ผ่านพ้นการเลือกตั้งมาแล้ว 3 อาทิตย์ หลังเข้าคูหาหย่อนบัตรเลือกตั้งไปเมื่อ 14 พ.ค.2566 จนถึงป่านนี้ยังไม่มีวี่แววว่าคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) จะประกาศรับรองส.ส.อย่างเป็นทางการออกมา อย่างไรก็ตามยังมีเวลาเหลือเฟือในการพิจารณารับรองส.ส.เพราะกฎหมายกำหนดให้กกต.มีเวลาในการประกาศรับรองส.ส.ไม่เกิน 60 วัน หลังการเลือกตั้ง เพราะฉะนั้นระยะเวลาในการประกาศรับรองส.ส.จึงยังมีเวลายาวไปถึงวันที่ 13 ก.ค.2566 หลังประกาศรับรองส.ส.ได้ถึง 95 % คือ 475 คน จาก 500 คน ภายในระยะเวลา 15 วัน จะต้องมีการนัดประชุมสภาผู้แทนราษฎรเพื่อเลือกประธานสภาจากนั้นก็จะกำหนดเวลาในการโหวตเลือกนายกฯ บวกลบคูณหารไม่เกินวันที่ 27 ก.ค.จะมีการนัดประชุมสภาแน่นอนเพื่อเลือกประธานสภาคนใหม่ที่จนถึงตอนนี้ยังตกลงกันไม่ได้ว่าจะเป็นโควต้าของก้าวไกลหรือเพื่อไทย
อย่างไรก็ตามประเด็นร้อนการเมืองล่าสุด น่าจะอยู่ที่กรณีอิทธิพร บุญประคอง ประธานกกต.ออกมาเปิดเผยการพิจารณารับรองส.ส. 500 คนของกกต. ที่มีความคืบหน้าไปมากอย่างไรก็ตามในจำนวนนี้มีราว 20 เขตที่ผู้ชนะการเลือกตั้งในเขตนั้นมีปัญหาถูกร้องเรียนซึ่งอาจจะนำไปสู่การแจกใบเหลืองใบแดงหรือตัดสินใจอย่างหนึ่งอย่างใดของกกต. ” ตัวเลขคำร้องมีกว่า 280 เรื่อง ส่วนผู้ที่เลือกตั้งชนะถ้าจำไม่ผิดมีประมาณ 20 กว่าคน ซึ่งตอนนี้จะต้องขอตรวจสอบก่อนว่ามีหลักฐานชัดเจนหรือไม่ โดยจะต้องมีการสั่ง 3 อย่างคือ 1.สั่งเลือกตั้งใหม่ 2.สั่งนับคะแนนใหม่ และ 3.สั่งออกเสียงลงคะแนนใหม่” ประธานกกต.ระบุ ถ้าเป็นไปตามที่ประธานกกต.ระบุ รับรองว่าการเมืองวุ่นแน่ๆ หากมีการเลือกตั้งใหม่แจกใบเหลืองสัก 20-30 เขต รับรองว่าการเมืองสะเทือนแน่ ถ้าเป็นฝั่งรัฐบาลปัจจุบันอาจจะไม่เท่าไหร่ แต่ถ้าเขตที่แจกใบเหลืองอยู่ในกลุ่มรัฐบาลใหม่เป็นก้าวไกลกับเพื่อไทยรับรองว่ามันส์แน่ๆ
อย่าลืมว่าสองพรรคพระเอกกับพระรอง มีจำนวนส.ส.ห่างกันแค่ 10 คนเท่านั้น ถ้าสมมุตติว่า 20-30 เขตที่กกต.จะแจกใบเหลืองให้มีการเลือกตั้งใหม่ ปรากฎว่าอยู่ในกลุ่มที่เป็นส.ส.ของก้าวไกลกับเพื่อไทย เชื่อว่าการเมืองมีสิทธิ์อาจจะเปลี่ยนโฉมได้อีก ประการแรกก้าวไกลอาจได้ส.ส.มากขึ้นหากในกลุ่มที่ต้องเลือกตั้งใหม่เป็นคนของพรรคอื่นที่ไม่ใช่ของตัวเอง โอกาสจะได้ส.ส.เพิ่มจาก 151 คนไปอีกก็มีความเป็นไปได้สูง โดยเฉพาะในช่วงที่กระแสส้มกำลังมาคนไทยกำลังอินกับการเห่อของใหม่ ประการที่สองเพื่อไทยได้จำนวนส.ส.มากขึ้น แม้โอกาสเรื่องนี้จะเป็นไปได้น้อย เพราะมีข่าวกระซิบว่า คำร้องส่วนใหญ่อยู่กับพรรคการเมืองเดิมที่ตั้งมานานเป็นส่วนใหญ่ แต่ถ้าโชคชะตาเป็นใจจังหวะเวลาเข้าข้าง เพื่อไทยก็อาจเปลี่ยนวิกฤติเป็นโอกาส อัพจำนวนส.ส.