“เพื่อไทย” สารภาพสิ้น พับโครงการแจกเงินดิจิทัลแล้ว อ้างเลือกใช้งบฯ 5.6 แสนล้าน ทำนโยบายอื่นแทน

"เพื่อไทย" สารภาพสิ้น พับโครงการแจกเงินดิจิทัลแล้ว อ้างเลือกใช้งบฯ 5.6 แสนล้าน ทำนโยบายอื่นแทน

วันที่ 1 มิ.ย. 66 นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รองเลขาธิการพรรคเพื่อไทย (พท.) ฐานะกรรมการเลขานุการและโฆษกคณะกรรมการด้านเศรษฐกิจพรรค พท.กล่าวว่า วันนี้ได้มีการประชุมคณะกรรรมการด้านเศรษฐกิจของพรรคพท. นำโดย นพ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช ประธานกรรมการ, นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองประธานกรรมการ, นายพันศักดิ์ วิญญรัตน์, นายศุภวุฒิ สายเชื้อ, นายปานปรีย์ พหิทธานุกร ที่ปรึกษา และกรรมการด้านเศรษฐกิจ ที่ประชุมได้หารือเพื่อเดินหน้าทำงานอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะประเด็นสำคัญที่เป็นแรงผลักในการขับเคลื่อนประเทศ ไม่ว่า จะเป็นการส่งออกในภาวะที่ตลาดโลกซบเซา การดึงดูดการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (FDI) โดยใช้การตอบสนองความต้องการของนักลงทุนใช้มาตรการเฉพาะ ภาวะหนี้เสียของ SME รวมถึงการแก้ไขปัญหาเข้าถึงแหล่งทุน และการหาแหล่งทุนให้ SME ในรูปแบบใหม่ ระบบภาษีที่เหมาะสมสำหรับประเทศไทย การคว้าโอกาสจากกำลังซื้อจากสังคมสูงวัย การยกระดับระบบสาธารณสุขประเทศเพื่อลดภาระและผลกระทบจากสังคมสูงวัย และการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศ El Nino ที่ส่งกระทบต่อการส่งออกสินค้าเกษตรของไทย และการยกระดับระบบชลประทาน

 

ข่าวที่น่าสนใจ

นายเผ่าภูมิ กล่าวว่า ที่ประชุมยังได้หารือถึงประเด็นการสร้างรายได้ใหม่ให้กับประเทศ เพื่อชดเชยกับรายจ่ายทางการคลังที่มีแนวโน้มสูงขึ้นในอนาคต ไม่ว่า จะเป็นเชื่อมตลาดคาร์บอนเครดิตไทยให้สู่สากล เพื่อให้มีราคาสูงพอที่ภาคธุรกิจมีแรงจูงใจ การต่างประเทศในยุคที่ห่วงโซ่อุปทานโลกปั่นป่วน จุดยืนด้านข้อตกลงทางการค้า การปรับค่าแรงที่เหมาะสม และเพิ่มประสิทธิภาพภาคการเกษตรของประเทศ รวมถึงการสร้างรายได้ใหม่โดยการสร้างพื้นที่สีเขียวและการออกโฉนดแบบมีเงื่อนไขผูกกับพื้นที่สีเขียว

 

นายเผ่าภูมิ กล่าวต่อว่า ในส่วนของการประชุมคณะกรรมการประสานงานช่วงเปลี่ยนผ่าน ที่มี นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล (ก.ก.) เป็นประธาน ที่มีจะการประชุมที่พรรค พท.ในวันที่ 6 มิ.ย.นี้ ทางพรรค พท.คงจะได้นำเสนอนโยบายเพื่อพูดคุยกับทางพรรคร่วม เช่น เรื่องค่าแรง เขตธุรกิจใหม่ เพื่อหาจุดลงตัวและทำงานร่วมกันได้ เชื่อว่า จะเป็นนโยบายที่สอดคล้องกัน ในส่วนของนโยบายดิจิทัลวอลเล็ต 1 หมื่นบาทของพรรค พท.นั้น เรายังเห็นถึงความจำเป็นในนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจในภาวะที่ประเทศอ่อนแอ แต่นโยบายดังกล่าวต้องใช้งบประมาณกว่า 5.6 แสนล้านบาท ขณะที่พรรคแกนหลักต้องใช้เงินในปริมาณที่ใกล้เคียงกันสำหรับนโยบายด้านสวัสดิการเพื่อประชาชน เราจึงต้องพับโครงการนี้ไปก่อน

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

ตร.ไซเบอร์ ขยายผลตามรวบ "ผู้จัดหาบัญชีม้า" แก๊งลวง "ชาล็อต" กว่า 4 ล้านบาท
“บิ๊กอ้วน”ซัดปาก! พวกกระหายสงคราม “บิ๊กปู” คอนเฟิร์ม “ว้าแดง” เรียบร้อยดี
เวียงแหงโมเดล! เยาวชนคนรุ่นใหม่ One Young World เครือซีพี ปักธง FIGHT หมอกควันชายแดนไทย-พม่า เรียนรู้-ชวนชุมชมร่วมลด PM 2.5
ทิพยประกันภัย จับมือ NT ลงนาม MOU พัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการ เพื่อตอบโจทย์กลุ่มลูกค้ายุคดิจิทัล
กรมวิทย์ฯ บริการ มอบของขวัญปีใหม่ประชาชน 2568 ..ฟรี !! ฝึกอบรมเสริมทักษะด้าน วทน. ฟรีค่าธรรมเนียมยื่นขอการรับรองทุกขอบข่าย เสริมความสามารถของห้องปฏิบัติการไทยสู่สากล
"ณเดชน์-เบลล่า" ขึ้นแท่นดาราแห่งปี "หมูเด้ง" ข่าวเด่นแห่งปีของจริงกลบทุกกระแส
เซเว่นฯ เดินหน้านโยบาย “2 ลด ลดพลาสติก ลดพลังงาน" เพื่อสิ่งแวดล้อม 24 ชม. เชิญชวนคนไทย ลดใช้พลาสติกแบบใช้ครั้งเดียวทิ้ง
“ภูมิธรรม”คาด 4 ลูกเรือไทยได้รับการปล่อยตัว 4 ม.ค. นี้ ยืนยันกลาโหม-กองทัพไม่ได้อ่อนแอ
ฮาร์บินเปิด ‘สวนสนุกน้ำแข็ง-หิมะ’ จีนใหญ่สุดในโลก
ทรัมป์เสนอยูเครนสละดินแดนเพื่อยุติสงคราม

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น