รศ.หริรักษ์ สูตะบุตร อดีตรองอธิการบดีฝ่ายบริหารบุคคล มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (มธ.) โพสต์เฟซบุ๊ก Harirak Sutabutr ข้อความว่า การแทรกแซงทางการเมืองของประเทศมหาอำนาจ เช่น สหรัฐอเมริกาในประเทศเป้าหมายเพื่อผลประโยชน์แห่งชาติหรือ national interest มีหลายรูปแบบ มีทั้งสนับสนนุนอาวุธให้ กลุ่มคอนทราที่ต้องการโค่นล้มรัฐบาล ในกรณีของประเทศ นิคารากัว ในประเทศซีเรียกลับสนับสนุนให้กลุ่มไอซิสซึ่งเคยเป็นศัตรูเพื่อล้มรัฐบาลของของนาย อัลอะซัด และมีการสนับสนุนให้ประชาชนบางกลุ่มประท้วงขับไล่รัฐบาลของประเทศที่ไม่ยอมทำตามความต้องการ เช่น กรณีประเทศลิเบีย
การกระทำเหล่านี้ ประเทศมหาอำนาจคำนึงผลประโยชน์แห่งชาติเป็นที่ตั้ง ซึ่งก็เชื่อกันว่าเป็นผลประโยชน์ของกลุ่มทุนที่มีอำนาจเหนือรัฐบาล อย่างที่เรียกว่า Deep State มากกว่า ไม่เคยสนใจเลยว่าประเทศที่เข้าแทรกแซงจะมีสภาพอย่างไร
ตัวอย่างที่น่าสลดหดหู่ที่สุดคือ ลิเบีย เพราะต้องการโค่นล้ม มูอัมมาร์ กัดดาฟี ขณะที่กัดดาฟีพยายามจะรวมประเทศในอัฟริกาทั้งหมดให้เป็นพันธมิตรกัน ก็เกิดอาหรับสปริง ด้วยเหตุผลที่กัดดาฟีเป็นเผด็จการ ซึ่งความจริงลิเบียเป็นประเทศที่รำ่รวยจากน้ำมัน ประชาชนอยู่ดีกินดี เรียนฟรี รักษาพยาบาลฟรี และมีสวัสดิกาอื่นๆอีกมากมาย ในที่สุดกัดดาฟีถูกจับและถูกฆ่าตาย มีข่าวว่ามีอีเมลของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศสหรัฐอเมริกาหลุด ซึ่งบ่งบอกว่าซีไอเออยู่เบื้องหลังการสังหารกัดดาฟี
หลังจากที่กัดดาฟีเสียชีวิตเมื่อ 9 ปีที่แล้ว ลิเบียยังคงมีการสู้รบกัน ประชาชาขนยังคงเสียชีวิตและสูญหายเป็นจำนวนมาก และยังคงวุ่นวายยุ่งเหยิง ยังไม่มีรัฐธรรมนูญฉบับถาวร และไม่สามารถจัดให้มีการเลือกตั้งได้ จนถึงปัจจุบัน
ปัจจุบัน ผู้นำประเทศอัฟริกาเกือบทุกประเทศ ออกมากล่าวตำหนิสหรัฐอเมริกาอย่างเปิดเผย และหันไปผูกมิตรกับจีนแทน ซึ่งประเทศจีนต่างกับประเทศสหรัฐอิมริกาตรงที่จีนไม่แทรกแซงทางการเมือง ไม่กำหนดให้ประเทศอื่นๆต้องทำตามแบบตัวเอง แต่เลือกที่จะแทรกแซงทางเศรษฐกิจอย่างเป็นมิตร ไม่เอาเปรียบและให้ความช่วยเหลือทางเศรษฐกิจ และอาจมีการแลกเปลี่ยนผลประโยชน์อย่างเป็นธรรม