วานนี้พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล มัดรวม 8 พรรค นั่งโต๊ะแถลงจัดตั้งรัฐบาล ณ โรงแรมโอกุระ เพรสทีจ กรุงเทพฯประกอบด้วย ก้าวไกล 152 คน เพื่อไทย 141 คน ประชาชาติ 9 คน ไทยสร้างไทย 6 คน เสรีรวมไทย 1 คน เพื่อไทรวมพลัง 2 คน เป็นธรรม 1 คน และ พลังสังคมใหม่ 1 คน แถมล่าสุดเตรียมดึงอีก 1 พรรคเป็นพรรคที่ 9 คือ พรรคใหม่ 1 คน ทำให้สถานภาพรัฐบาลของพิธาล่าสุดจะขยับเป็น 9 พรรค 314 คน ยังขาดเสียงสนับสนุนอีก 52 คน แม้จะมีข่าวว่ามีส.ว.เกือบสิบคนเตรียมที่จะโหวตหนุนให้กับพิธาเป็นนายกฯเพื่อจะให้ได้เสียงมากกว่ากึ่งหนึ่งของสองสภาคือ 376 จาก 750 คน แต่ก็ยังเหลือเสียงอีกมากเพื่อให้ไปถึงจุดที่พิธาจะได้เป็นนายกฯ ซึ่งไม่ง่ายแม้จะมีระยะเวลาอีกเกือบ 2 เดือน กว่ากกต.จะประกาศรับรองผลก่อนวันที่ 13 ก.ค.2566 ( ก่อน 60 วันหลังเลือกตั้ง) แต่ต้องบอกเลยว่าไม่ง่ายที่พิธาจะแสวงหาแนวร่วมจากส.ว.หรือแม้แต่ส.ส.ให้มายกโหวตให้ตัวเอง
อย่างที่รู้ว่าก้าวไกลทำการเมืองแบบสุดโต่ง เสนอนโยบายหลายเรื่องแบบพลิกฟ้าคว่ำแผ่นดิน เอานโยบายใหม่แบบตะวันตกเข้ามาจับ เอาความคิดแบบก้าวหน้าหัวใหม่เขามาเป็นจุดขาย ตรงนี้อาจจะได้ใจคนรุ่นใหม่ ได้คะแนนจากบรรดานิสิต นักศึกษา คนชั้นกลาง คนในหัวเมืองใหญ่ แต่อย่าลืมว่าประเทศไทยยังมีกลุ่มอนุรักษ์นิยมกลุ่มคนที่ยังยึดมั่นในสถาบันพระมหากษัตริย์ ยึดมั่นในขนบธรรมเนียบ ประเพณีวัฒนธรรมอันดีงามแบบไทยๆก็ยังมีอีกมาก อย่างที่บอกว่าประเทศไทยมีคน 60 ล้านคน ผู้มีสิทธิเลือกตั้ง 14 พ.ค.2566 มีจำนวน 52,238,594 คน ออกมาใช้สิทธิ์ 39,284,752 คน คิดเป็น 75.20 % ก้าวไกลได้ส.ส.เขตไป 113 คน ( 9,535,709 คะแนน) จาก 400 คน คิดเป็น 24.27 % ของจำนวนส.ส.เขตทั้งหมด ได้ส.ส.บัญชีรายชื่อไป 39 คน จาก 14,233,895 ล้านคะแนน คิดเป็น 36.23 % รวมกันได้ส.ส.ไป 152 คน จาก 500 คนของสภาผู้แทนราษฎร หรือคิดเป็น 30.4 % ของสภาผู้แทนราฎร เพราะฉะนั้นก้าวไกลอาจจะชนะการเลือกตั้งแบบท่วมท้นมาเป็นที่ 1 ในการเลือกตั้งคราวนี้ แต่ไม่ใช่แลนด์สไลด์และไม่ได้ส.ส.เกินครึ่งของสภาผู้แทนราษฎร หนำซ้ำการเลือกตั้งรอบนี้กติกาที่กำกับไว้คือ รัฐธรรมนูญ 2560 ก็ระบุชัดเจนว่า โดยเฉพาะใน ม.272 วรคแรก ” มติที่เห็นชอบการแต่งตั้งบุคคลใดให้เป็นนายกรัฐมนตรีตามมาตรา 159 วรรคสาม ต้องมีคะแนนเสียงมากกว่ากึ่งหนึ่งของจำนวนสมาชิกทั้งหมดเท่าที่มีอยู่ของทั้งสองสภา” พิธา ก้าวไกล ติ่งส้ม ด้อมส้ม พวกสามกีบ ก๊วนล้มเจ้า จะอ้างฉันทามติ จะอ้างเสียงส่วนใหญ่ จะอ้างเสียงข้างมาก อะไรก็ตามแต่ ให้ส.