25 พ.ค.2566 ที่ทำการพรรคก้าวไกล อาคารอนาคตใหม่ นางสาวศิริกัญญา ตันสกุล รองหัวหน้าพรรคก้าวไกล เปิดเผยถึงความคืบหน้ากรณีการเจรจากับพรรคร่วมรัฐบาล ว่า หลังจากที่มีการเซ็นลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) ได้รับการตอบรับในเชิงบวกทั้งจากพรรคร่วมรัฐบาลและประชาชนหลังจากที่เรามีความชัดเจนเรื่องจุดยืนและนโยบายของพรรค และส.ว. มีความเข้าใจในหลักการและยอมรับที่จะโหวตนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ เป็นนายกรัฐมนตรีมากขึ้น แต่เราก็ยังต้องเดินหน้าเจรจาเป็นรายบุคคลอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้มั่นใจว่าจะได้เสียงสนับสนุนให้ครบ และเชื่อมั่นว่าจะได้เสียงมากพอโหวตให้นายพิธา เป็นนายกรัฐมนตรีได้
ทั้งนี้ก้าวไกลเดินหน้าพูดคุยหลายหน่วยงาน เช่น สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ซึ่งทางสภาอุตฯ ยอมรับในความสามารถและวิสัยทัศน์ของนายพิธา และนโยบายของพรรคที่จะเน้นเศรษฐกิจเพื่บเติบโตอย่างเป็นธรรม ส่งเสริมผู้ประกอบการแรงงาน ลดความเหลื่อมล้ำ และเดินหน้าต่อเนื่อง ทั้งสภาแรงงาน และสภาหอการค้า และภาคส่วนต่าง ๆ เพื่อเดินหน้าพูดคุยให้ทุกสายมีความเชื่อมั่นกับนโยบายของเรามากยิ่งขึ้น
ส่วนกรณีตำแหน่งประธานสภาผู้แทนราษฎร ยืนยันว่า จำเป็นที่จะต้องมีตำแหน่งนี้ไว้กับพรรคก้าวไกล นอกเหนือจากการใช้อำนาจฝ่ายบริหารเรายังมี 3 วาระ ที่จะต้องได้ตำแหน่งประมุขนิติบัญญัติเช่นกัน เพื่อผลักดันกฎหมาย 45 ฉบับ ทำตามนโยบายที่หาเสียงไว้ รวมถึงผลักดันข้อกฎหมายของพรรคการเมืองอื่น รวมถึงกฎหมายที่เสนอจากประชาชน จะสามารถทำได้อย่างรวดเร็ว เพราะที่ผ่านมา 4 ปี ตำแหน่งของประธานสภาฯ มีความสำคัญมากแค่ไหนในการอำนวยความสะดวกหรือขัดขวางการออกกฎหมาย เพื่อประโยชน์ของประชาชน ดังนั้นเราจึงต้องมีตำแหน่งในส่วนนี้ ยืนยันว่าเพื่อเราจะผลักดันวาระการแก้ไขกฎหมายรัฐธรรมนูญให้เป็นประชาธิปไตยอย่างราบรื่น เพราะการแก้ไขรัฐธรรมนูญจะเป็นการเปิดทางให้ไปสู่การร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ซึ่งเป็นวาระสำคัญที่พรรคร่วมรัฐบาลเห็นด้วยเช่นเดียวกันและถูกบรรจุไว้ในเอ็มโอยูอยู่แล้ว