ผอ.รพ.อ่างทอง ชี้แจงดราม่า หลังมีชื่อลูกชาย ได้ฉีดไฟเซอร์ เข็ม 3

ผอ.รพ.ดัง จ.อ่างทอง ออกมาชี้แจงดราม่า หลังมีชื่อลูกชาย ได้ฉีดวัคซีนไฟเซอร์ เข็ม 3 พร้อมยืนยันความบริสุทธิ์ใจ สามารถตรวจสอบรายชื่อได้

นายแพทย์ประภาส ลี้สุทธิพรชัย ผู้อำนวยการโรงพยาบาลอ่างทอง ออกมาเปิดเผยกับผู้สื่อข่าว หลังเกิดดราม่ามีผู้นำข้อมูลรายชื่อบุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุขด่านหน้า ที่เข้ารับการฉีดวัคซีนไฟเซอร์ เข็มที่ 3 ในวันที่ 10 – 11 ส.ค. 64  ที่ผ่านมา  ซึ่งปรากฏว่ามีชื่อของลูกชายผู้อำนวยการ ซึ่งไม่ได้เป็นบุคลากรทางการแพทย์ของทางโรงพยาบาลร่วมฉีดด้วย  พร้อมเปิดเผยข้อเท็จจริงกับผู้สื่อข่าวว่า ในการบริหารการฉีดวัคซีนของทางโรงพยาบาลเป็นรูปแบบคณะกรรมการภายในโรงพยาบาล โดยมีรองผู้อำนวยการทุกฝ่ายร่วมกันพิจารณา ซึ่งตนเองไม่ได้ร่วมเป็นคณะกรรมการ สำหรับรายชื่อที่มีผู้นำไปเผยแพร่ ทำให้เกิดกระแสดราม่าขึ้น

ตนเองยอมรับว่าได้มีการสำรวจบุคลากรในรอบแรกทุกที่ที่ประสงค์ฉีดวัคซีน รวมถึงคลินิกต่างๆ ที่สัมผัสเสี่ยงสูงกับคนไข้  แต่ไม่ได้จัดสรร ซึ่งตนเองยืนยันว่า ลูกชายไม่ได้ฉีดวัคซีนไฟเซอร์ บู๊ทเข็มที่ 3 ที่โรงพยาบาลอ่างทอง และไม่มีความประสงค์ที่จะให้มีรายชื่อฉีดวัคซีนไฟเซอร์อีกด้วย โดยตนเองพร้อมที่จะเปิดเผยรายชื่อข้อมูลอย่างโปร่งใส สำหรับผู้ที่มีรายชื่อฉีดวัคซีนซึ่งจะขอทำการตรวจสอบได้ และขอยืนยันว่าการบริหารวัคซีนเป็นวัคซีนของบุคลากรที่ให้บริการด้านหน้าทุกคน ซึ่งสามารถสอบถามได้จากเจ้าหน้าที่ว่าได้รับการจัดสรรการฉีดวัคซีนแล้วทุกคน

ด้าน นพ.กิตติ  อิ่มใจ รองผู้อำนวยการฝ่ายบริหาร ที่รับผิดชอบดูแลการฉีดวัคซีนของบุคลากรใน รพ. เปิดเผยว่า สำหรับข้อเท็จจริงที่ถูกนำไปเผยแพร่ เป็นข้อมูลที่นำเสนอว่า บุคลากรคนใดต้องการวัคซีนชนิดใด ซึ่งเป็นข้อมูลร้องขอที่จะต้องนำไปพิจารณาลำดับความสำคัญ ของบุคลากรในความเสี่ยงที่ทำงานด้านหน้า ซึ่งทางคณะกรรมการได้ขอให้แต่ละหน่วยงานส่งรายชื่อบุคลากรที่เป็นด่านหน้าที่มีความจำเป็นมา รวมถึงคลินิกต่าง ๆ ที่มีความเสี่ยงสูง โดยยังไม่ได้รับการฉีดวัคซีน  สำหรับลูกชายท่านผู้อำนวยการที่มีชื่อปรากฏ ซึ่งเป็นแพทย์ที่ทำงานอยู่ด่านหน้าเช่นกัน  ก็ไม่ได้รับการฉีดวัคซีน  เพราะได้รับการฉีดวัคซีนที่โรงพยาบาลต้นสังกัด

