“อนุทิน” ปราศรัยใหญ่ทิ้งทวน ลั่น “ภูมิใจไทย” ขอแจ้งเกิดกรุงเทพฯ พร้อมแก้ปัญหาเดินหน้าประเทศ อ้อนประชาชนติดแฮชแท็ก “อนุทินไปต่อไม่รอแล้ว”

“ภท.” ขอแจ้งเกิดกรุงเทพฯ “อนุทิน” เหน็บพ่อค้าอย่ารีบร้อนเป็นนายกฯ สอนมวยต้องสะสมประสบการณ์ เปรียบกรุงโรมไม่ได้สร้างเสร็จวันเดียว ส่วน “ชูวิทย์” มาตามนัดปักหลักบนทางด่วนป่วยเวทีปราศรัยภูมิใจไทย “เสี่ยหนู” ปลุกชาวบ้านโห่ไล่

 

เมื่อเวลา 17.40 น. วันที่ 12 พ.ค. 2566 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พรรคภูมิใจไทย (ภท.) ได้จัดเวทีปราศรัยใหญ่บริเวณลานหน้าห้างสรรพสินค้าโชว์ดีซี ถ.พระราม 9 นำโดยนายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคและแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พร้อมด้วยแกนนำพรรคคนอื่น ๆ อาทิ นายศุภชัย ใจสมุทร นายทะเบียนพรรค น.ส.ศุภมาส อิศรภักดี ผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ และนายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ ผอ.การเลือกตั้งกทม. เพื่อแนะนำตัวผู้สมัครส.ส.กทม.ทั้ง 33 เขต พร้อมกับปราศรัยใหญ่เป็นครั้งสุดท้ายก่อนที่จะถึงวันเลือกตั้งในวันที่ 14 พ.ค.นี้

 

 

อาจเป็นรูปภาพของ 10 คน, ฝูงชน และ ข้อความ

จากนั้นเวลา 18.30 น. นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ ผอ.การเลือกตั้งกทม. ปราศรัยตอนหนึ่งว่า พรรคภูมิใจไทยมั่นใจมาก เราไม่สนกระแส เพราะเรามั่นใจในตัวพี่น้องประชาชน วันนี้อนุทินอยู่ตรงกลางเดินหน้าแก้ปัญหาไม่สนใจใครเลย วันนี้พี่น้องกลับไปขึ้นแฮชแท็กเลย “อนุทินไปต่อไม่รอแล้ว” ปล่อยให้ลุงกับหลานเขาทะเลาะกันไป เพราะวันนี้ปัญหาของพี่น้องประชาชนมีเยอะ นายอนุทินจึงขอเดินหน้าทำงานให้พี่น้องประชาชนลูกเดียว

 

 

“มีคนปรามาสหัวหน้าพรรค และตนว่าไม่เคยมีส.ส.ในกทม. อยู่บ้านนอกดีแล้ว ซึ่งหัวหน้าพรรคบอกอย่าไปโต้เถียงหรือว่าใคร ให้ตั้งใจทำงานการเมืองแบบใหม่ คือพูดเรื่องที่อยากทำ อยากตั้งใจแก้ปัญหาให้ประชาชน ขณะนี้มีบางคนอ้างว่าตัวเองเป็นคนรุ่นใหม่ คิดใหม่ แล้วขอให้เลือกเขา แต่จะใหม่ได้อย่างไร เพราะไปขึ้นเวทีไหนก็ไปด่าพ่อล่อแม่คนอื่น แต่คนที่ใหม่จริง ๆ คือเรา เพราะนายอนุทินสั่งทุกคนว่าเวลาขึ้นเวทีอย่าด่าคนอื่น แต่ให้พูดถึงสิ่งที่จะทำให้ประชาชน เราไม่เอาความขัดแย้ง ไม่ทะเลาะกับใครแต่ก็มีคนมาพูดว่าพรรคภูมิใจไทยอยู่กับใครก็ได้ ทำไมไม่ถามหัวหน้าของผมเลย ว่าไม่ใช่อยู่กับใครก็ได้ เพราะเราไม่เอาแก้มาตรา 112 เราต้องรู้คุณแผ่นดิน พวกเราภูมิใจไทยพร้อมยืนหยัดปกปักษ์รักษา 3 สถาบันหลัก ไม่มีใครชัดเจนกว่านี้แล้ว หัวหน้าผมไม่ค่อยพูดแต่ทำอย่างเดียว ไม่เหมือนใครบางคนที่พูดอย่างเดียว” นายพุทธิพงษ์ กล่าว

ข่าวที่น่าสนใจ

จากนั้นเวลา 18.50 น. นายอนุทิน ขึ้นเวทีปราศรัยโดยกล่าวว่า จากที่ตนต่อสู้มาตลอดเพราะอยากมีส.ส.กทม.ในครั้งนี้ ตนก็กล้า ๆ กลัว ๆ มาตลอด แต่เห็นพี่น้องวันนี้แล้วมั่นใจว่า พรรคภูมิใจไทยจะได้เกิดในพื้นที่กทม.แน่นอน ตนจะสวดมนต์ว่าขอให้พี่น้องเข้าคูหากาเบอร์ 7 และกาให้คนของพรรคภูมิใจไทย เราทำงานมา 4 ปีในฐานะพรรคร่วมรัฐบาล ถ้าเรายึดกรอบเดิม ๆ ว่าจังหวัดไหนไม่เลือกจะไม่ทำงานให้ แต่เราคิดตรงกันข้าม เพราะจังหวัดไหนไม่เลือกยิ่งต้องทำงานให้เขาเลือกเราจนได้ เรายึดคติตื๊อครองโลก ตื๊อด้วยการทำงาน ไม่ใช่ตื๊อด้วยการด่าทอต่อว่าพรรคอื่น

