เห็นต่างไม่ใช่เรื่องผิด “ดร.หิมาลัย” ร่วมแลกเปลี่ยนความคิดเด็กรุ่นใหม่ ย้ำชัดควรหยุดวาทกรรม “ชังชาติ” ก่อนทำสังคมแตกแยก

เห็นต่างไม่ใช่เรื่องผิด "ดร.หิมาลัย" ร่วมแลกเปลี่ยนความคิดเด็กรุ่นใหม่ ย้ำชัดควรหยุดวาทกรรม "ชังชาติ" ก่อนทำสังคมแตกแยก

11 พ.ค.2566 ดร.หิมาลัย ผิวพรรณ ผู้ประสานงานพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ร่วมเวทีเสวนา “คนรุ่นใหม่ชังชาติจริงหรือไม่” ซึ่งจัดโดยเครือข่ายแรงใจ โดยมีนักศึกษาจากมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ (มศว.) เข้าร่วมแลกเปลี่ยนความคิดเห็นจำนวนมาก

 

 

 

 

 

 

 

พร้อมกันนี้ ดร.หิมาลัย ได้ให้ความเห็นว่า ในบริบทของสังคมไทยในปัจจุบัน โดยส่วนตัวแล้วไม่อยากให้ใช้คำว่าชังชาติ ไม่ว่ากับคนกลุ่มใด เพราะความรักชาติของคนแต่ละช่วงวัยนั้นไม่เหมือนกัน และอาจแสดงออกแตกต่างกัน เพราะฉะนั้นจะต้องเปิดใจรับฟังซึ่งกันและกัน

ข่าวที่น่าสนใจ

เพราะคนที่ถูกตราหน้าว่า ชังชาติ นั้น แท้จริงแล้วเขาอาจจะรักชาติในมุมของเขาก็ได้ และแสดงออกในแบบที่เขาเชื่อว่าถูกต้องจนสุดโต่ง ส่วนคนที่บอกว่าตนเองรักชาตินั้น บางครั้งอาจจะเลยไปถึงขั้นชาตินิยม และจะไม่ยอมรับความเห็นต่างจากคนอื่น ซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้องนัก เนื่องจากในบริบทของสังคมทุกสังคม จะต้องยอมรับความเห็นและให้เกียรติซึ่งกันและกัน แต่ต้องอยู่บนพื้นฐานของกรอบของกฎหมาย

 

 

 

ดร.หิมาลัย ย้ำว่า สังคมไทยกำลังถูกวาทกรรมและความคิดของคนต่างวัยบ่อนทำลาย เพราะฉะนั้นอยากให้ผู้ใหญ่รับฟังความคิดเด็ก ๆ คนรุ่นใหม่โดยไม่ปิดกั้น เพราะความคิดของเด็กก็ไม่ใช่ว่าจะผิดทุกครั้ง และเช่นเดียวกัน ความคิดของผู้ใหญ่ก็ใช่ว่าจะถูกต้องเสมอไป เรื่องบางเรื่องผู้ใหญ่ควรเรียนรู้จากเด็ก

 

 

“อยากจะยกตัวอย่างสิ่งที่ผู้ใหญ่ควรเรียนรู้จากเด็กรุ่นใหม่ จากสิ่งที่เพิ่งประสบมาล่าสุด จากการที่ผู้สมัคร ส.ส.ของพรรครวมไทยสร้างชาติบางคน ที่ออกมาเรียกร้องค่าใช้จ่ายในการหาเสียงจากทางพรรค ซึ่งเป็นนักการเมืองรุ่นเก่า ตนได้ชี้แจงไปว่าพรรคเราทำการเมืองตามอุดมการณ์ ใช้งบประมาณตามที่ได้รับบริจาคมา ซึ่งไม่มีมากนัก แต่เมื่อย้อนกลับไปดูผู้สมัครที่เป็นคนรุ่นใหม่ทั้งที่อยู่ในพรรคของเราเอง และพรรคอื่น ๆ ที่มีความตั้งใจทำงานการเมืองอย่างที่อยากทำ กลับไม่มีการเรียกร้อง แต่ใช้การบริหารงบประมาณได้รับและหาวิธีหาเสียงกับกลุ่มเป้าหมายโดยไม่ย่อท้อ ซึ่งตรงนี้ต้องขอยกย่องและเป็นสิ่งที่นักการเมืองรุ่นเก่าหรือผู้ใหญ่จะต้องเรียนรู้และปรับตัว”

