“ตะวัน-แบม” สุดชิล ศาลอาญา อนุญาตประกันตัว พร้อมพวก คดีบุกทำลายโรงพัก ฟาดตร.หัวแตก

"ตะวัน-แบม" สุดชิล ศาลอาญา อนุญาตประกันตัว พร้อมพวก คดีบุกทำลายโรงพัก ฟาดตร.หัวแตก

วันที่ 12 พ.ค. 66 ที่ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก พนักงานสอบสวนสน.สำราญราษฎร์ ได้นำตัว นายสิทธิชัย ปราศรัย , นายนภสิทธิ์ ตรีรยาภิวัฒน์ หรือ สายน้ำ , น.ส.ทานตะวัน ตัวตุลานนท์ , น.ส.อรวรรณ ภู่พงษ์ , นายธีรภัทร ระดับแก้ว , นายจิรภาส กอรัมย์ , นายณัฐพล เหล็กแย้ม, นายรณกร ห้างชัยเจริญ และ นายศุทธวีร์ สร้อยคำ ผู้ต้องหาที่ 1-9 ในความผิดฐาน ร่วมกันทำให้เสียหาย ทำลาย ทำให้เสื่อมค่า หรือไร้ประโยชน์ ซึ่งทรัพย์ที่ใช้หรือมีไว้เพื่อสาธารณะประโยชน์,ร่วมกันบุกรุกโดยไม่มีเหตุอันสมควร เข้าไปในอาคารสำนักงานในความครอบครองของผู้อื่นฯ, ร่วมกันต่อสู้หรือขัดขวางเจ้าพนักงานในการปฏิบัติการตามหน้าที่, ร่วมกันทำให้เสียหาย ทำลายทรัพย์สินของผู้อื่น ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83, 360, 365 (1)(2) มาฟังคำสั่งไต่สวนคำร้องคัดค้านการฝากขัง

หลังจากช่วงบ่ายวานนี้ (11 พ.ค.) พนักงานสอบสวน สน.สำราญราษฎร์ได้ยื่นคำร้องฝากขังผู้ต้องหาทั้ง 9 คน แต่ทนายความผู้ต้องหาได้ยื่นคัดค้านการฝากขัง ซึ่งศาลได้เปิดห้องไต่ส่วนทั้งสองฝ่ายเสร็จแล้ว จึงให้พนักงานสอบสวนนำตัวผู้ต้องหาทั้ง 9 คน ไปควบคุมไว้ที่ สน.ทุ่งสองห้อง และ นัดฟังคำสั่งในวันนี้

ศาลอาญา พิเคราะห์พยานหลักฐานในชั้นไต่สวนคำร้องขอฝากขังและข้อคัดค้านของผู้ต้องหาทั้งเก้าแล้ว เห็นว่า พนักงานสอบสวนนำตัวผู้ต้องหาทั้งเก้า ผู้ถูกจับมาศาล และยื่นคำร้องขอฝากขังผู้ต้องหาทั้งเก้าในระหว่างทำการสอบสวน โดยระบุในคำร้องว่าผู้ต้องหาทั้งเก้าถูกกล่าวหาว่ากระทำความผิดฐานร่วมกันทําให้เสียหาย ทำลาย ทำให้เสื่อมค่า หรือทำให้ไร้ประโยชน์ซึ่งทรัพย์ที่ใช้หรือมีไว้ เพื่อสาธารณประโยชน์ ร่วมกันบุกรุกโดยไม่มีเหตุอันสมควรเข้าไปในอาคารสำนักงานในความครอบครองของผู้อื่นหรือไม่ยอมออกไปจากสถานที่เช่นว่านั้นเมื่อผู้มีสิทธิ์ที่จะห้ามมิให้เข้าไปได้ไล่ให้ออกโดยใช้กำลัง ประทุษร้าย โดยมีอาวุธหรือโดยร่วมกันกระทำความผิดด้วยกันตั้งแต่ 2 คนขึ้นไป ร่วมกันต่อสู้หรือ ขัดขวางเจ้าพนักงานในการปฏิบัติการตามหน้าที่ ร่วมกันทำให้เสียหาย ทำลาย ทำให้เสื่อมค่า หรือทำให้ ไร้ประโยชน์ ซึ่งทรัพย์ของผู้อื่นหรือผู้อื่นเป็นเจ้าของรวมอยู่ด้วย และทราบคำสั่งของเจ้าพนักงานซึ่งสั่งการตามอำนาจที่มีกฎหมายให้ไว้ ไม่ปฏิบัติตามคำสั่งนั้นโดยไม่มีเหตุหรือข้อแก้ตัวอันสมควร

