“แอดมินเจน เพจเชียร์ลุง” ซัด “ก้าวไกล” ฟังไม่ขึ้นเหตุผลอยากรื้อแก้ 112 ลั่นอย่าดูถูกพลังคนรักชาติ พร้อมลุยต่อต้าน

"แอดมินเจน เพจเชียร์ลุง" ซัด "ก้าวไกล" ฟังไม่ขึ้นเหตุผลอยากรื้อแก้ 112 ลั่นอย่าดูถูกพลังคนรักชาติ พร้อมลุยต่อต้าน

จากกรณีที่พรรคก้าวไกล ชูนโยบายหาเสียงด้วยการ พยายามผลักดันให้มีแก้ไขประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 หรือกฎหมายเกี่ยวกับการหมิ่นประมาทพระมหากษัตริย์ ซึ่งส่งผลให้กลายเป็นข้อถกเถียงในสังคมที่หลากหลาย ทั้งเห็นด้วยและไม่เห็นด้วย แม้ว่าพรรคก้าวไกล จะยืนยันว่า นโยบายไม่ได้ทำให้ประเทศเราขาดการคุ้มครองประมุขของรัฐหรือพระมหากษัตริย์ในทางกฎหมาย

เพียงแต่เป็นข้อเสนอ ในการทำให้กฎหมาย คุ้มครองประมุข ทำหน้าที่ได้ดียิ่งขึ้น ในการพัฒนาและรักษาความสัมพันธ์ระหว่างประชาชนกับสถาบันพระมหากษัตริย์ ภายใต้ระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข

ด้าน คุณวริษนันท์ ศรีบวรธนกิตติ์ หรือแอดมิน “เจน เชียร์ลุง” และผู้ก่อตั้งเพจภาคีประชาชนปกป้องสถาบัน ซึ่งเป็นอีกหนึ่งบุคคลที่ออกมาประกาศจุดยืน ว่าไม่เคยเห็นด้วยกับแนวนโยบายของพรรคก้าวไกล ในการที่จะแก้ไขประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 ซึ่งจะเรียกว่าต่อต้านเลยก็ได้ไม่ผิด เพราะเป็นนโยบายที่ได้สร้างผลกระทบ โดยตรงต่อความมั่นคงของชาติอย่างชัดเจน

และเชื่อมั่นว่า พรรคก้าวไกล จะไม่สามารถกระทำการดังกล่าวได้สำเร็จ เพราะจะมีคนที่รักและเทิดทูนสถาบัน ออกมาต่อต้าน แม้จะลงถนนกันอีกสักครั้งก็คงต้องลง จึงขอฝากไปยังพรรคก้าวไกล ว่าอย่าทะนงตน คิดว่าคนที่เลือกคุณมากว่า 14 ล้านเสียง จะเห็นพ้องต้องกัน ในการที่พรรคก้าวไกลจะแก้ไขมาตรา 112 ขออย่าได้สำคัญตัวผิด

ข่าวที่น่าสนใจ

คุณเจน ยังได้กล่าวถึง การให้ร้ายต่อสถาบันฯ โดยพบว่า มีชุดข้อมูลที่ผิดๆ ถูกส่งต่อไปยังกลุ่มเด็กและเยาวชน ซึ่งเด็กกลุ่มนี้มีพฤติกรรม ให้ร้ายต่อสถาบันจาบจ้วง ล่วงละเมิด โดยไม่เกรงกลัวต่อการกระทำผิดกฎหมาย
จึงอยากถามกลับไปยัง หน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการดูแลปราบปรามสิ่งต่างๆเหล่านี้ ว่าพวกคุณทำอะไรอยู่ ถึงปล่อยให้มีข้อมูลที่ให้ร้ายต่อสถาบันฯ ถูกเผยแพร่เกลื่อนกลาด เสมือนไม่มีการจัดการอะไรกับสิ่งที่เกิดขึ้น