ขณะที่ประเด็นส่วนใหญ่ที่หลายคนกล่าวหาว่า พรรครวมไทยสร้างชาติ เป็นพรรคเผด็จการนั้น ดร.หิมาลัย ชี้แจงว่า จากการที่ได้ทำงานร่วมกับพลเอกประยุทธ์ อย่างใกล้ชิด และท่านได้ตัดสินใจทำการเมืองต่อ ไม่ใช่เพราะการอยากจะสืบต่ออำนาจแต่อย่างใด

 

 

เพียงแต่ท่านเห็นว่ายังมีสิ่งที่ยังน่ากังวลและต้องการทำสิ่งที่เริ่มต้นมาแล้วให้สำเร็จลุล่วง แต่ในขณะเดียวกันท่านได้ย้ำเสมอว่า การจะได้ทำต่อหรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของพี่น้องประชาชน ถ้าประชาชนเห็นว่าสิ่งที่ท่านทำมาตลอดนั้นมีประโยชน์ต่อชาติบ้านเมืองถือเป็นเรื่องที่น่ายินดี แต่ถ้าประชาชนไม่ให้ไปต่อ ก็ต้องยอมรับ เพราะท่านยึดหลักในระบอบประชาธิปไตย อำนาจอยู่ที่ปลายปากกาของประชาชน และไม่ว่าผลการเลือกตั้งจะออกมาเช่นไรท่านก็พร้อมจะยอมรับ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

จีนสู้กลับสหรัฐสั่งขึ้นภาษีนำเข้าเป็น 125%
ญี่ปุ่นเล็งส่งทีมเศรษฐกิจไปเจรจาสหรัฐสัปดาห์หน้า
อั้นไว้ก่อน ค่อยเติม พรุ่งนี้น้ำมันลดอีก 30 สต. ยกเว้นดีเซลคงเดิม
"โฆษกอสส." แจงยึดคำพิพากษาศาลปกครองสูงสุด กทม.ต้องจ่ายหนี้ "รถไฟฟ้าสีเขียว" ถ้าไม่มีเหตุควรอุทธรณ์
คึกคัก! ปชช.ทยอยเดินทางมุ่งหน้าภาคเหนือ ถนนพหลโยธิน ช่วงจ.นครสวรรค์ รถเริ่มหนาแน่น
ญาติเศร้าทำพิธีเชิญวิญญาณ คนงานเมียนมา หลังพบร่างแล้ว 4 ราย
ศาลอนุมัติหมายจับ ‘ไฮโซฮอต’ อ่วมหนัก 4 ข้อหา ตร.แจ้งอายัดตัวแล้ว
กรมตรวจบัญชีสหกรณ์ ร่วมกับสถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน (องค์การมหาชน) ยกระดับความสามารถในการจัดทำบัญชีคนรุ่นใหม่ให้กับสหกรณ์ภายใต้โครงการบ้านมั่นคง
จนท.ระดมกำลังไล่ล่า "โจรใต้" ลอบยิงดับ "อส.บันนังสตา" ขณะรดน้ำต้นทุเรียนในสวน ก่อนฉกปืนหลบหนี
"พิชัย" เผยความสำเร็จ STYLE Bangkok 2025 สร้างมูลค่าการค้ากว่า 1.4 พันล้านบาท ให้ไทยเป็นศูนย์กลางดีไซน์และไลฟ์สไตล์ระดับโลก

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น