โดยพนักงานสอบสวนยังทำการสอบสวนไม่เสร็จสิ้น เนื่องจากต้องสอบสวนพยานอีก 10 ปาก รอผลการตรวจพิสูจน์ของกลาง รอผลการตรวจสอบลายพิมพ์นิ้วมือและประวัติการต้องโทษของผู้ต้องหาทั้งเก้า และตามทางไต่สวนผู้ร้องได้ความเพิ่มเติมว่า พยานบุคคลดังกล่าว ได้แก่ เจ้าพนักงานตำรวจที่ได้รับบาดเจ็บ แพทย์ผู้ตรวจชันสูตรบาดแผล และรายงานผลการตรวจสอบที่เกิดเหตุ กรณีจึงมีเหตุผลและความจำเป็นต้องมีการฝากขังผู้ต้องหาทั้งเก้าในระหว่างทำการสอบสวน ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 87 ซึ่งเป็นกระบวนการก่อนการฟ้องคดีอาญาที่มีวัตถุประสงค์ให้ผู้ต้องหาอยู่ในอำนาจของศาลในระหว่างการสอบสวนของพนักงานสอบสวน และเพื่อเป็นหลักประกันว่าจะมีตัวจำเลยมาในการพิจารณาคดีของศาล

 

 

 

ข่าวที่น่าสนใจ

ส่วนที่ผู้ต้องหาทั้ง 9 คน คัดค้านว่า ถูกควบคุมตัวในสถานที่ นอกเหนือจากสถานีตำรวจที่เกิดเหตุอันเป็นพื้นที่ห่างไกลก็ดี ขณะจับกุมถูกเจ้าพนักงานตำรวจทำร้ายร่างกายก็ดี และตรวจยึดสิ่งของไปโดยไม่ชอบก็ดี ได้ความจากผู้ร้องเบิกความว่า เหตุผลที่ต้องแยกควบคุมผู้ต้องหาทั้งเก้าออกเป็น 3 ส่วน หรือ 3 สถานีตำรวจ เป็นไปตามคำสั่งกองบัญชาการตำรวจนครบาล เนื่องจากเกรงว่าจะมีมวลชนมาปิดล้อม และบริเวณ สน.สำราญราษฎร์ ที่เกิดเหตุมีบ้านพักราชการและบ้านเรือนประชาชนเกรงว่าจะได้รับผลกระทบจากการชุมนุมอีก กรณีจึงเป็นเรื่องความปลอดภัยและความสงบสุขโดยรวมของประชาชน

ส่วนเรื่องการทำร้ายร่างกายนั้น ปรากฏว่า ฝ่ายผู้ต้องหาทั้งเก้าก็ได้ใช้สิทธิตามกฎหมายโดยร้องทุกข์เพื่อดำเนินคดีเป็นคดีต่างหากแล้ว ในการตรวจยึดสิ่งของ เช่นโทรศัพท์เคลื่อนที่ได้มีการจัดทำบันทึกการตรวจยึดไว้เป็นหลักฐาน ส่วนสถานีตำรวจที่นำผู้ต้องหาทั้งเก้าไปควบคุมสามารถเดินทางไปได้โดยสะดวก และแม้ผู้ต้องหาทั้งเก้าคัดค้านว่าผู้ต้องหาทั้งเก้าไม่มีพฤติการณ์หลบหนีก็ตาม แต่เมื่อกรณีมีหลักฐานตามสมควรว่าผู้ต้องหาทั้งเก้าน่าจะได้กระทำความผิดอาญาตามที่ถูกกล่าวหาซึ่งมีอัตราโทษจำคุกอย่างสูงเกิน 3 ปี และพนักงานสอบสวนมีความจำเป็นต้องฝากขังผู้ต้องหาทั้งเก้าด้วยเหตุผลดังกล่าวข้างต้น นอกจากนี้ผู้ต้องหาทั้งเก้ามีสิทธิที่จะยื่นคำร้องขอปล่อยชั่วคราวในระหว่างสอบสวนอยู่แล้ว ข้อคัดค้านของผู้ต้องหาทั้งเก้าฟังไม่ขึ้น จึงอนุญาตให้ฝากขังผู้ต้องหาทั้งเก้า โดยตามคำร้องฝากขังครั้งที่ 1 นั้น มีกำหนด 12 วันตั้งแต่วันที่ 11-22 พ.ค.นี้

ด้าน นายกฤษฏางค์ นุตจรัส ทนายความผู้ต้องหา กล่าวว่า ศาลอนุญาตให้ฝากขังมีกำหนด 12 วัน และให้ยกคำร้องคัดค้านฝากขัง ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างยื่นคำร้องและหลักทรัพย์ประกันตัวเพื่อจะขอปล่อยชั่วคราวผู้ต้องหาทั้ง 9 คน

อย่างไรก็ตาม ในวันนี้ปรากฏว่า มีผู้ปกครองและญาติผู้ต้องหา พร้อมเพื่อนๆ ประมาณ 20 กว่าคน มารอให้กำลังใจ

ภายหลังทนายความยื่นประกันผู้ต้องหาทั้ง 9 คน โดยยื่นหลักทรัพย์เป็นเงินสดแล้ว

 

 

 

