพระหว่างรัสเซียและยูเครน โดยแสดงความเต็มใจที่จะมีส่วนร่วมในการไกล่เกลี่ยยุติการสู้รบ และปฏิเสธที่จะประณามรัสเซียหรือกำหนดมาตรการคว่ำบาตรแบบที่ชาติตะวันตกเรียกร้อง โดยจีนวิจารณ์รัสเซียที่โจมตียูเครน แต่ก็เห็นด้วยว่า การขยายตัวของนาโต้ใกล้ชายแดนตะวันตกของรัสเซียเป็นหนึ่งในสาเหตุหลักของความขัดแย้ง