สธ.จับตายอดติดเชื้อโควิดพุ่งสูงอีกระลอก หมอจุฬาฯเปิดผลวิจัยญี่ปุ่นสายพันธุ์ XBB.1.16 แพร่เชื้อเร็ว

สธ.จับตายอดติดเชื้อโควิดพุ่งสูงอีกระลอก หมอจุฬาฯเปิดผลวิจัยญี่ปุ่นสายพันธุ์ XBB.1.16 แพร่เชื้อเร็ว

สธ.ชี้แนวโน้มโควิดระบาดหลายจังหวัดเริ่มคงที่ หลังผ่านหยุดยาวสงกรานต์ แต่จับตายอดติดเชื้อพุ่งสูงอีกระลอกตอนเปิดเทอม ย้ำกลุ่มเสี่ยงผู้สูงอายุไปรับวัคซีนเข็มปกติ –เข็มกระตุ้น กำชับลูกหลานหากคนสูงวัยในครอบครัวติดเชื้อ ให้รีบส่งตัวไปรับยาต้านไวรัสที่รพ.ทันที ด้านหมอจุฬาฯเผยผลวิจัยของญี่ปุ่นพบสายพันธุ์ XBB.1.16 แพร่เชื้อเร็วกว่าสายพันธุ์ที่ระบาดก่อนหน้า เหนือกว่า XBB.1 ประมาณ 1.46 เท่า และเหนือกว่า XBB.1.5 ประมาณ1.31 เท่า ห่วงไทยมีผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่มขึ้นจำนวนมาก

ข่าวที่น่าสนใจ

เมื่อวันที่ 4 พฤษภาคม นพ.ธเรศ กรัษนัยรวิวงค์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ให้สัมภาษณ์ถึงสถานการณ์ระบาดของเชื้อโควิด-19 ช่วงวันหยุดยาวต่อเนื่องว่า จากการหารือกับทีมวิเคราะห์ของกรมควบคุมโรค พบสถานการณ์ระบาดหนักขึ้นช่วงเทศกาลสงกรานต์ไปแล้ว ขณะนี้เป็นช่วงหลังสงกรานต์และมีช่วงวันหยุดยาวพิเศษอีก 1 ช่วง คาดว่าจำนวนผู้ติดเชื้อจะเพิ่มขึ้นเช่นกัน แต่ไม่มาก เนื่องจากประชาชนระมัดระวังมากขึ้น เห็นได้ชัดจากการที่มีประชาชนไปรับวัคซีนโควิดเข็มกระตุ้นเพิ่มมากขึ้น คาดว่าวันหยุดยาวพิเศษนี้ การเดินทางไม่มากเท่าช่วงเทศกาลสงกรานต์ และแนวโน้มการระบาดหลายจังหวัดเริ่มคงที่ แต่ช่วงที่คาดว่าจะพุ่งสูงขึ้นอีกครั้งที่ต้องติดตามดูคือ ช่วงเปิดภาคเรียน

นพ.ธเรศยังกล่าวย้ำถึงการรณรงค์ฉีดวัคซีนให้ผู้สูงอายุว่า เป็นเรื่องที่กรมควบคุมโรคสื่อสารถึงประชาชนตลอดเวลาว่า กลุ่มที่เสี่ยงคือ ผู้สูงอายุ และหารือกับกรมการแพทย์ และสำนักงานปลัด สธ.ว่า กรณีผู้สูงอายุที่ยังไม่ได้รับวัคซีนและติดเชื้อ ขอให้ลูกหลานรีบนำตัวส่งโรงพยาบาล ซึ่งแพทย์จะรีบให้ยาต้านไวรัสทันที รวมทั้งให้ภูมิต้านทานสำเร็จรูป หรือ LAAB และใช้กลไกอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) ที่จะเข้าไปเร่งรัดการฉีดวัคซีน ซึ่งเรามีวัคซีนทุกรูปแบบในทุกพื้นที่ ขอให้ทุกฝ่ายช่วยประชาสัมพันธ์ให้ผู้สูงอายุไปรับวัคซีนให้มากที่สุด