อย่างไรก็ตาม รพ.อ่างทอง ได้รับการจัดสรรโควต้าในการฉีดวัคซีนให้กับบุคลากรทางการแพทย์ จำนวน 545 โดส จากยอดทั้งหมด 648 คน  ซึ่งจัดสรรตามความสำคัญ  แต่ยังไม่เพียงพอในการฉีด  ตนเองยืนยันว่าคณะกรรมการได้ทำการจัดลำดับความสำคัญของบุคลากรทางการแพทย์อย่างโปร่งใส  แต่ต้องยอมรับว่าในการลงทะเบียนฉีดวัคซีน Pfizer เข็มที่ 3  อาจจะมีบุคลากรบางส่วนยังไม่ได้ลงชื่อหรือลงชื่อเป็นบางส่วนไม่ครบ  ซึ่งทางคณะกรรมการไม่สามารถลงไปตรวจสอบรายละเอียดได้ทุกราย  สำหรับตนเองไม่ตำหนิผู้ที่นำข้อมูลไปเผยแพร่  เพราะข้อมูลดังกล่าวเป็นข้อมูลชุดแรกที่ยังไม่ได้ทำการพิจารณา ซึ่งหลังจากการพิจารณาแล้วเป็นข้อมูลสุดท้ายที่บุคลากรทางการแพทย์ของโรงพยาบาลอ่างทอง  ที่มีความสำคัญเรียงลำดับมีความจำเป็นที่ต้องฉีดทั้งหมดต่อไป

ข่าวที่น่าสนใจ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

"สก.นภาพล" จี้ "ชัชชาติ" เร่งเคลียร์หนี้รถไฟฟ้าสีเขียว เสียดายภาระดอกเบี้่ยวันละ 5.4 ล้าน ควรใช้นำพัฒนากทม.
เวียดนามเริ่มเจรจาการค้าปมภาษีตอบโต้กับสหรัฐแล้ว
มูลนิธิมาดามแป้ง มอบอาหารและของใช้จำเป็น มูลค่า 100,000 บาท ช่วยเหลือผู้ประสบภัยแผ่นดินไหวที่เมียนมา
ตำรวจทางหลวง จับมือ ซีพีเอฟ รณรงค์ขับขี่ปลอดภัย ช่วงสงกรานต์ กับแคมเปญ 'หิวไม่ขับ พักเติมพลังกับไส้กรอกซีพี' พร้อมเสิร์ฟ ฟรี 2 จุดหลัก วังน้อย-วังมะนาว
ซีพี – ซีพีเอฟ หนุนโครงการ ‘สานใจไทย สู่ใจใต้’ รุ่นที่ 44 เสริมสร้างโอกาสการศึกษา พัฒนาความคิดและทักษะอาชีพแก่เยาวชนไทยรุ่นใหม่
บันเทิงไทยสู่เวทีโลก! ผู้ประกอบการไทยโชว์ผลงานเด่นใน FILMART 2025
จีนเตือนนศ.ประเมินเสี่ยงก่อนไปสหรัฐฯ
"รองผู้ว่าสตง." แจงกมธ.ที่มาตึกถล่ม คนงานเสียชีวิตมาก ทั้ง ๆ บริษัทจีนถูกยกเลิกสัญญาก่อสร้าง
ทรัมป์เผยอิสราเอลจะเป็นหัวหอกถล่มหากอิหร่านเมินดีล
ฮูตีเผยคลิปซากโดรน MQ-9 สอยร่วงลำที่ 18

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น