“ทักษิณ” ปล่อยมุกช่วยลูก ทวีตล่าสุดแจ้งกำหนดกลับบ้านแล้ว ชี้ชัดนักโทษหนีคดีรอผล”เพื่อไทย”ชนะเลือกตั้ง

"ทักษิณ" ปล่อยมุกช่วยลูก ทวีตล่าสุดแจ้งกำหนดกลับบ้านแล้ว ชี้ชัดนักโทษหนีคดีรอผล"เพื่อไทย"ชนะเลือกตั้ง

จากกรณีเมื่อวันที่ 1 พฤษภาคม 2566 นายทักษิณ ชินวัตร ได้ทวีตข้อความ แจ้งข่าวดีและส่งสัญญาณ พร้อมประกาศ “ขออนุญาต” กลับบ้านอีกครั้ง ด้วยการทวีตข้อความว่า “เช้าวันนี้ ผมดีใจมากที่ได้หลานคนที่ 7 เป็นชายชื่อ ธาษิณ จากน้องอิ๊งค์ แพทองธาร หลานทั้ง 7 คน คลอดในขณะที่ผมต้องอยู่ต่างประเทศ ผมคงต้องขออนุญาตกลับไปเลี้ยงหลาน เพราะผมอายุจะ 74 ปี กรกฎาฯนี้แล้ว พบกันเร็ว ๆ นี้ ครับ ขออนุญาตนะครับ”

 

จนต่อมาทางด้านนางสาวแพทองธาร ชินวัตร ได้แถลงข่าวเปิดใจหลังคลอดลูกชาย และตอบคำถามสื่อ กรณีที่พ่อทักษิณ ทวีตจะกลับบ้านมาเลี้ยงหลาน โดยอุ๊งอิ๊ง แพทองธาร ตอบว่า พ่อทักษิณ ทวีตด้วยความตื่นเต้นและตื้นตันที่ได้ต้อนรับหลานคนที่ 7 พร้อมกล่าวด้วยว่า คุณตาคงอยากเจอหลานในช่วงเวลาที่หลานชายลืมตาดูโลกเลย แต่ไม่ได้ก็ไม่เป็นไร โดยการพูดคำว่า ‘กลับบ้าน’ เป็นการพูดอยู่หลายครั้ง แน่นอนว่าการพูดของคุณทักษิณอาจส่งผลต่อการเมือง แต่ไม่ผิดที่จะหวัง โดยเฉพาะในวันที่บ้านมีเรื่องดี ๆ แต่ไม่ได้คุยเรื่องช่วงเวลากลับบ้าน วันไหน เมื่อไร เชื่อว่าพ่อก็ยังมีหวังเสมอว่าจะได้กลับบ้าน แต่การกลับบ้านนั้นไม่ได้เกี่ยวกับพรรคเพื่อไทย

 

 

ข่าวที่น่าสนใจ

ล่าสุดวันนี้ (9 พ.ค.) นายทักษิณ ชินวัตร ได้ทวีตข้อความอีกครั้ง ระบุว่า “ผมขออนุญาตอีกครั้ง ผมตัดสินใจแล้วว่าจะกลับบ้านไปเลี้ยงหลานภายในเดือนกรกฎาคมนี้ก่อนวันเกิดผมครับ ขออนุญาตนะครับ เกือบ 17 ปีแล้วที่ต้องพลัดพรากจากครอบครัว ผมก็แก่แล้วครับ”

 

 

ทั้งนี้เมื่อวันที่ 8 พ.ค.66 ที่ผ่านมา พรรคเพื่อไทย นายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี และที่ปรึกษาหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย พร้อมด้วย “อุ๊งอิ๊ง” นางสาวแพทองธาร ชินวัตร แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี ที่เพิ่งคลอดลูกไปเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ได้ออกมาไลฟ์สดผ่านโลกออนไลน์ทั้ง ติ๊กต๊อก และ อินสตาแกรม ส่วนตัวของทั้งสามคน ในหัวข้อที่ประชาชนอยากรู้คือ ‘หมดเปลือกเพื่อไทย’ ดำเนินรายการโดย “มดดำ” นายคชาภา ตันเจริญ พิธีฝีปากกล้า

 

 

 

