“ในหลวง” ตรัสตอบ “ไบร์ท ชินวัตร” เฝ้ารับเสด็จฯ พระบรมมหาราชวัง เจ้าตัวถึงน้ำตาซึม

"ในหลวง" ตรัสตอบ "ไบร์ท ชินวัตร" เฝ้ารับเสด็จฯ พระบรมมหาราชวัง เจ้าตัวถึงน้ำตาซึม

วันที่ 3 มิ.ย. 66 ผู้สื่อข่าวรายงาน บรรยากาศ บริเวณท้องสนามหลวง ด้านฝั่งศาลฎีกา ตั้งแต่ช่วงเช้าที่ผ่านมา มีประชาชน และกลุ่มศูนย์รวมประชาชนปกป้องสถาบัน (ศปปส.) ต่างทยอยเดินทางมานั่งรอ เพื่อเข้าร่วมเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทรับเสด็จในหลวง-พระราชินี เสด็จฯเนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 3 มิถุนายน 2566 สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ซึ่งบรรยากาศเป็นไปด้วยความเรียบร้อย

จนกระทั่งเวลา 13.40 น. นายชินวัตร จันทร์กระจ่าง หรือ “ไบร์ท ชินวัตร” อดีตแกนนำราษฎรนนทบุรี นักเคลื่อนไหวทางการเมือง ก็ได้เดินทางมาร่วมรับเสด็จด้วยเช่นกัน โดยบรรยากาศเป็นไปด้วยความคึกคัก ทันทีที่ “ไบร์ท ชินวัตร” เดินทางมาถึง พบว่า นายอานนท์ กลิ่นแก้ว แกนนำ ศปปส. และนายนพดล พรหมภาสิต หรือ รอยตุ๊ ประธานศูนย์ช่วยเหลือด้านกฎหมายผู้ถูกล่วงละเมิด bully ทางสังคม หรือ ศชอ. ก็มายืนรอต้อนรับพร้อมกับนำเสื้อสีเหลืองมามอบให้กับ “ไบร์ท ชินวัตร” ขณะที่ “ไบร์ท ชินวัตร” เองก็เปลี่ยนจากเสื้อสีแดงมาสวมใส่เสื้อสีเหลืองโดยทันที

 

 

 

ระหว่างนั้น นายอานนท์ ได้พา “ไบร์ท ชินวัตร” เดินเข้าไปภายในเต็นท์ เพื่อทักทายพบปะกับกลุ่มมวลชน ศปปส. ซึ่งก็ได้รับการต้อนรับเป็นอย่างดีบรรยากาศเต็มไปด้วยความคึกคักและชื่นมื่น

จากนั้น “ไบร์ท ชินวัตร” ได้ให้สัมภาษณ์กับทีมข่าวท็อปนิวส์ โดยได้กล่าวถึงแรงจูงใจที่เปลี่ยนจากเสื้อสีแดงมาสวมใส่เสื้อสีเหลือง เพราะการต่อสู้ที่ผ่านมาของตน ได้ยืนหยัดมาตลอดว่า สถาบันพระมหากษัตริย์ยังคงต้องดำรงอยู่ถึงทุกวันนี้ ที่ผ่านมาทำให้ตนได้เรียนรู้ว่ามีคนที่คิดจะทำลายล้างสถาบันพระมหากษัตริย์ เมื่อก่อนนี้ตนไม่เคยเชื่อว่าเป็นเรื่องจริง แต่ปัจจุบันตนได้รู้แล้ว ว่า มีคนที่จ้องจะคิดล้างทำลายสถาบันสถาบันพระมหากษัตริย์ไทย ตนเกิดในผืนแผ่นดินไทย เป็นพสกนิกรชาวไทย ขอปกป้องพระองค์ท่านแล้วก็พร้อมที่จะร่วมต่อสู้กับคนไทยในการปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์ต่อไป สำหรับประเด็นที่ ตนเปลี่ยนขั้วกลับใจนั้น และมีทัวร์มาลง ตนต้องขอขอบคุณ นั่นหมายความว่า เขาให้ความสำคัญกับตน

 

 

ส่วนกรณีที่ตนเดินทางไปยื่นหนังสือที่กกต. เพื่อสนับสนุนการปฏิบัติงานอย่างตรงไปตรงมา โดยเฉพาะการพิจารณาคำร้อง ตรวจสอบคุณสมบัติของนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรค กับกรณีการถือครองหุ้นบริษัท ไอทีวี จำกัด (มหาชน) เมื่อวันที่ 1 มิ.ย. ที่ผ่านมานั้น แล้วส่งผลให้นายสมศักดิ์ เจียมธีรสกุล อดีตอาจารย์ ม.ธรรมศาสตร์ ผู้ต้องหาคดี ม.112 ลี้ภัยในฝรั่งเศส เกิดความไม่พอใจนั้น ตนอยากบอกว่าคนที่รักประชาธิปไตยต้องไปเข้าใจคำว่าประชาธิปไตยใหม่ให้ดีซะก่อน การที่คุณบอกว่ารักประชาธิปไตย ก็ควรต้องฟังและเคารพสิทธิของคนอื่น ในเมื่อตนมีความคิดของตน ก็ควรต้องเคารพในความคิดของคนอื่นบ้าง อยากฝากไปถึงพี่น้องบางท่าน ที่อาจจะเคยหลงรักและชอบตน แม้ว่าวันนี้ ตนอาจจะมีความคิดที่แตกต่าง แต่ก็ไม่ควรแตกแยก เพราะเราเกิดมาเป็นคนไทยด้วยกัน ฉะนั้นเราต้องมารวมอยู่ที่จุดมุ่งหมายของเรา นั้นก็คือต้องให้สถาบันพระมหากษัตริย์ยังคงดำรงอยู่คู่กับคนไทยตลอดไป

