“ดร.สามารถ” มั่นใจวิสัยทัศน์ปชป.นำพัฒนาหาดใหญ่เป็น HUB ภูมิภาค

"ดร.สามารถ" มั่นใจวิสัยทัศน์ปชป.นำพัฒนาหาดใหญ่เป็น HUB ภูมิภาค

สืบเนื่องจากการทีมเศรษฐกิจพรรคประชาธิปัตย์ นำโดย ดร.พิสิฐ ลี้อาธรรม อดีตรมช.กระทรวงการคลัง และประธานคณะกรรมการนโยบายพรรคประชาธิปัตย์ ดร.สามารถ ราชพลสิทธิ์ อดีตรองผู้ว่าฯกทม. ผู้เชี่ยวชาญด้านคมนาคมขนส่งโครงสร้างพื้นฐาน และโครงการขนาดใหญ่ และ ม.ร.ว.ศศิพฤนท์ จันทรทัต อดีตซีอีโอ บล. กรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) ได้นำแถลงนโยบาย เรื่อง “แนวทางการพัฒนาเศรษฐกิจปลายด้ามขวานไทย”

และ ดร.สามารถ ได้นำเสนอรายละเอียด เรื่อง “เมกะโปรเจกต์ ดันหาดใหญ่ เชื่อมไทย-เชื่อมโลก” โดยระบุว่า เนื่องเพราะหาดใหญ่มีทำเลยุทธศาสตร์ในการเป็นศูนย์กลางการคมนาคมขนส่งของภาคใต้ จึงถึงเวลาแล้วที่จะต้องขับเคลื่อนหาดใหญ่ด้วยระบบขนส่งที่มีประสิทธิภาพ เพื่อผลักดันให้หาดใหญ่เป็นขุมทองทางเศรษฐกิจของปลายด้ามขวานไทย โดยพรรคประชาธิปัตย์มีนโยบายการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่งในหาดใหญ่ และพื้นที่ใกล้เคียงดังนี้

1. โมโนเรล คือรถไฟฟ้า ที่เริ่มต้นจากองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) สงขลา สมัยนายนิพนธ์ บุญญามณี เป็นนายก อบจ. ในการคิดก่อสร้างรถไฟฟ้ารางเดี่ยวหรือโมโนเรลขึ้น โดยระยะที่ 1 มีระยะทางยาว 13 กิโลเมตร วงเงินประมาณ 16,000 ล้านบาท มี 15 สถานี ประกอบด้วยสถานีควนลัง แยกสนามบิน รถตู้ หาดใหญ่ใน ชุมทางรถไฟหาดใหญ่ ตลาดกิมหยง น้ำพุ หาดใหญ่วิทยาลัย บิ๊กซี คอหงส์ มอ. คลองเรียน เซ็นทรัล คลองหวะ และบ้านพรุ ระยะที่ 2 จะขยายเส้นทางจากสถานีน้ำพุไปยังถนนลพบุรีราเมศร์ และจากสถานีคอหงส์ไปยังสวนสาธารณะหาดใหญ่ ส่วนระยะที่ 3 จะมีเส้นทางเชื่อมระหว่างสถานีหาดใหญ่ในกับสถานีคลองเรียนโดยวิ่งผ่านโรงเรียนพัฒนศึกษาและศูนย์การค้าไดอาน่า

2. รถไฟทางคู่หาดใหญ่-ปาดังเบซาร์ รถไฟทางคู่หมายถึงทางรถไฟที่ประกอบด้วยเหล็กรางรถไฟ 4 ราง หรือใช้เหล็กรางรถไฟ 4 เส้น จากการที่พรรคประชาธิปัตย์ริเริ่มโครงการรถไฟทางคู่ขึ้นมาเมื่อปี พ.ศ. 2536 และจะเดินหน้าก่อสร้างรถไฟทางคู่ต่อไปให้ครอบคลุมทั่วประเทศ โดยจะเร่งผลักดันโครงการรถไฟทางคู่หาดใหญ่-ปาดังเบซาร์ ซึ่งเป็นรถไฟที่ขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้า เพื่อรองรับรถไฟจากประเทศมาเลเซียที่ขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้าเช่นเดียวกัน