โดย”มดดำ” คชาภา ถามเกี่ยวกับเมื่อวันที่ 7 พ.ค. 66 ประชาชนออกไปใช้สิทธิ์ล่วงหน้ามากถึง 92 เปอร์เซ็นต์จำนวนมากถึง 2 ล้านกว่าคนรู้สึกอย่างไรบ้าง นายเศรษฐา เปิดเผยว่า เป็นเรื่องที่ดีมาก คนไทยตื่นตัวเรื่องนี้เต็มที่ เห็นได้จากการเดินทางไปลงคะแนนเสียงตามห้างดังๆผู้คนล้นหลาม ถือว่า เป็นนิมิตหมายที่ดีของคนไทยเกี่ยวกับการเมือง

ส่วน น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า เป็นเรื่องเซอร์ไพร์สอย่างยิ่งที่พี่น้องประชาชนให้ความสำคัญและสนใจเรื่องการเมืองมากขึ้น เพราะมันถึงเวลาแล้วที่ต้องมีการเปลี่ยนแปลง แต่ก็ยังมีสถานที่เลือกตั้งบางจุดเกิดปัญหา อยากให้ประชาชนช่วยกันเป็นหูเป็นตาด้วย ดังนั้นทาง กกต. เอง ซึ่งมีหน้าที่รับผิดชอบตรงจุดนี้ต้องให้ความสำคัญด้วย

ส่วนคำถามที่มีกระแสข่าวว่า เหลือเวลาอีกไม่กี่วันจะเลือกตั้งแล้ว 14 พ..ค.นี้ พรรคเพื่อไทยมีโอกาสจับมือกับแก๊งค์ 3 ป.หรือไม่ ทาง นายเศรษฐา กล่าวว่า เราไม่เอาผู้นำรัฐประหารแน่นอน และไม่เอากลุ่ม 3 ป.ตามที่เคยประกาศไว้ก่อนหน้านี้ เพราะยึดหลักประชาชนเป็นสิ่งสำคัญที่สุด

ส่วนน.ส.แพทองธาร เผยว่า ไม่มีทางจับมือกับกลุ่ม 3 ป.แน่นอน ทุกอย่างต้องรอผลเลือกตั้งวันที่ 14 พ.ค.นี้ และไม่ว่า พรรคไหนจะมาจับมือกับพรรคเพื่อไทยต้องรับ 3 ข้อนี้ให้ได้คือ 1.เห็นด้วยกับนโยบายของเรา 2.นายกรัฐมนตรีต้องมาจากพรรคเพื่อไทย และ 3.รัฐมนตรีตำแหน่งต่างๆต้องมาจากพรรคเพื่อไทยเท่านั้น

 

นอกจากนี้ นายคชาภา ถามถึงพรรคเพื่อไทยมีโอกาสจับมือกับพรรคก้าวไกลหรือไม่ นายเศรษฐา กล่าวว่า ทางพรรคเรากับพรรคก้าวไกลไม่มีปัญหาขัดแย้งอะไรกัน แถมยังเป็นพรรคฝ่ายค้านร่วมกันมาก่อนด้วย ทุกอย่างต้องมาคุยรายละเอียดว่า พรรคก้าวไกลรับข้อตกลงของเราได้หรือไม่ โดยเฉพาะมาตรา 112 ต้องมาดูว่า สมควรแก้ไขตรงจุดไหนบ้าง และควรแก้ไขอย่างไรให้มันดีขึ้น เพราะเป็นเรื่องละเอียดอ่อน ส่วนตัวหากได้เป็นรัฐบาลก็จะมีการประกันตัวเด็กๆที่ติดคุกเพื่อให้เขาได้ออกมาสู้ในกระบวนการยุติธรรมต่อไป เพราะทุกอย่างอยู่ภายใต้กรอบระเบียบที่ทุกคนไม่ควรไปก้าวก่ายกับสถาบันฯ

 

 

น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า มีความเป็นไปได้ที่จะจับมือกับพรรคก้าวไกล เพราะมีนโยบายแนวทางการเมืองเป็นคนรุ่นใหม่ และมีจุดยืนทำเพื่อประชาชนเหมือนกัน แต่ทุกอย่างต้องมาคุยรายละเอียดหลังวันที่ 14 พ.ค.ประชาชนจะเป็นผู้ให้คำตอบ นอกจากนี้ตนไม่ยกเลิก มาตรา 112 แน่นอน แต่ทุกอย่างต้อมาคุยกันในสภาฯหาข้อสรุปที่ดี ถือว่า เป็นเรื่องละเอียดอ่อนมาก ถ้าหากได้เป็นรัฐบาลจะขอความเมตตาจากศาลให้พิจารณาน้องๆเหล่านี้ที่ติดคุกอยู่ในเวลานี้ว่า พวกเขาถูกเป็นเครื่องมือทางการเมือง