 

 

ข่าวที่น่าสนใจ

นอกจากนี้ “ไบร์ท ชินวัตร” ยังกล่าวถึงประเด็นที่สังคมตั้งคำถามว่า การตัดสินใจเปลี่ยนขั้วในครั้งนี้ ถูกกลุ่มสลิ่มซื้อตัวมาหรือไม่นั้น ตนอยากจะบอกว่าอย่าเอาความคิดต่ำๆ ของตัวเองมาตัดสินคนอื่น เพราะการที่คุณมาพูดอย่างนั้น มันคือชีวิตของคุณเอง ไม่ใช่ชีวิตของตน จึงอยากฝากคนไทยทุกคน อย่าหลงเชื่อคนที่ลี้ภัยออกไปใช้ชีวิตในต่างประเทศ แล้วอ้างตัวว่าเป็นคนดี แล้วทุกคนต้องฟังเขาทั้งหมด มันไม่ใช่ครับ เราต้องอยู่บนพื้นฐานแห่งความเป็นจริง ในสังคมนี้มันเป็นแบบนี้เราก็ต้องดูแลช่วยเหลือในการปกป้องสถาบัน

วันนี้ที่ตนเดินทางมาร่วมรับเสด็จนั้น ตนมีความตั้งใจมากๆ และตั้งใจมาหลายครั้งแล้ว ที่อยากจะเข้าร่วมรับเสด็จ แต่การที่เราจะมาเลย ก็เกรงว่าจะไม่ได้รับความปลอดภัย เดิมทีแล้วจะมาตั้งแต่เมื่อวาน เพราะได้มีการประสานกับนายอานนท์ และนายนพดลไว้แล้ว ว่าตนจะมาขอเข้าร่วมเข้าเฝ้ารับเสด็จ วันนี้ขอขอบคุณพี่น้องชาวสลิ่มทุกคน ที่ให้การต้อนรับตนเป็นอย่างดี นับจากนี้เป็นต้นไป ก็จะเห็นความชัดเจนและความเข้มข้นของตนในการเคลื่อนไหวต่อไปอย่างแน่นอน และขอยืนยันและยอมรับในการให้ความร่วมมือในกระบวนการกฎหมายไทย ตนไม่หนีเหมือนใครบางคนอย่างแน่นอน ไม่ว่าคำตัดสินของศาลจะเป็นอย่างไรก็ตาม ตนก็เคารพในกติกาของบ้านเมืองที่พวกเราร่วมสร้างกันมา แม้ตนจะต้องติดอยู่ในคุกก็ยินดี

 

 

“ไบร์ท ชินวัตร” ยังกล่าวในช่วงท้ายว่ามาตรา 112 เป็นมาตราที่มีไว้เพื่อปกป้องราชวงศ์ ซึ่งก็เหมือนกับบุคคลทั่วไปที่มีกฎหมายหมิ่นประมาท เมื่อใดที่เราถูกหมิ่นประมาท เราก็ต้องสามารถฟ้องกลับได้ ส่วนพระมหากษัตริย์ซึ่งเป็นที่รักของปวงชนชาวไทย ท่านก็ต้องมีกฎหมายที่คุ้มครองตัวท่านด้วยเช่นกัน มิฉะนั้นใครก็ได้จะไปก้าวล่วง สิ่งที่ผ่านมาตนก็ต้องขอกราบประทานอภัยด้วย บางครั้งเจตนารมณ์ของตนยืนยันมาตลอดว่าสิ่งที่ตนทำไม่ได้มีเจตนาอื่นใดนอกจากต้องการให้สถาบันอยู่เป็นมิ่งขวัญสถาพร แต่พี่น้องบางท่านอาจจะไม่เข้าใจในสิ่งที่ตนสื่อสารออกไปเพราะตนอาจจะใช้คำพูดที่สื่อสารออกไปไม่เป็น ต้องกราบขออภัย ณ ที่นี้ด้วย เวลาที่เหลือตนก็ขอชดใช้ในสิ่งที่ตนเคยล่วงเกินพระองค์ท่าน ก็จะขอทำหน้าที่ร่วมกับพี่น้องทุกคนในการปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์ไทยต่อไป แล้วก็พร้อมยินดีที่จะร่วมงานจิตอาสา

 