ทั้งนี้ รถไฟทางคู่หาดใหญ่-ปาดังเบซาร์ ระยะทาง 45 กิโลเมตร มีมูลค่าโครงการประมาณ 6,700 ล้านบาท พร้อมการเชื่อมต่อไปสู่กรุงเทพฯ กับรถไฟทางคู่ซึ่งดำเนินการสร้างมาถึงชุมพรแล้ว และเมื่อมีรถไฟทางคู่จากหาดใหญ่ถึงกรุงเทพฯ เวลาการเดินทางจะลดลงจาก 16 ชั่วโมง เหลือเพียง 8-10 ชั่วโมงเท่านั้น ประหยัดเวลาลงได้ครึ่งหนึ่ง

3.มอเตอร์เวย์หาดใหญ่-สะเดา โดยพรรคประชาธิปัตย์เป็นผู้จัดทำแผนแม่บทมอเตอร์เวย์ทั่วประเทศ และได้ก่อสร้างมอเตอร์เวย์เส้นทางแรกของประเทศไทยคือเส้นทางกรุงเทพฯ-ชลบุรี เมื่อปี พ.ศ. 2537 ซึ่งพรรคจะเดินหน้าก่อสร้างมอเตอร์เวย์ต่อไป โดยจะเร่งผลักดันโครงการก่อสร้าง “มอเตอร์เวย์จตุรทิศ” เชื่อมใต้สุดกับเหนือสุด และตะวันตกกับตะวันออกของประเทศไทย ประกอบด้วย 3 เส้นทาง คือ (1) เส้นทางสุไหงโกลก-พัทลุง-ทุ่งสง-นครปฐม ระยะทาง 1,100 กิโลเมตร ซึ่งจะทำให้ทุ่งสงเป็นศูนย์กลางการกระจายสินค้าของภาคใต้ (2) เส้นทางด่านแม่สาย/ด่านเชียงของ-เชียงใหม่-บางปะอิน ระยะทาง 853 กิโลเมตร และ (3) เส้นทางแม่สอด-มุกดาหาร-นครพนม ระยะทาง 710 กิโลเมตร สำหรับมอเตอร์เวย์หาดใหญ่-สะเดานั้น มีระยะทาง 71 กิโลเมตร วงเงิน 40,787 ล้านบาท

4.สะพานเชื่อมเกาะสมุย โดยจะเกิดขึ้นระหว่างบริเวณด้านใต้ของแหลมทาบ (หรือแหลมประทับ) ซึ่งตั้งอยู่ทางใต้ของท่าเรือดอนสักและเป็นพื้นที่ใน อ.ขนอม จ.นครศรีธรรมราช ไปที่แหลมหินคมบนเกาะสมุย ระยะทางประมาณ 18 กิโลเมตร ส่วนรูปแบบสะพานจะเป็นสะพานขึง (Cable Stayed Bridge) มีจำนวน 4 ช่องจราจร หรือข้างละ 2 ช่องจราจร และหากมีสะพานเชื่อมเกาะสมุยจะใช้เวลาข้ามทะเลแค่เพียงประมาณ 20 นาทีเท่านั้น

 

ข่าวที่น่าสนใจ

ล่าสุด ดร.สามารถ ได้ให้สัมภาษณ์พิเศษเพิ่มเติม กับทีมข่าว Top News ถึงแนวคิดการพัฒนาหาดใหญ่ สงขลา ให้เป็นศูนย์กลางเชื่อมภูมิภาค ว่า เมกะโปรเจกต์ที่เป็นแนวคิดของพรรคประชาธิปัตย์เกิดขึ้น เพราะก่อนหน้านี้ทีมเศรษฐกิจได้ทำการศึกษาและเห็นว่าหาดใหญ่มีทำเลยุทธศาสตร์ ที่สามารถเป็นศูนย์กลางการคมนาคมการขนส่งของภาคใต้ได้

กอรปกับช่วงจังหวะเหมาะสม เราจึงได้นำเสนอนโยบายการหาดใหญ่โมเดล ออกนำเสนอต่อสาธารณะ โดยการขับเคลื่อนระบบขนส่งที่มีประสิทธิภาพเพื่อผลักดันให้หาดใหญ่เป็น ศูนย์กลางปกครองทางเศรษฐกิจของปลายด้ามขวานไทย