ช่วงท้าย นายคชาภา ถามว่า เงินดิจิตอล 10,000 บาทที่จะแจกนั้นเอามาจากไหน นายเศรษฐา กล่าวว่า 8 ปีที่ผ่านมาประชาชนตกหลุมดำมานานแล้ว ทั้งในเรื่องของเศรษฐกิจถดถอยและมาเจอโควิด-19 อีก จนทำให้ทุกคนจนลง เงินที่จะมาแจกไม่ใช่เงินคริบโต แต่เป็นเงินบาท ใช้ได้ตามปรกติภายใน 6 เดือน ไม่สามารถเปลี่ยนมือได้ และไม่สามารถเอาไปซื้อของออนไลน์ หรือ เหล้า-บุหรี่ ได้ แต่เอาไปจับจ่ายใช้สอยอย่างเดียว ภายในรัศมี 4 กม. เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจภายในประเทศ ซึ่งจะมีเงินหมุนเวียนในระบบกว่า 5 แสนล้านบาทในระยะเวลาสั้น ๆ ไม่มีการกู้เงินเพิ่มเติมอย่างแน่นอนขอให้สบายใจได้ เพราะตนได้ปรึกษาทนายความเรียบร้อยแล้วเรื่องนี้ดำเนินการได้ทันที

อย่างไรก็ตาม น.ส.แพทองธาร ได้กล่าวทิ้งท้ายว่า ประเทศเราโคม่ามาช้านานแล้ว ถึงเวลาต้องเปลี่้ยนและต้องกระตุ้นเศรษฐกิจให้ตรงกับประชาชนอย่างแท้จริง เพื่อให้มีเงินหมุนเวียนและมีการจับจ่ายใช้สอยมากขึ้น แถมจะต้องมีการพักหนี้ให้กับประชาชนและเกษตรถึง 3 ปีเพื่อให้พวกเขาอืมต้าอ้าปากได้เสียก่อน เชื่อว่า พรรคเพื่อไทยเราเดินมาถูกทางแล้ว และที่ตนมาเล่นการเมืองในครั้งนี้ไม่ได้กลัวอะไรเลย ถ้ากลัวก็คงไม่มายืนตรงจุดนี้แน่

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

เปิดตัว "TKR Connect" แพลตฟอร์มจัดหางานครบวงจร สร้างมิติใหม่รองรับแรงงานต่างด้าวอย่างถูกกม.
ออกหมายจับ "หมอบุญ" พร้อมพวกรวม 9 คน “ฉ้อโกง-ฟอกเงิน” ปลอมลายเซ็นอดีตลูกสะใภ้กู้เงิน 8 พันล้าน
ระทึกกลางดึก ไฟไหม้ "ร้านกาแฟ" เผาวอดทั้งหลัง เสียหายกว่า 7 แสนบาท
"อุตุฯ" เผย "เหนือ-อีสาน-กลาง" อากาศเย็นตอนเช้า เตือนใต้ยังรับมือฝนตก
แม่ทัพภาคที่ 2 ลงพื้นที่เยี่ยมเยียนครอบครัวกำลังพล ห่วงใยไปถึงบ้าน เพราะเราคือครอบครัวกองทัพบก
สวนนงนุชพัทยาเปิดเวที CHONBURI PROUD EXPO 2024 หนุน SMEs ชลบุรีสู่ตลาดโลก
“เอกภพ” ได้ประกันตัว ปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา ปมให้ข้อมูลเท็จดิไอคอน จ่อฟ้องกลับ
สามเชฟดังร่วมรังสรรค์เมนูเพื่อการกุศลทางการแพทย์
"ทนายบอสพอล" เผยเป็นไปตามคาด "เอก สายไหม" ถูกจับ จ่อดำเนินคดีหมิ่นประมาท เรียกค่าเสียหาย 100 ล้าน
ศาลออกหมายจับ 'เจ๊หนิง' พร้อมสามีและหลาน ร่วมกันแจ้งความเท็จ 'ภรรยาบิ๊กโจ๊ก'

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น