“ส.ว.สมชาย” ซัด “ก้าวไกล” อยากให้หนุน “พิธา” เป็นนายกฯ ต้องทำสัญญาประชาคมยกเลิกแก้ม.112

เมื่อถามว่าถ้าส.ว.จะโหวตให้นายพิธาเป็นนายกฯ ต้องมีคุณสมบัติอะไรบ้าง นายสมชาย กล่าวว่า สำหรับตนคือมีวิสัยทัศน์ แรงบันดาลใจ และรอบรู้ ดูแลความสงบเรียบร้อยและความมั่นคงของประเทศ และต้องดูเสียงการจัดตั้งรัฐบาล ปัจจัยสำคัญของตนคือการปฏิญาณตนต่อสภา และพระมหากษัตริย์ ว่าจะจงรักภักดีต่อชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ซึ่งเงื่อนไขนี้ไม่ใช่เฉพาะส.ว.แต่เป็นเงื่อนไขของสภาผู้แทนราษฎร ครม.ที่ต้องถวายสัตย์ปฏิญาณตน เพราะฉะนั้น ตนขอลดความสุดโต่งของนายพิธา และพรรคก้าวไกล ว่าไม่ต้องมาบีบบังคับส.ว. ลดเงื่อนไขลง คือยกเลิกหรือแก้ไข ม.112 ซึ่งทำให้เป็นอุปสรรคของพรรคก้าวไกลเอง เลิกเสนอได้แล้ว

“ผมอยากฝากไปถึงนายพิธา และพรรคก้าวไกล ว่าไม่ต้องมาบีบส.ว. ซึ่งที่ผมเห็นว่าทำไมต้องบีบส.ว.เพราะพรรคก้าวไกลไม่มั่นใจคะแนนเสียงจากพรรคร่วมฯ ที่จะตกหล่น ผมยังไม่ได้ยินชัดเจนว่าพรรคเพื่อไทยจะเข้าร่วมเป็นรัฐบาล เห็นแต่คำแถลงที่บอกว่ายินดี กับพรรคก้าวไกล และให้ก้าวไกลจัดตั้งรัฐบาลไปก่อน เพราะเป็นพรรคที่ได้เสียงมาอันดับหนึ่ง การเลือกตั้งครั้งที่แล้ว พรรคเพื่อไทยก็แข่งกับพรรคพลังประชารัฐ ท้ายสุดก่อนจะมาถึงส.ว.ผมเชื่อว่า พรรคที่ 1 และที่ 2 จะแบ่งขั้วกันจับมือแข่งกันมาให้ส.ว.เลือกแน่นอน เมื่อถึงเวลานั้น ถ้าไม่ลดเงื่อนไข ที่เป็นปัญหาของคุณเอง แก้ไขและยกเลิก ม.112 ส.ว.ส่วนใหญ่ก็คงลำบากใจที่จะโหวตให้ แม้จะฟังเสียงประชาชนที่เลือกมา 14 ล้านเสียง และถ้าพิจารณาขั้วที่สอง เพื่อไทย ภูมิใจไทย พลังประชารัฐ ประชาธิปัตย์ ชาติไทยพัฒนา ก็มีเสียงพอ ๆ กันมาให้ส.ว.เลือก โดยไม่มีเงื่อนไขม.112 ก็คิดว่าส.ว.จะโหวตให้ แต่ถ้าปล่อยให้ม.112 เป็นเงื่อนไขจนทำให้เกิดการปะทะกันของประชาชน เราก็คงไม่ยอม ไปลดเงื่อนไขตรงนี้ซึ่งเป็นเงื่อนไขที่ทำให้เกิดสงครามการเมืองโดยไม่จำเป็น” นายสมชาย กล่าว

ต่อข้อถามว่าถ้าก้าวไกลยอมรับปาก แต่เมื่อเป็นรัฐบาลก็เสนอแก้ไขม.112 ทันทีจะทำอย่างไร นายสมชาย กล่าวว่า ม็อบลงถนนทันที อย่างไรก็ตามก่อนจะรับปากต้องให้สัญญาประชาคมอยู่แล้วว่าจะยกเลิกแก้ไขม. 112