“โครงการที่พรรคประชาธิปัตย์ อยากให้เกิดขึ้นที่หาดใหญ่มีหลายโครงการ ผมยกตัวอย่างเช่น โครงการรถไฟฟ้ารถไฟฟ้าโมโนเรลเป็นรถไฟที่วิ่งคล่อมรางใช้รางเดียวเท่านั้น ที่นิยมใช้กันมากแบบคล่อมราง แต่มีแบบอื่นแขวนห้อยอยู่ใต้ราง โดยเวลานี้แบบโครงการเสร็จแล้ว ผลการศึกษาสิ่งกระทบสิ่งแวดล้อม หรือ EIA ก็เสร็จแล้ว รอแค่ผลักดันเงินงบประมาณเพียงอย่างเดียว และเงินงบประมาณ หนึ่งหมื่นหกพันล้านบาท ถือว่าไม่มากเมื่อเปรียบเทียบกับงบประมาณใช้ก่อสร้างรถไฟฟ้าหลายสายในกรุงเทพมหานคร ถึงประมาณหนึ่งล้านล้านบาท”

“แนวเส้นทางที่กำหนดไว้จะยาวประมาณ 13 กิโลเมตร จำนวน 15 สถานี เริ่มจากสถานีควนลัง แยกสนามบิน รถตู้หาดใหญ่ใน ชุมทางรถไฟหาดใหญ่ ไปกิมหยง ไปสระน้ำ บิ๊กซี คอหงส์ ม.อ. คลองเรียน คลองหวะ จนถึงบ้านพรุ นั่นคือระยะที่หนึ่ง ระยะที่สองก็จะมีการเชื่อมต่อจากสถานีน้ำพุ จนไปถึงลพบุรีราเมศวร์ จากคอหงส์ไปที่สวนสาธารณะหาดใหญ่ครับนั่นคือระยะที่สอง ระยะที่สามคือการเชื่อมโยงระหว่างสถานีหาดใหญ่ในกับคลองเรียนผ่านทางศูนย์การค้าไดอาน่า โรงเรียนพัฒนศึกษา นั่นเป็นสามระยะ โดยในระยะแรก ถ้าทุกอย่างพร้อม ได้งบประมาณมามีผู้สนใจมาร่วมลงทุนด้วย คิดว่าการก่อสร้างใช้เวลาไม่นาน ถ้าไม่มีปัญหาเรื่องเวนคืน”

ดร.สามารถ เน้นย้ำว่า โครงการนี้ถ้าเสร็จแล้วจะช่วยแก้ปัญหารถติดในเมืองหาดใหญ่ และสามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวมาเที่ยวได้เป็นจำนวนมากขึ้น หลังจากนักท่องเที่ยวมาเลเซีย สิงคโปร์ เริ่มเข้ามาในหาดใหญ่แล้ว และถ้าวันหนึ่งมีนักท่องเที่ยวต่างประเทศ จากมาเลเซีย สิงคโปร์ เข้ามาประมาณวันละ 2,000 คน ปีหนึ่งเท่ากับประมาณ 730,000 คน แล้วหนึ่งคนมีค่าใช้จ่ายประมาณ 20,000 บาท ก็จะมีเงินหมุนเวียนในหาดใหญ่ปีหนึ่งประมาณ 15,000 ล้านบาท ถือว่าเป็นเงินจำนวนไม่น้อยเลย

 

 

ส่วนรถไฟทางคู่ จากหาดใหญ่ไปปาดังเบซาร์ ระยะทางประมาณ 45 กิโลเมตร คาดว่าใช้งบประมาณ 6,700 ล้านบาท ตอนนี้การออกแบบและ EIA เสร็จสิ้นแล้ว พร้อมเดินหน้าทันทีเช่นกัน และถ้ามีรถไฟทางคู่จะทำให้เวลาการเดินทางเร็วขึ้น เพราะเป็นรถไฟขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้า วิ่งได้ความเร็วสูงสุด 160 กิโลเมรต่อชั่วโมง อีกทั้งถ้าเชื่อมจากปาดังเบซาร์ไปถึงมาเลเซีย ก็จะยิ่งเป็นการส่งเสริมการค้า การลงทุน และการท่องเที่ยว ให้คึกคักมากยิ่งขึ้น จากเดิมตัวเลขอยู่ที่ประมาณ 660,000 ล้านบาท

โครงการที่สาม คือ มอเตอร์เวย์หาดใหญ่-สะเดา การออกแบบและการทำ EIA เสร็จพร้อมดำเนินการแล้ว รอการเจรจาการทำถนนเชื่อมระหว่างด่านนอก กับ ด่าน บูกิตกายูฮีตัม โดยขั้นตอนต่อไปจะมีการเจรจากับมาเลเซีย แล้วเริ่มต้นการก่อสร้างที่คาดว่าจะไม่ใช้เวลาก่อสร้างไม่นาน และเมื่อเสร็จเรียบร้อยจะทำให้การค้าชายแดนไทย-มาเลเซีย พุ่งสูงขึ้นอย่างแน่นอน