ที่มีอยู่ในมือจาก 141 คนเพิ่มขึ้นไปอีกได้ ถ้าถึงขั้นแซงหน้าก้าวไกลได้โอกาสที่การเมืองจะเปลี่ยนขั้วเปลี่ยนมือแกนนำรัฐบาลใหม่ก็มีสูงเช่นกัน อย่าคิดว่าเพื่อไทยไม่คิดเรื่องนี้เพราะอย่างที่รู้ว่าพรรคแดงโทนี่ก็รอซ้ำจังหวะสองหากพรรคส้มล้มเจ้าพลาดอยู่แล้ว ไม่งั้นแกนนำอย่าง “เสี่ยอ้วน” ภูมิธรรมไม่ออกมาเผยไต๋ทางออกเรื่อง “ย้ายขั้ว สลับข้าง” หรอกหากในใจไม่คิดถึงเรื่องนั้น ประการที่สาม 5 พรรครัฐบาลรักษาการคือ “ภูมิใจไทย (71) -พลังประชารัฐ (40) -รวมไทยสร้างชาติ (36) -ประชาธิปัตย์ (25) -ชาติไทยพัฒนา(10) ” มีโอกาสได้จำนวนส.ส.ลดลงหรืออาจเพิ่มมากขึ้นจาก 182 คนก็อาจจะขยับไปมากกว่าเก่าก็เป็นไปได้เช่นกัน แม้โอกาสจะน้อยแต่ก็ไม่ได้หมายความว่าไม่มีทางเอาเสียเลย ตรงนี้ก็จะทำให้ขั้วรัฐบาลใหม่ของก้าวไกลกับเพื่อไทยเหนื่อยเพิ่มมากขึ้นไปอีก เพราะจะต้องหาเสียงสนับสนุนเพิ่มขึ้นจากเดิมก็ยากอยู่แล้ว เพราะต้องหามือส.ส.กับส.ว.อีก 64 คน เพื่อเติม 312 คนให้มีเสียงมากกว่ากึ่งหนึ่งของสองสภาคือ 376 คน ถ้าขั้วรัฐบาลรักษาการได้ส.ส.เพิ่มอีก มีหวังก้าวไกลงานงอกขึ้นอีกบาน
ทำไปทำมาโอกาสในการเลือกตั้งใหม่หากกกต.แจกใบเหลือง ก็มีความเป็นไปได้ที่จะออกทั้ง 3 หน้า ก้าวไกลได้ส.ส.เพิ่มหรือลด เพื่อไทยได้ส.ส.เพิ่มหรือลด ขั้วรัฐบาลรักษาการได้ส.ส.เพิ่มหรือลด อันนี้ก็ต้องไปลุ้นกันดูว่าเมื่อถึงเวลาจริงๆ กกต.จะแจกใบเหลืองให้กับส.ส.พรรคไหน จังหวัดใด และแต่ละพรรคมีส.ส.กี่คนที่ถูกสอย ตรงนี้จะมีผลกับการตั้งรัฐบาลอย่างแน่นอน ที่สำคัญหากมีการแจกใบเหลืองมากต้องเลือกตั้งเยอะ สมมุุติว่าแจกใบเหลืองเกิน 25 เขต การรับรองส.ส.ก็จะไม่ถึง 95 % ตรงนี้ก็จะทำให้เปิดสภาเพื่อเลือกประธานสภาผู้แทนราษฎรไม่ได้อีก เพราะฉะนั้นก็ต้องรอให้การเลือกตั้งซ่อมเสร็จก่อน การเมืองยังไม่ถึงทางตันแต่ระหว่างทางประกาศรับรองส.ส.ให้ได้ถึง 95 % หรือ 475 คน ก็มีเรื่องให้ต้องลุ้นกันตลอดว่าการเมืองจะเปลี่ยนมือผู้นำในการจัดตั้งรัฐบาลไหม ดูแลพิธากับก้าวไกลมีแต่เหนื่อยไปหน้า คดีหุ้นไอทีวีก็คาราคาซังอยู่ ตั้งรัฐบาลก็ยังลูกผีลูกคน จริงคือเท็จเท็จคือจริง ยังไม่รู้ว่าเพื่อไทยจะ “ลับ ลวง พราง” แสดงละครให้ตายใจไปถึงไหน หมากกระดานนี้ยังอีกไกล ก้าวไกลอาจมีแต้มต่อในมือแต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจบกระดานจะเป็นผู้ชนะ ตัวแปร เรื่องระหว่างทาง อุปสรรค ปัญหายังมีอีกมากมายรออยู่ นายกฯคนที่ 30 รัฐบาลของประชาชน ตามที่พิธากับแกนนำก้าวไกลกล่าวอ้าง ดูเหมือนใกล้แค่เอื้อมแต่ความจริงไกล ดูเหมือนจะง่ายแต่ความจริงแล้วยาก ชนะศึกไม่ได้หมายความว่าจะพิชิตสงคราม การเมืองชั่วโมงนี้ต้องดูกันยาวๆจริงๆ
/////////////////////////