ด้านนายอานนท์ กล่าวถึงการที่ “ไบร์ท ชินวัตร” มีการเปลี่ยนใจเปลี่ยนขั้วกลับมาร่วมปกป้องสถาบัน ก็ถือเป็นเรื่องที่น่ายินดี แต่สำหรับการแจ้งความดำเนินคดีกับ “ไบร์ท ชินวัตร” ในมาตรา 112 ที่ผ่านมาก็ยังคงต้องดำเนินการต่อไปตามขั้นตอนของกฎหมาย ซึ่งแท้จริงแล้ว ตนไม่ได้มีความเครียดแค้นใจใครใดๆ แต่เราต้องดำเนินคดี เพื่อปกป้องสถาบันให้คงอยู่กับคนไทยต่อไป

ขณะที่ป้าอยุธยา หรือ กัลยาณี จูปรางค์ ก็ให้การต้อนรับ “ไบร์ท ชินวัตร” เป็นอย่างดี และด้วยว่ารู้สึกปลื้มใจเป็นอย่างมากที่ “ไบร์ท ชินวัตร” กลับใจเปลี่ยนขั้ว ซึ่งรอคอยมาตลอดชีวิต ซึ่งตนต่อสู้และปกป้องสถาบันมาตลอด

 

 

ทั้งนี้ นายนพดล พรหมภาสิต หรือ รอยตุ๊ ได้โพสต์คลิปและข้อความผ่านเฟซบุ๊ก “Nopadol Prompasit” ระบุว่า “ไบร์ท ชินวัตร บอกพอกันที นับจากนี้ขอหันหลังให้กับชีวิตคนเสื้อแดง เสื้อส้มจอมปลอมที่มีแต่การล้างสมองให้คนหลงผิด ขอกลับมาใช้ชีวิตปกติเสียที”

 

“ไบร์ท ได้นั่งรับเสด็จแถวหน้าในวัดพระแก้วเลยยยยยยยย”

 

“วินาทึที่ในหลวงตรัสกับไบร์ท”

 

 

 

ไบร์ทแทบจะร้องไห้เมื่อในหลวงตรัสว่า “ขอบคุณครับ”

 

 

“ในหลวงและพระราขินีทรงรักพสกนิกรของท่านอย่างเท่าเทียมกันไม่ว่าใครคนนั้นจะคิดร้ายกับท่านหรือไม่”

 

 

ไบร์ทกราบบังคมทูลกับในหลวงว่า “กระผมชื่อไบรท์ ชินวัตร กระผมผิดไปแล้ว กระผมขอประทานอภัย และขอสัญญาว่าจะรักและขอปกป้องสถาบันนับตั้งแต่วันนี้ตลอดไป”

 

 

ทั้งนี้ “ไบร์ท ชินวัตร” จันทร์กระจ่าง เป็นนักกิจกรรมทางการเมือง ที่โดนแจ้งข้อหา ม.112 และ พ.ร.บ.คอมฯ มาตรา 14(3) จากการปราศรัยถึงสถาบันกษัตริย์ ในกิจกรรม ‘ยืนฟ้องเจ้า ว่าเราโดนรังแก’ หน้าศาลอาญากรุงเทพใต้ เมื่อ 28 ก.ค. 2565 ที่ผ่านมา

 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

สลด กระบะชนจยย.พลิกคว่ำตก "ดอยโป่งแยง" เชียงใหม่ เจ็บตายรวม 13 ราย
“สมศักดิ์” ยกนวดไทยเป็นมรดกชาติ สร้างมูลค่าเศรษฐกิจสุขภาพ เล็งพาหมอนวดโกอินเตอร์ โชว์ฝีมืองาน เวิลด์เอ็กซ์โปโอซาก้า ญี่ปุ่น
ห่ามาแล้ว! “แม่สอด” พบติดเชื้ออหิวาต์ เผยญาติฝั่งพม่าซื้อข้าวมากินด้วยกัน
ผกก.สภ.รัตนาธิเบศร์ สั่งตั้งคกก.สอบ "ตร.จราจร" รีดเงินแทนเขียนใบสั่ง
สตม. บุกทลายแก๊งคอลเซ็นเตอร์ กลางคอนโดหรูห้วยขวาง รวบ 6 คนจีน อึ้งเจอซิมการ์ด 2 แสนซิม
ครูบาอริยชาติ เชิญชวนพุทธศาสนิกชน ฉลองสมโภช 18 ปีวัดแสงแก้วโพธิญาณ และทำบุญฉลองอายุวัฒนมงคล 44 ปี
กกต.สั่งดำเนินคดีอาญา "ชวาล" ส.ส.พรรคประชาชน ยื่นบัญชีใช้จ่ายเท็จ โทษคุก-ตัดสิทธิเลือกตั้ง 5 ปี
จีนเตือนสหรัฐกำลังเล่นกับไฟหลังส่งอาวุธให้ไต้หวัน
อิลอน มัสก์วิจารณ์แรงผู้นำเยอรมันเหตุโจมตีตลาดคริสต์มาส
ซาอุฯเคยเตือนเยอรมนีเรื่องคนร้ายโจมตีตลาดคริสต์มาส

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น