ล่าสุด 16.00 น. ศาลอาญา มีคำสั่งอนุญาตให้ปล่อยชั่วคราวผู้ต้องหาทั้ง 9 ในชั้นฝากขังนี้โดยตีราคาประกันคนละ 25,000 บาท โดยไม่ได้กำหนดเงื่อนไขใดๆ

ภายหลังได้รับการปล่อยชั่วคราว น.ส.ทานตะวัน หรือ “ตะวัน” และน.ส.อรวรรณ หรือ “แบม” กล่าวว่า เราไปที่สน.สำราญราษฎร์เพื่อสอบถามเรื่องที่พนักงานสอบสวนแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มแก่น้องหยก เยาวชนอายุ 15 ปี ที่อยู่ในสถานพินิจบ้านปราณี ในคดีความผิด มาตรา 112 ซึ่งใกล้จะเปิดเทอมแล้ว จากเหตุการณ์ดังกล่าวทางตำรวจสน.สำราญราษฎร์ให้พวกเราขึ้นไปพูดคุยบนโรงพัก แต่เราเห็นว่าหากบริสุทธิ์ใจให้ลงมาคุยกับประชาชนด้านล่างโรงพัก จากนั้นจึงมีตำรวจควบคุมฝูงชนประมาณ 1 กองร้อยมาที่สน.สำราญราษฎร์จนกระทั่งเกิดความรุนแรงดังกล่าวขึ้นและทุกคนต่างมีร่องรอยอาการบาดเจ็บ

น.ส.ทานตะวัน กล่าวว่า สิ่งที่เรามีคือโทรโข่ง และสาดสีไปที่ชุดของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ซึ่งสามารถทำความสะอาดล้างออกได้ แต่สิ่งที่ตำรวจทำกับพวกเราถือว่ารุนแรงมากกว่า และในช่วงเย็นวันนี้ก็เตรียมจะเดินทางไปสอบถามโทรศัพท์ของพวกเราทั้ง 9 คน ซึ่งไม่ทราบว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจนำเอาไปไว้ที่ใด เพราะว่าพวกเราทุกคนมีความจำเป็นต้องใช้โทรศัพท์ในการติดต่อสื่อสาร หรือใช้ทำมาหากิน และศาลก็ไม่ได้มีคำสั่งให้ยึดโทรศัพท์ไว้ ดังนั้นเราต้องการเอาโทรศัพท์คืนมาให้เร็วที่สุด ซึ่งก็ไม่รู้ว่าจะเกิดความวุ่นวายหรือไม่ อยู่ที่การตอบรับของเจ้าหน้าที่ตำรวจสน.สำราญราษฎร์ ส่วนการเคลื่อนไหวก็จะยังคงดำเนินต่อไปเช่นเดิม

 

 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

ยูเครนลั่นไม่ทำลายทุ่นระเบิดอ้างถูกรัสเซียรุกราน
ผบ.ตร.สั่งตรวจสอบดำเนินคดี “กลุ่มน้ำไม่อาบ” ทุกมิติ พร้อมเอาผิดตามหลักฐานคลิปที่ปรากฏ
ขุนเขา ‘ฮว่าซาน’ ่ของจีนสวยสะกดยามห่มหิมะขาว
ทหารพรานจัดกำลังตรวจค้นเก็บกู้บ่วงดักสัตว์ป่า
ผลักดัน ! แรงงานต่างด้าวมากกว่า 100 ราย ออกนอกประเทศ หวั่นเกรงมาสร้างความวุ่นวายในพื้นที่
เมืองคอนน้ำท่วมหนักหลายพื้นที่ หากผลไม่หยุดตกคืนนี้ตัวเมืองอ่วมอรทัยแน่นอน-ในเบื้องต้นนายอำเภอ,นายกเล็กฯจับมือศูนย์ข่าวนคร 24 ชั่วโมงสมาคมสื่อมวลชนและชมรมรถจิ๊ปลุยช่วยชาวบ้านแล้ว-เรียกร้องเจ้าพนักงานที่ดินเด้งตรวจสอบนายทุนถมลำคลองปิดกั้นทางน้ำว่าออกโฉนดที่ดินโดยชอบด้วยกฎหมายหรือไม่
โซเชียลถามกลับ “พรรคส้ม” รู้ยังมีทหารไว้ทำไม? หลังเกิดเหตุการณ์ "กลุ่มว้าแดงและทหารไทย"
ผบ.สอ.รฝ.ประดับเครื่องหมายเลื่อนยศ นักรบต่อสู้อากาศยาน 46 นาย
‘สามารถ’ คอตกศาลไม่ให้ประกัน เตรียมส่งเข้าเรือนจำ ส่วน ‘แม่’ วางเงิน 5 แสนบาท ได้รับปล่อยตัว
"กองทัพภาคที่ 3" แถลงข่าวแจงพื้นที่ "กองกำลังว้าแดง" ตั้งฐานปฏิบัติการลุกล้ำไทย ยังไม่มีการสำรวจ หรือปักปันเขตแดน

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น