ส.กับส.ว.ต้องยกมือให้พ่อพิธาเป็นนายกฯ แต่อย่าลืมว่าทุกพรรคทุกขั้วทุกสีก็มีคนที่รักที่ชอบ มีอุดมการณ์ มีจุดยืนที่ต่างกัน จู่ๆหลังการเลือกตั้ง จะมาขี้ตู่ จะมากดดัน จะมาข่มขู่ ให้ทุกคนเลือกคนที่ไม่ใช่คนที่ไม่ชอบให้เป็นนายกฯ ก็คงเป็นไปไม่ได้ ต่อให้เป็นเสียงข้างมากก็ต้องรับฟังเสียงข้างน้อยในระบอบประชาธิปไตยมันควรเป็นแบบนี้
อย่าลืมว่าเหตุผลที่หลายพรรคการเมือง อย่าลืมว่าเหตุผลที่ส.ว.ส่วนใหญ่ไม่อยากยกมือให้พิธาเป็นนายกฯ เพื่อที่อนาคตจะได้เป็นผู้นำรัฐบาล ก็เพราะ “กลัวพิธา-ขยาดก้าวไกล”มองแล้วว่าถ้าให้พิธาเป็นผู้นำประเทศให้ก้าวไกลเป็นแกนนำรัฐบาล อนาคตประเทศไทยฉิบหายไปหน้าแน่ เพราะทำแต่เรื่องเรียกแขก คิดแต่เรื่องที่จะทำให้คนขัดแย้งกัน ความสามัคคีจะหมดไป ความเลวร้ายจะปกคลุม พูดตรงๆเอาง่ายๆ ก็เพราะนโยบายของก้าวไกลและจุดยืนของพิธาหลายเรื่องมันสุ่มเสี่ยงพาประเทศชาติลงเหว หลายเรื่องมีแนวโน้มจะทำให้เกิดความขัดแย้งในสังคมไทย เพราะมีนโยบายสุดโต่งสุดขั้วไปทุกเรื่อง ไล่ไปเลยตั้งแต่เรื่องแรกการพาประเทศไทยไปอยู่ใต้ตีนอเมริกา บริหารประเทศแบบโปรตะวันตก อย่าลืมว่าประเทศไทยเดินนโยบายเป็นกลางทางการเมืองระหว่างประเทศมาตลอด อาจจะมองว่าดูเอียงไปทางจีนมากกว่าอเมริกา แต่ก็เพราะผลประโยชน์ของชาติเราได้ดุลย์จากจีนเป็นหลัก ทั้งนักท่องเที่ยว สินค้า บริการ ผลไม้ การค้าการขาย สารพัดจิปาถะ จู่ๆ พิธากับก้าวไกลจะมาพลิกขั้วพาประเทศกลับมุมไปอยู่กับอเมริกา
อนาคตถ้าเกิดความเสียหายกับนโยบายต่างประเทศของไทย ใครจะรับผิดชอบ คนจีนไม่มาเที่ยว ธุรกิจจีนไม่ซื้อผลไม้ไทย ทัวร์จีนไม่มาไม่ซื้อทุเรียนเรา ฯลฯ ร้ายไปกว่านั้นยังจะพาประเทศไปเป็นศัตรูกับรัสเซีย ซาอุฯ อาหรับอีก เกิดขัดแย้งกับประเทศเหล่านี้เพื่อเอาใจโคตรพ่อมะริกันมันคุ้มกันไหม ตัวอย่างก็มีให้เห็นไปยุยูเครนให้รบกับรัสเซีย สุดท้ายเป็นไงตายอยู่คนเดียว เดือดร้อนฉิบหายกันไปหมดทั้งยุโรปและทั้งโลก ยูเครนแทบกลายเป็นประเทศล่มสลาย ประชาชนล้มตายคนไร้บ้านอยู่เศรษฐกิจมลายสิ้น อเมริกาอยากเข้าไทยใจจะขาดลิ้นห้อยเกือบถึงพื้น อยากมาตั้งฐานทัพในไทย อยากมาใช้ทรัพยากรในบ้านเรา เอาไทยเป็นฐานในการส่งกำลังบำรุงของกองทัพ ขยายฐานอำนาจในภูมิภาคนี้ เพื่อถ่วงดุลย์กับจีนและรัสเซียที่แผ่อิทธิพลในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิคมานาน หวังกอบโกยผลประโยชน์ให้ตัวเอง ทั้วทั้งโลกเขาหนีอเมริกายี้ไอ้กันหมด แต่การเมืองไทยกับคนไทยบางส่วนไม่รู้เท่าทันกลับทำตรงข้าม แบะท่าอ้าขาให้ไอ้กันมาย่ำยี ลุงตู่รัฐบาลเก่าๆก่อนๆ ช่วยกันดูแลรักษาไม่ให้ถูกเจาะไข่แดง แต่อนาคตภายหน้าเชื่อแน่ว่าพิธาก้าวไกลจะมาไฟเขียวทุกอย่างให้เข้าทางไอ้กันหมด
ประการต่อมานโยบายรื้อล้างระบบราชการไทยแบบสุดขั้ว ยกเลิกการเกณฑ์ทหาร กวาดล้างกองทัพ ปฏิรูปทหาร ล้างบางตำรวจ เปลี่ยนแปลงระบบราชการ เลือกตั้งผู้ว่าฯ กระจายอำนาจ ฯลฯ ถามว่าทำพวกนี้มันคือการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างประเทศแบบ 360 องศา คิดเหรอว่าจะทำได้ง่ายๆ เรื่องเลวในกองทัพสีเขียว สีกากีมันมี แต่เรื่องดีที่เป็นหน่วยหลักในความมั่นคงของประเทศก็มีมากมายมหาศาล จะมารื้อล้างแบบไม่ให้เกียรติไม่ให้ความสำคัญเหมือนหมูเหมือนหมาทำอะไรตามใจชอบแบบที่หาเสียงไว้มันได้เหรอ ลดทหาร ลดงบประมาณ ต่อไปเกิดปัญหาชายแดนใครจะไปดู น้ำท่วม พายุเข้า ฝนตก ดินถล่ม จะให้ใครไปดูแลช่วยเหลือประชาชน ไม่นับรวมถึงความมั่นคงระหว่างประเทศ การรักษาพื้นที่ตามแนวชายแดน ที่ต้องมีเขี้ยวเล็บไม่ให้ชาติอื่นมาขบเหง พิธาเป็นนายกฯควบรมว.กลาโหม ก้าวไกลเป็นรัฐบาลลองคิดดู กองทัพ-สตช. จะถูกตัดงบ ถูกรุกรานมากมายขนาดไหน เรื่องการศึกษาอนาคตเด็กๆเยาวชนก็น่าเป็นห่วง ขนาดไม่เป็นรัฐบาลไม่มีอำนาจ ยังปั่นบ้านป่วนเมืองได้ถึงขนาดนี้ ทำลายความเชื่อ ลบล้างความดี ด้อยค่าประเพณี ย่ำยีวัฒนธรรม มรดกจากปู่ย่าตายายที่ดีๆ สืบทอดกันมา พังพินาศทลายหมด นโยบายก้าวไกลเรื่องดีก็มีมากแต่เรื่องเลวชาติก็เยอะไปหมด ขีดเส้นใต้ได้เลย คุณธรรมจะหายไปจากแผ่นดิน กตัญญูจะสิ้นสูญจากลูกหลานพวกเราหมด เพราะเอาวัฒนธรรมตะวันตก เอาแนวคิดแบบฝรั่งเข้ามาในไทย ของดีทำลายของชั่วช้ารับมาสืบทอด จะสิ้นชาติ สิ้นแผ่นดินเอาง่ายๆ
ประการสุดท้ายที่เป็น “จุดตาย -จุดสลบ” ของก้าวไกลและพิธา เป็นจุดที่พรรคการเมืองหลายพรรคยอมไม่ได้ ส.ว.