“สนธิญา” เข้าให้ข้อมูล จี้กกต.เร่งวินิจฉัยปม “พิธา” ถือหุ้นสื่อ ย้ำไม่ได้กลั่นแกล้งใคร

สนธิญา สวัสดี เร่งกกต.วินิจฉัย ปม นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ถือหุ้นสื่อฯ พร้อมยืนยันไม่ได้กลั่นแกล้งใคร เพียงแต่เป็นการขาดความชอบธรรมในการถูกเสนอชื่อเป็นนายกรัฐมนตรี

29 พ.ค. 66 เมื่อเวลา 11.30 น. นายสนธิญา สวัสดี อดีตที่ปรึกษาประธานคณะกรรมาธิการกฎหมาย การยุติธรรม และสิทธิมนุษยชน สภาผู้แทนราษฎร เดินทางมาที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือ กกต. เพื่อเข้าให้ข้อมูลกรณีการถือหุ้น ITV ของนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ว่าที่นายกรัฐมนตรี ซึ่งมีกำหนดการเข้าให้ข้อมูลในเวลา 13.30 น. โดยระหว่างนี้นายสนธยา ได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนเกี่ยวกับประเด็นดังกล่าวก่อนเข้าให้ข้อมูล ว่ากกต. โทรเรียกตนเองให้มาสอบเพิ่มเติม ซึ่งตนเองไม่ได้เป็นผู้ร้องหลัก แต่มาสะกิดให้กกต. สรุประยะเวลาที่จะตรวจสอบข้อมูลของนายพิธา ว่าจะต้องใช้เวลาเท่าไหร่ โดยกกต. ได้ชี้แจงมาแล้วว่า จะทำคดีให้เสร็จภายหลังการรับรองส.ส. และจะส่งเรื่องต่อไปยังศาลรัฐธรรมนูญ

 

ข่าวที่น่าสนใจ

นายสนธิญา เปิดเผยอีกว่า การที่ตนเองออกมาเคลื่อนไหวในเรื่องนี้ เนื่องจากโดนกล่าวหา แต่ความเป็นจริงทุกอย่างขึ้นตามรัฐธรรมนูญ โดยเฉพาะมาตรา 98 จำนวน 18 ข้อ ที่เป็นข้อบังคับ ห้ามมีให้ผู้มีลักษณะต้องห้ามมีสิทธิลงรับสมัครส.ส. นายสนธิญา ย้ำด้วยว่า ไม่ใช่เรื่องการกลั่นแกล้ง หรือเมตตาธรรม เพราะส.ส.ต้องเข้าไปโหวตผู้ที่จะดำรงตำแหน่งนายกฯ เพราะฉะนั้น กระบวนการคัดเลือกส.ส. ก็คือกระบวนการนิติบัญญัติ จึงควรมีที่มาที่ถูกต้อง ตามมาตรา 98 (3) โดยเฉพาะนายพิธา ที่มีการถือหุ้นสื่อ

 

 

อีกทั้งวันนี้ตนเองขอเรียกร้องโดยตรงไปยังพรรคก้าวไกล และนายพิธา เนื่องจากขาดความชอบธรรมในการถูกเสนอชื่อเป็นนายกรัฐมนตรี ซึ่งขณะนี้กกต. อยู่ในขั้นตอนการตรวจสอบ เพื่อรับรองส.ส. ให้ครบ 95% หรือ 476 คน โดยเมื่อครบตามจำนวน ก็จะสามารถเปิดประชุมสภาผู้แทนราษฎรได้ เพื่อเลือกประธานสภาฯ ตามรัฐธรรมนูญ และสิ่งที่จะเกิดขึ้นตามมา คือประธานสภาฯ จะเรียกทั้งรัฐสภา ตามกฎหมายรัฐธรรมนูญ มาตรา 272 ในการเลือกนายกรัฐมนตรีต่อไป

นายสนธิญา ยังตั้งข้อสังเกตว่า เมื่อกกต. ส่งรายชื่อนายพิธา ที่มีข้อร้องเรียนไปยังศาลรัฐธรรมนูญแล้ว ประธานสภาฯ ไม่ว่าจะมาจากพรรคก้าวไกล หรือพรรคเพื่อไทย จะเสนอชื่อนายพิธา เป็นนายกรัฐมนตรีหรือไม่ โดยกรณีนี้คล้ายคลึงกับกรณีของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ที่ถูกกกต. ยื่นเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญตัดสิน และส่งผลให้ต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่ชั่วคราว ซึ่งอาจทำให้ประเทศจะอยู่ในช่องว่างของการปกครอง หรืออำนาจ เพราะการจะทูลเกล้าฯ จะต้องทำภายหลังศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยแล้ว

