แจก 6 เคล็ด (ไม่) ลับ ประหยัด "ค่าไฟ" ทำได้ทันที ดับร้อนดับแตกในซัมเมอร์สุดฮอต การันตีบิลค่าไฟไม่บานปลาย ร้อนแค่ไหนก็เอาอยู่
ข่าวที่น่าสนใจ
บิล “ค่าไฟ” แพง มาแรงไม่หยุด หลายบ้านบิลพุ่งแรงเป็นเท่าตัว ทำเอาหลายคนพยายามอดทนกับอากาศร้อนตับแตก เปิดแค่พัดลมเหงื่อแตกพลั่ก ๆ อาบน้ำเป็นว่าเล่น บางคนก็สุดทนยอมเปิดแอร์สักพักก็รีบปิด เพราะ ไม่อยากจ่ายแพงเหมือนเดิม แต่ต่อไปนี้ ไม่ต้องทนทรมานอีกต่อไป TOP News มีเคล็ดลับดี ๆ ช่วยประหยัด ค่า ไฟ เริ่มได้ตั้งแต่วันนี้ เช็คเลยต้องทำยังไงบ้าง
6 ไอเดีย ดับร้อนตับแตก ประหยัดค่า ไฟ มั่นใจไม่บานปลาย
1. เปิดหน้าต่างรับลม รับแสงธรรมชาติ
- การเปิดหน้าต่างจะช่วยประหยัดไฟได้ดี เพราะ ช่วยให้แสงและลมธรรมชาติหมุนเวียนเข้ามาในบ้านได้อย่างเต็มที่
- ทำให้บ้านสว่างและเย็นโดยไม่ต้องเปิดไฟหรือเครื่องปรับอากาศ
2. ปิดเครื่องใช้ไฟฟ้าและถอดปลั๊กเมื่อไม่ใช้งาน
- การเสียบปลั๊กทิ้งไว้ ถึงจะไม่ได้ใช้ก็ตาม ทำให้มีกระแสไฟฟ้าไหลเวียนอยู่
- ดังนั้น เมื่อใช้งานเครื่องใช้ไฟฟ้าเสร็จแล้ว ควรปิดและถอดปลั๊กหลังจากเลิกใช้งานทุกครั้ง
3. เลือกใช้หลอดไฟ LED แทนหลอดไฟธรรมดา
- หลอกไฟ LED ให้แสงสว่างมากกว่าหลอดไฟแบบธรรมดา แต่กินไฟน้อยกว่า และมีอายุการใช้งานที่มากกว่า
- ที่สำคัญยังเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
- ไม่เสี่ยงอันตรายจากรังสี UV หรือสารตะกั่วเหมือนหลอดไฟธรรมดาทั่วไป
4. ไม่เสียบปลั๊กชาร์จโทรศัพท์มือถือ หรืออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ทิ้งไว้ เมื่อแบตเตอรี่เต็มแล้ว
- โดยปกติแบตเตอรี่โทรศัพท์มือถือจะชาร์จเต็มภายในไม่กี่ชั่วโมง
- การเสียบชาร์จทิ้งไว้แม้แบตเตอรี่เต็มแล้วจะทำให้กินไฟ และเสี่ยงต่อการเกิดไฟฟ้าลัดวงจรได้
- ควรถอดปลั๊กออกทุกครั้ง เพื่อความปลอดภัยและช่วยประหยัดไฟได้มากกว่า
5. เปิดแอร์ในอุณหภูมิที่เหมาะสม 26 องศาเซลเซียส
- ตั้งอุณหภูมิเครื่องปรับอากาศที่ 26 องศาเซลเซียส ช่วยประหยัด “ค่าไฟ” ได้มากกว่าการตั้งอุณหภูมิที่ต่ำลง
- นอกจากนี้ การปิดเครื่องปรับอากาศเร็วขึ้น 1 ชั่วโมง ก่อนออกจากห้อง สามารถช่วยประหยัดไฟฟ้าได้เช่นกัน
6. เลือกใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าที่ติดฉลากประหยัดไฟฟ้าเบอร์ 5
- ฉลากประหยัดไฟฟ้าเบอร์ 5 บ่งบอกระดับการใช้ไฟฟ้าและข้อมูลเบื้องต้น รวมถึงประสิทธิภาพ ค่าใช้จ่ายต่อปี
- เพื่อให้ผู้ใช้สามารถเลือกซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้าได้อย่างเหมาะสม และประหยัดค่าใช้จ่ายในระยะยาว
ข้อมูล : การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย
ข่าวที่เกี่ยวข้อง