จากกรณีที่พรรคก้าวไกล มีนโยยายที่ใช้ในการหาเสียง คือความพยายามแก้ไขประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 หรือกฎหมายเกี่ยวกับการหมิ่นประมาทพระมหากษัตริย์ ซึ่งมาสู่ข้อถกเถียงในสังคมที่หลากหลาย แม้ว่าพรรคก้าวไกลยืนยันว่า ข้อเสนอในการแก้ไขมาตรา 112 ของพรรคก้าวไกล ไม่ได้ทำให้ประเทศเราขาดการคุ้มครองประมุขของรัฐหรือพระมหากษัตริย์ในทางกฎหมาย เพียงแต่เป็นข้อเสนอในการทำให้กฎหมาย คุ้มครองประมุขของเรา ทำหน้าที่ได้ดียิ่งขึ้น ในการพัฒนาและรักษาความสัมพันธ์ระหว่างประชาชนกับสถาบันพระมหากษัตริย์ ภายใต้ระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข
ต่อมาทางด้านคุณเกลือ กิตติ เชี่ยววงศ์กุล นักแสดง พิธีกร นักเขียนบท และผู้กำกับ มากความสามารถ ได้ให้สัมภาษณ์กับทีมข่าวท็อปนิวส์ ซึ่งยังคงเน้นย้ำจุดยืนมาอย่างหนักแน่นว่า
“ตนไม่เคยสนับสนุนให้มีการแก้ไขมาตรา 112 เพราะมองว่าสถาบันพระมหากษัตริย์ เป็นสถาบันสำคัญของชาติ ที่ควรแก่การเทิดทูน ที่สำคัญ “ในหลวง” ได้สร้างแรงบันดาลใจให้กับคนไทยหลายๆคน จะผ่านมากี่ยุคกี่สมัย ก็จะเห็นว่าสถาบันพระมหากษัตริย์ ทรงทำเพื่อประเทศชาติบ้านเมืองมามากมาย”
โดยคุณเกลือ ยังได้เล่าย้อนความหลัง ว่าตั้งแต่เล็กจนโตได้รับการปลูกฝัง จากปู่ย่าตายาย ว่าสถาบันพระมหากษัตริย์หรือในหลวงนั้น ทรงทำอะไรบ้าง อีกทั้งยังสอนให้รักและเทิดทูนทุกพระองค์
“จนมาถึงในยุครัชสมัยในหลวงรัชกาลที่ 10 ซึ่งเป็นลูกของในหลวงรัชกาลที่ 9 ด้วยแล้วนั้น ก็ไม่ได้มีข้อแตกต่างจากในหลวงพระองค์เดิม ยังคงรักและเทิดทูนเหมือนเดิม ซึ่งในหลวงรัชกาลที่ 10 ก็ทรงเคยตรัสไว้ว่าจะ รักษา สืบสาน ต่อยอด งานของในหลวงรัชกาลที่ 9”
นอกจากนี้คุณเกลือ ยังได้ตั้งข้อสังเกตว่าการที่พรรคก้าวไกล นำโดยนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรค และว่าที่นายกรัฐมนตรี เร่งรีบที่จะแก้ไขมาตรา 112 นั้น ตนมองว่าเป็นการลดทอนอำนาจของคนที่อยากจะปกป้อง แล้วแบบนี้จะเรียกว่าเทิดทูนได้อย่างไร ในขณะเดียวกันก็พบว่า ว่าที่ ส.ส. บางคนของพรรคก้าวไกล มีพฤติกรรมจาบจ้วง ล่วงละเมิดต่อสถาบันหลายต่อหลายครั้ง ดังที่ปรากฎเป็นข่าว จากการนำเสนอตามสื่อต่าง ๆ