 

 

 

นายสนธิญา เปิดเผยต่ออีกว่า หลักฐานที่นำมาประกอบการให้ข้อมูลต่อ กกต. มีอยู่ 2 อย่าง คือ ข้อมูลที่นายนิวัติไชย เกษมมงคล เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) แถลงว่านายพิธา เป็นผู้ถือหุ้นไอทีวีจริง และข้อมูลที่นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ อดีตสมาชิกพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) เป็นผู้ร้อง โดยกระบวนการสอบสวนเป็นเรื่องของกกต. ที่จะต้องสอบสวนในรายละเอียด ซึ่งใช้เวลาไม่ต่ำกว่า 6 เดือน จึงจะสามารถสรุปเรื่องต่าง ๆ ได้

 

 

เมื่อถามว่าบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญ 2560 นั้นตามหลักนิติรัฐแล้วเป็นสิ่งที่บิดเบี้ยว นายสนธิญา กล่าวว่ารัฐธรรมนูญฉบับนี้ ประชาชนทั้ง 17 ล้านเสียง มีการรับร่างประชามติมาแล้ว ถ้าบอกว่าบิดเบี้ยว บิดเบี้ยวจากมุมมองของฝ่ายไหนมากกว่า และรัฐธรรมนูญฉบับนี้ใช้มาตั้งแต่ปี 2560 ซึ่งผ่านการใช้มาแล้ว 4 ปีในสภาฯ ถ้าบิดเบี้ยวจริงทำไมไม่คิดแก้ หรือดำเนินการในช่วงที่ ส.ส.พรรคก้าวไกล หรือพรรคเพื่อไทย และทุกพรรค สามารถแก้ไขได้

 

เมื่อถามว่า กรณีการร้องเรียนนายพิธา จะนำไปสู่การลงถนนของประชาชนหรือไม่ สนธิญา กล่าวว่า การลงถนนนั้นสามารถทำได้ทั้งฝ่ายที่ไม่เห็นด้วย และฝ่ายที่เห็นด้วยกับการที่ กกต. จะวินิจฉัยตามข้อมูล แต่บ้านเมืองนี้อยู่ด้วยกฎหมายรัฐธรรมนูญ ถ้าทุกฝ่ายยอมรับบทบัญญัติรัฐธรรมนูญ หรือเคารพสิทธิและเสรีภาพก็ไม่มีปัญหาอะไร

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

เกิดเหตุไฟไหม้ครั้งใหญ่ "โรงงานผลิตพัดลมรายใหญ่" จ.สมุทรสาคร คาดความเสียหายไม่ต่ำกว่า 50 ล้าน
เกิดแผ่นดินไหวบริเวณ "จ.ลำพูน" ขนาด 2.5 ลึกประมาณ 1 กิโลเมตร ปชช.รับรู้แรงสั่นสะเทือน
"กรมอุตุฯ" เผยภาคเหนือ-อีสาน อากาศเย็นในช่วงเช้า กทม.เช้านี้ 24 องศา เตือน 14 จังหวัดภาคใต้ ฝนยังตกหนัก
นาทีชีวิต 3 พลเมืองดี ช่วยหนุ่มจะกระโดดสะพานข้ามแม่น้ำบางปะกง
แตกตื่นช่างไฟดวงกุดซ่อมพัดลมเพดาน อะโกโก้ พลาดถูกช็อตดับ
เดือดร้อนหนัก ! เด็กนักเรียน มพย.7 กว่า 1,000 คน ไม่มีห้องเรียนต้องอาศัยเรียนนอกอาคาร หลังคนร้ายลักลอบตัดสายไฟ จากหม้อแปลงส่งไฟไปอาคารเรียนและโรงยิม วอนเจ้าหน้าที่ตำรวจเร่งติดตามตัวมาดำเนินคดี
ไม่รอดสายตา 2 นายพรานย่องเบาหวังเข้ามาล่าสัตว์ในเขตอุทยานฯ เจ้าหน้าที่เร็วกว่าเข้ารวบก่อนลงมือล่า
"พิพัฒน์" ลุยเพื่อแรงงาน ถกประกันสังคมเอสโตเนีย ยกระดับบริการให้สิทธิประโยชน์ผู้ประกันตน
ศาลอาญา สั่งจำคุก 4 ผู้ชุมนุมกลุ่ม REDEM คนละ 2-4 ปี ฐานทำร้ายคฝ. ก่อนได้ประกันตัว
ครบรอบ 118 ปี กองทัพเรือ ศูนย์ฝึกทหารใหม่ กรมยุทธศึกษาทหารเรือ มีสารจาก ผบ.ทร.

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น