จะไม่ทน ก็คือการมีแนวคิดล้มล้างสถาบัน ก้าวไกลคายตะขาบพิษมาจากอนาคตใหม่ที่หลักก็เป็นทายาทคณะราษฎร 2475 กลับชาติมาเกิด หมุดหมายอย่างเดียวในหัวใจคือ การเปลี่ยนแปลงการปกครองของประเทศไทย จากระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ไปเป็นระบอบประธานาธิบดี ใช้ชื่อ “สาธารณรัฐ” เดินตามรอยเท้าฝรั่ง เดินตามตูดไอ้กัน บรรพาบุรุษเสียเลือดเสียเนื้อเพื่อลูกหลาน สถาบันพระมหากษัตริย์อุตส่าเสียสละชีวิตเพื่อปกป้องแผ่นดิน สามกีบส้มเน่าล้มเจ้าเพิ่งขึ้นมาไม่นาน แต่ทำไอโอไม่กี่ปี ปั่นกระแส ฝั่งหัว ให้คนรุ่นใหม่หลงผิด วิบัติ อัปรีย์กันหมดทั้งแผ่นดิน เห็นผิดเป็นชอบเห็นดำเป็นขาว คนดีถูกป้ายสีถูกทำลาย คนจัญไรถูกยกย่องถูกเชิดชู วันนี้ความเป็นไทยสูญสิ้นหมดแล้ว ประเด็นสำคัญที่ทำให้ส.ส.กับส.ว.ไม่อยากให้พิธาไปต่อก้าวไกลได้เป็นรัฐบาล ก็เพราะเล็งเห็นผลแล้วว่าอนาคตบ้านเมืองจะลุกเป็นไฟ ประเด็นยกเลิกม.112 หรือตอนนี้ก้าวไกลพยายามลดระดับลดกระแสลงมาเหลือแค่แก้ไข ม.112 เพราะไม่ต้องการให้เกิดแรงต้านในช่วงที่ยังไม่มีอำนาจ บอกเลยตรงนี้เป็นแค่ “ใบเบิกทาง” เป็นแค่การ “สะเดาะกลอนประตู” ที่เป็นอุปสรรค เพื่อนำไปสู่การขับเคลื่อนขององคาพยพทั้งหมดในการบ่อนเซาะกร่อนทำลายสถาบันพระมหากษัตริย์อันเป็นที่รักของคนไทยในทุกทิศทาง รัฐบาลมีพิธาคุมเกมส์ ในสภามีส.ส.ก้าวไกล ด้านนอกมีธนาธรกับปิยะบูดดูแล มีคนหลงผิดหรือคนที่เป็นแนวร่วมอีกมหาศาลหลายล้านคน
ส้มสามกีบ ส้มล้มเจ้า ส้มเปลี่ยนแปลงการปกครอง ไม่ใช่เรื่องที่ไกลเกินจริง ไม่กี่ปีทำให้คนไทยเลือกได้ 14 ล้านเสียงก็ไม่ธรรมดา ถ้าเราไม่ดูแลถ้าเราไม่ปกป้อง อนาคต “ส้มจะกินชาติ” ทำลายความงดงามทั้งหมดของแผ่นดิน พิธาเคยพูดเรื่องการปฏิรูปสถาบันในสภาในแบบสุดจ้าบจ้วง ” นี้คือเจตตำนงค์ที่ต้องการจะเปลี่ยนระบอบการเมืองจากระบอบเจ้าชีวิตมาสู่ระบอบกษัตริย์ใต้รัฐธรรมนูญ สร้างสถาบันการเมืองที่ยึดโยงกับอำนาจสูงสุดของราษฎร หาใช่อำนาจที่ทำนาบนหลังราษฎร” ขณะที่แกนนำพรรคอย่างปิยะบูดก็ส่งสัญญาณเรื่อง ม.112 บ่อยครั้งในเชิงให้ “ยกเลิก” ไม่ใช่แค่ “แก้ไข” ตามที่กล่าวอ้าง ” เราต้องเปลี่ยนใจคนให้ได้ เปลี่ยนคนไม่อยากแก้มาแก้ให้ได้ เปลี่ยนคนอยากแก้ให้ยกเลิก และต้องทำให้ฝ่ายที่ไม่อยากแตะต้อง ม.112 กลายเป็นคนส่วนน้อยในสังคมให้ได้” พรรคอุบาทว์แกนนำหยาบช้ามวลชนกร่างทั้งแผ่นดิน ถ้าคนไทยไม่หูตาสว่าง ถ้าคนรุ่นใหม่ไม่เท่าทัน ถ้าส.ส.ไม่แสดงจุดยืนเพื่อชาติ ถ้าส.ว.ไม่เป็นกำแพงเหล็กด่านสุดท้ายปกป้องสถาบัน คลื่นส้มจะถาโถมกลืนกินประเทศ ชาติไทยจะเหลือแค่สีเดียว อยากให้แผ่นเกิดที่เรารักวิบัติเป็นแบบนั้นหรือ
///////////////////////