8 พ.ค. 2566 ที่พรรคภูมิใจไทย (ภท.) มีการแถลงชี้แจงกรณีที่สถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (ทีดีอาร์ไอ) ออกมาระบุถึงนโยบายในการหาเสียงเลือกตั้ง ปี 2566 ของพรรคภูมิใจไทยใช้งบประมาณมากที่สุด จำนวน 1.9 ล้านล้านบาท โดยมีนายศุภชัย ใจสมุทร นายทะเบียนพรรคภูมิใจไทย นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ ผู้อำนวยการการเลือกตั้ง กทม. พรรคภูมิใจไทย และ น.ส.เพียงออ เลาหะวิไลย นักวิจัยมูลนิธิสถาบันเพื่อพัฒนานวัตกรรม Innova Foundataion อาจารย์วิทยาลัยนานาชาตินวัตกรรมดิจิทัล มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ร่วมกันชี้แจง
โดยน.ส.เพียงออ กล่าวว่า นโยบายของพรรคภูมิใจไทยมีทั้งสิ้น 21 นโยบาย ไม่ได้อาศัยงบประมาณการลงทุนจากรัฐเพียงอย่างเดียว แต่จะหางบประมาณจากแหล่งอื่น ได้แก่ ภาคเอกชนทั้งในและต่างประเทศ รวมทั้งการแก้กฎหมาย อาทิ นโยบายพักหนี้ 3 ปี หยุดต้น ปลอดดอก ใช้งบฯจากแหล่งอื่นด้วยการระดมเงินจากประชาชน และลงทุนออกพันธบัตร 4 รุ่น จำนวน 1.6 ล้านล้านบาท จะสามารถสร้างผลตอบแทนทางเศรษฐกิจเมื่อจบโครงการจำนวน 4.79 แสนล้านบาท,โครงการเงินกู้ฉุกเฉิน 50,000 บาท เพื่อคนไทย ใช้งบจากแหล่งอื่นเช่นกันจำนวน 2.5 ล้านล้านบาท ด้วยการแก้กฎหมายของกระทรวงการคลัง เพื่อเปิดโอกาสสถาบันการเงินอื่นๆ (Non Bank) และผู้ประกอบธุรกิจสินเชื่อรายย่อยระดับจังหวัดภายใต้การกำกับ(สินเชื่อพิโกไฟแนนซ์) เข้ามาเปิดโอกาสให้ประชาชนมากขึ้น จากเดิมที่จำกัดเพียงไม่กี่สถาบันการเงิน