คุณเจน ยังกล่าวต่อไปว่า สำหรับประเด็น การนำมาตรา 112 ไปฟ้องกลั่นแกล้ง ให้ผู้อื่นได้รับผิดนั้น เป็นประเด็นที่พรรคก้าวไกล มักจะหยิบยกและอ้างถึง เพื่อนำไปสู่จุดประสงค์ของการแก้ไขมาตรา 112 เป็นประเด็นที่ฟังไม่ขึ้น ไม่มีทางที่ใคร จะนำมาตรานี้ ไปกลั่นแกล้งใครได้อย่างแน่นอน เพราะทุกอย่างขึ้นอยู่กับหลักฐาน และเจตนา

ดังจะเห็นได้จากการที่เราพบคนที่กระทำความผิด คนผู้นั้นก็ต้องแจ้งความตำรวจตามหน้าที่พลเมืองดี ถ้าตำรวจ อัยการ ศาลได้พิจารณาข้อเท็จจริง คำพูดและข้อกฎหมายแล้วความยุติธรรมก็จะปรากฏ จึงไม่ได้ใช้ ม.112 เป็นเครื่องมือใดๆ แต่อยากเห็นกฎหมายบังคับใช้กับทุกคนอย่างเท่าเทียมกัน และต้องเป็นบรรทัดฐานเสมอกัน

อีกทั้งยืนยันว่า ใช้เอกสารราชการในการแจ้งความ ไม่ได้ตกแต่งหรือเพิ่มเติมถ้อยคำแต่ประการใด การพูดหรือกล่าวหาว่ากลั่นแกล้งกันจึงต้องพึงระมัดระวัง เพราะบุคคลที่เกี่ยวข้องอาจฟ้องกลับได้อีกในอนาคต

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

‘สามารถ’ คอตกศาลไม่ให้ประกัน เตรียมส่งเข้าเรือนจำ ส่วน ‘แม่’ วางเงิน 5 แสนบาท ได้รับปล่อยตัว
"กองทัพภาคที่ 3" แถลงข่าวแจงพื้นที่ "กองกำลังว้าแดง" ตั้งฐานปฏิบัติการลุกล้ำไทย ยังไม่มีการสำรวจ หรือปักปันเขตแดน
ตึงเครียด! “ว้าแดง” บุกประชิดชายแดนไทย “บิ๊กอ้วน” พูดแล้ว รบ-ไม่รบ
ชาวบ้านเดือดร้อนหนักน้ำท่วมเดือดร้อนแสนสาหัส - หลังนายทุนออกโฉนดที่ดินถมลำคลอง"ห้วยพาน" ปิดกั้นทางน้ำสิ้นเชิง นายกเล็กฯ เบื้องต้นระดมกำลังช่วยเหลือ ที่ร้องเรียนเจ้าหน้าที่เร่งตรวจสอบว่าออกจะโดดที่ดินชอบด้วยกฎหมายหรือไม่แต่กลับ ล่าช้า อึดเหมือนเรือเกลือ
พายุฝนพัดถล่มปากพนังเมืองคอนอ่วมอรทัย น้ำท่วมต้นไม้หักโค่นขวางถนน ฝนตกน้ำท่วมและคลื่นลมแรงพัดพัดหอบหอยกาบเกลื่อนชายหาดชาวบ้าน แห่เก็บขายสร้างรายได้ให้ครอบครัว
รวบแล้ว “พี่สาวเมียทนายตั้ม” หลังตกเป็นผู้ต้องหา “ร่วมกันฟอกเงิน” เร่งสอบปม 39 ล้าน
"ดร.ทันกวินท์" เล่านาที "ไอซ์ รักชนก" โดดเดี่ยว มาศาลฟังไต่สวนถอนประกันสส. ดูไม่มั่นใจเหมือนอยู่สภาฯ
‘สามารถ’ ห่วงแม่อายุมาก มอบทีมทนายยื่นโฉนดมูลค่า 1.2 ล้าน ขอประกันตัว
เยอรมนีจ่อเปลี่ยนสถานีรถไฟใต้ดินเป็นที่หลบระเบิด
จีนเตือนไม่มีใครชนะในสงครามการค้า

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น