ทั้งนี้ ดร.สามารถ เน้นย้ำว่า โครงการเมกะโปรเจกต์ทั้งหมด คาดว่าจะสร้างมูลค่าให้กับอ.หาดใหญ่ และจ.สงขลา หลายหมื่นล้านบาทต่อปี โดยหากมีนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามาท่องเที่ยวมากขึ้น มีการจับจ่ายใช้สอยคนละ 1-3 หมื่นบาท และมีนักท่องเที่ยวเข้ามาหลายพันคนต่อวัน ทำให้เกิดการหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจจำนวนมากเนื่องจากนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่จะใช้เวลาอยู่ในพื้นที่ ตั้งแต่ 2 วันขึ้นไป

สำหรับกรอบวงเงินของโครงการต่างๆ ซึ่งคาดว่าจะใช้วงเงินรวมประมาณ 6.3 หมื่นล้านบาท คาดว่าหากได้เป็นรัฐบาลจะสามารถดำเนินการให้เห็นเป็นรูปธรรมได้ในกรอบระยะเวลาภายใน 4 ปี ถ้าทุกอย่างพร้อมใช้เวลาไม่นาน เนื่องจากโครงการส่วนใหญ่แบบเสร็จแล้ว EIA ผ่านแล้ว โดยย้ำว่า หากไม่มีปัญหาเรื่องปัจจัยแวดล้อมต่างๆ อาทิ กรรมสิทธิ์ที่ดิน การเวนคืน เรื่องงบประมาณ การก่อสร้างก็จะใช้เวลาไม่นาน

ทั้งนี้ ดร.สามารถ ยกตัวอย่างในบางโครงการ เช่น โครงการมอเตอร์เวย์ ซึ่งใช้งบประมาณ 4 หมื่นล้านบาท อาจจะมีเอกชนมาร่วมลงทุนด้วย , รถไฟฟ้าโมโนเรล อาจจะให้เอกชนมาลงทุนบางส่วน 10-15% ที่เหลือหากได้งบประมาณจากภาครัฐ 85-90% คิดว่าเร่งได้เร็ว

 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

สุดทน "พ่อพิการ" ร้อง "กัน จอมพลัง" หลังถูกลูกทรพี ใช้จอบจามหัว-ทำร้ายร่างกาย จนนอน รพ.นับเดือน
สลด กระบะชนจยย.พลิกคว่ำตก "ดอยโป่งแยง" เชียงใหม่ เจ็บตายรวม 13 ราย
“สมศักดิ์” ยกนวดไทยเป็นมรดกชาติ สร้างมูลค่าเศรษฐกิจสุขภาพ เล็งพาหมอนวดโกอินเตอร์ โชว์ฝีมืองาน เวิลด์เอ็กซ์โปโอซาก้า ญี่ปุ่น
ห่ามาแล้ว! “แม่สอด” พบติดเชื้ออหิวาต์ เผยญาติฝั่งพม่าซื้อข้าวมากินด้วยกัน
ผกก.สภ.รัตนาธิเบศร์ สั่งตั้งคกก.สอบ "ตร.จราจร" รีดเงินแทนเขียนใบสั่ง
สตม. บุกทลายแก๊งคอลเซ็นเตอร์ กลางคอนโดหรูห้วยขวาง รวบ 6 คนจีน อึ้งเจอซิมการ์ด 2 แสนซิม
ครูบาอริยชาติ เชิญชวนพุทธศาสนิกชน ฉลองสมโภช 18 ปีวัดแสงแก้วโพธิญาณ และทำบุญฉลองอายุวัฒนมงคล 44 ปี
กกต.สั่งดำเนินคดีอาญา "ชวาล" ส.ส.พรรคประชาชน ยื่นบัญชีใช้จ่ายเท็จ โทษคุก-ตัดสิทธิเลือกตั้ง 5 ปี
จีนเตือนสหรัฐกำลังเล่นกับไฟหลังส่งอาวุธให้ไต้หวัน
อิลอน มัสก์วิจารณ์แรงผู้นำเยอรมันเหตุโจมตีตลาดคริสต์มาส

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น