ด้านนพ.ธีระ วรธนารัตน์ คณะแพทย์ศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์ข้อความผ่านเพซบุ๊กถึงสถานการณ์ระบาดของโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอน XBB.1.16 ว่า จากผลการศึกษาเกี่ยวกับโอมิครอนสายพันธุ์ย่อย XBB.1.16 โดยทีมงานจาก Sato Lab ของญี่ปุ่น เผยแพร่ในวารสารการแพทย์โรคติดเชื้อ The Lancet Infectious Diseases เมื่อวันที่ 3 พฤษภาคมระบุสมรรถนะในการแพร่เชื้อ โดยวัดค่า Effective Reproductive Number (Re) เปรียบเทียบในประเทศต่างๆ พบสายพันธุ์ XBB.1.16 มีสมรรถนะแพร่เชื้อสูงกว่าสายพันธุ์ที่ระบาดมาก่อนหน้า เหนือกว่า XBB.1 ประมาณ 1.22-1.46 เท่า และเหนือกว่า XBB.1.5 ประมาณ 1.13-1.31 เท่า XBB.1.16 ดื้อต่อภูมิคุ้มกันกรณีที่เคยมีประวัติติดเชื้อมาก่อน พอกับ XBB.1 และ XBB.1.5 นอกจากนี้ XBB.1.16 ดื้อต่อยาแอนติบอดี้/ภูมิคุ้มกันสำเร็จรูปที่ใช้รักษา เช่นเดียวกับกับ XBB.1 และ XBB.1.5 ข้อมูลข้างต้นจึงอธิบายปรากฏการณ์ที่ไทยกำลังเผชิญกับจำนวนผู้ติดเชื้อใหม่จำนวนมาก สะท้อนความจำเป็นที่เราต้องใช้ชีวิตโดยไม่ประมาท ป้องกันตัวอย่างต่อเนื่อง

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

MEA ชูพลังงานสะอาด เปิดสถานีชาร์จ EV ณ MRT ศูนย์วัฒนธรรมฯ ขับเคลื่อนอนาคตการเดินทางไร้มลพิษ
สถาบันฯ สร้างสรรค์ และซอฟต์พาวเวอร์ ผลักดัน “จังหวัดจันทบุรี” เป็น “Soft Power” ระดับประเทศ
นพ.สสจ.เมืองคอนเตือน ระมัดระวังโรคฉี่หนู เมืองคอนสังเวยชีวิตแล้ว 8 ราย ชี้อำเภอฉวางสุ่มเสี่ยงมากที่สุด เสียชีวิตถึง 7 ราย -เตือนประชาชนประชาชนรักษาสุขภาพและเฝ้าระวังโรคที่จะมากับหน้าฝนนอกจากฉี่หนูแล้วให้ระมัดระวังให้โรคไข้เลือดออก
"เงินดิจิทัล เฟส 2 ได้วันไหน" ชัดเจนแล้ว พร้อมเช็ก เงื่อนไขเงิน 10,000 ล่าสุด
CPF สานต่อความมุ่งมั่นสร้างงานมีคุณค่าสำหรับคนพิการ หนุนวัฒนธรรมเคารพความแตกต่างและหลากหลาย
หมอวรงค์ นำกลุ่มคนรักชาติ ยื่นกว่าแสนรายชื่อ ร้องรบ.ยกเลิก MOU 44
กุ้ง อาหารทะเลยอดฮิต โปรตีนคุณภาพดี อร่อยด้วย ช่วยชาติได้
หมอถึงขั้นเข้าไปถามคนไข้ หลังพยาบาล เจาะเลือดไม่เข้า อึ้งห้อยพระเต็มคอ แต่ละองค์ราคาไม่ธรรมดา
“บิ๊กโจ๊ก” ด่าแรง “ทนายตั้ม” แอบอ้างชื่อ ลวง “เจ๊อ้อย” ไปเขื่อนเชี่ยวหลาน
“เจ๊อ้อย”โคตรแค้น “ทนายตั้ม” พาลูกเมียทัวร์ยุโรปถลุงเป็นล้าน แว้งกัด-คิดเอาชีวิต

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น