 

 

อาจเป็นรูปภาพของ 4 คน, แท่นบรรยาย และ ข้อความ

 

“การทำงานเพื่อประชาชนต้องมีประสบการณ์ มีความตั้งใจ ไม่ใช่ขายของอยู่จะมาเป็นนายกฯได้อย่างไร กรุงโรมไม่ได้สร้างในวันเดียว กรุงเทพฯยิ่งแล้วใหญ่ เพราะต้องมีประสบการณ์มาทำงาน จึงขอให้ใจเย็น ๆ เพราะจะมารับใช้บ้านเมือง ต้องอย่ามองประชาชนเป็นเสาไฟฟ้า วันนี้เขาเข้าถึงข้อมูลข่าวสารแยกแยะได้ เชื่อว่า ประชาชนเห็นการทำงานของพรรคภูมิใจไทยตลอด 4 ปีที่ผ่านมา ว่าพูดแล้วทำ” นายอนุทิน กล่าว

 

 

 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างการปราศรัย นายอนุทิน ได้สั่งให้ผู้สมัคร ส.ส.กทม.ทั้งหมดของพรรคที่อยู่บนเวทีก้มกราบพี่น้องประชาชนที่มารับฟังการปราศรัยเพื่อขอคะแนนพร้อมกับพูดว่าถ้าใครไม่กราบขอให้สอบตก

 

 

 

 

 

ต่อมาเมื่อเวลา 19.05 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างที่นายอนุทิน กำลังปราศรัยอยู่บนเวทีนั้น ปรากฏว่านายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ พร้อมมวลชนบางส่วนขึ้นไปบริเวณทางด่วนถนนพระราม 9 เหนือลานโชว์ดีซี พร้อมชูป้าย ข้อความ “เราไม่เอากัญชา เอากัญชากลับไป” “กัญชาฆ่าเยาวชน” “ยกเลิกกัญชา” “บ้ากัญชาพาสังคมพัง” โดยชูไปยังเวทีปราศรัยจากนั้นเมื่อนายอนุทินหันไปเจอจึงได้ ปลุกประชาชนปรบมือให้กับนายชูวิทย์ ที่มาชูป้ายเชียร์พรรคภูมิใจไทย พร้อมตะโกนขอให้นายชูวิทย์ลงมา “ลง ๆ ลงมาโดดมา ๆ อย่าลืมว่าเรานัดกินข้าวกันอยู่ แล้วอาทิตย์หน้าเจอกันนะ” นายอนุทินกล่าวเพียงเท่านั้นก็กลับเข้าสู่การปราศรัยต่อ โดยระบุว่า มีกระบวนการขัดขวางรถไฟฟ้าสายสีส้ม กลัวว่าหัวหน้าพรรคภูมิใจไทยจะมีคะแนนท่วมท้น จึงไปรับจ้างเขามาป่วน ใครห้ามใช้สายสีส้มเป็นคนทำลายชาติ ขอให้พี่น้องโห่ใส่

 

 

 

จากนั้น 19.15 น. เจ้าหน้าตำรวจเข้าเจรจาให้นายชูวิทย์ และทีมงานออกจากบริเวณทางด่วนเนื่องจากกีดขวางการจราจร ซึ่งทันทีที่นายชูวิทย์เคลื่อนตัวออกไป นายอนุทินก็ตะโกนว่า “ออกไป ไปไกล ๆ” เช่นเดียวกับประชาชนที่มาฟังปราศรัยก็โห่ไล่ พร้อมตะโกนว่า “ไม่แน่จริงนี่หว่า ถ้าแน่จริงให้ลงมาข้างล่าง”

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

สามเชฟดังร่วมรังสรรค์เมนูเพื่อการกุศลทางการแพทย์
"ทนายบอสพอล" เผยเป็นไปตามคาด "เอก สายไหม" ถูกจับ จ่อดำเนินคดีหมิ่นประมาท เรียกค่าเสียหาย 100 ล้าน
ศาลออกหมายจับ 'เจ๊หนิง' พร้อมสามีและหลาน ร่วมกันแจ้งความเท็จ 'ภรรยาบิ๊กโจ๊ก'
อิสราเอลถล่มเลบานอนดับครึ่งร้อย
หมายจับ ICC กระทบอิสราเอลอย่างไร
เปิดวิสัยทัศน์ประธานเครือข่ายธุรกิจ Bizclub นครราชสีมาคนใหม่ “กิม ฐิติพรรณ จันทร์ประทักษ์”
เกาหลีใต้ชี้รัสเซียส่งระบบป้องกันภัยทางอากาศให้เกาหลีเหนือ
สหรัฐเมินไฮเปอร์โซนิครัสเซียลั่นไม่หยุดหนุนยูเครน
เมียเอเย่นต์ค้ายาบ้า ร้องถูกตร.รีด 5 แสน แลกปล่อยตัว พ่วงเรียกเก็บเงินรายเดือน
สถาปนาเขตพื้นที่คุ้มครองฯ ชาติพันธุ์ชุมชนชาวเลโต๊ะบาหลิว

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น