ขณะที่ผู้นำระดับโลกกำลังร่วมประชุมกัน ในวันสุดท้ายของการประชุมสุดยอด G7 แต่ในย่านช็อปปิ้ง ของเมืองฮิโรชิม่าแห่งญี่ปุ่น ตำรวจได้เข้าปะทะกับกลุ่มผู้ที่มาประท้วงการประชุม G7 เช่นเดียวกับในสวนเซ็นดา พาร์ค ซึ่งอยู่ใจกลางของเมืองฮิโรชิม่า ผู้คนจากสหรัฐ, ฟิลิปปินส์, และเกาหลีใต้ ต่างก็เข้าร่วมกับกลุ่มผู้ประท้วงในพื้นที่ พร้อมชูป้ายที่แสดงออกว่า การประชุม G7 คือเครื่องมือยุทธศาสตร์ทางทหารของสหรัฐ ในการแทรกแซงกิจการในเอเชีย และเป็นภัยคุกคามต่อเสถียรภาพในภูมิภาคด้วย
ด้านโฆษกกระทรวงต่างประเทศของจีน ก็ได้ออกมาแถลงการณ์ตอบโต้การประชุม G7 เช่นกัน โดยได้กล่าวว่า หมดยุคแล้วที่ประเทศตะวันตกไม่กี่ประเทศ จะสามารถเข้าไปแทรกแซงกิจการภายในของประเทศอื่น และบงการกิจการระดับโลกได้ และในส่วนของการพาดพิงจีนว่าทำการบีบบังคับทางเศรษฐกิจนั้น จีนก็ได้ชี้ให้เห็นว่า การคว่ำบาตรฝ่ายเดียวครั้งใหญ่ และการขัดขวางอุตสาหกรรมห่วงโซ่อุปทาน คือสิ่งที่ทำให้เห็นว่า สหรัฐคือผู้บีบบังคับที่แท้จริง โดยในช่วงระหว่างปี 2000-2021 สหรัฐคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจฝ่ายเดียวในเกือบ 40 ประเทศ ส่งผลกระทบต่อประชากรไปเกือบครึ่งหนึ่งของโลก