” คลิปเก๊ vs รายงานปลอม”….พิธาก็ไม่รอด

หุ้นร้อนไอทีวีของพิธายังวุ่นไม่จบ จากรายงานการประชุมไอทีวียังเป็นสื่อ ถึงเปิดคลิปยืนยันหยุดดำเนินการระหว่างติดคดี อันไหนของจริงอันไหนไก่กา เรื่องจริงที่รอการพิสูจน์ ชัยธวัชยันมีขบวนการล้มพิธาสกัดก้าวไกล ไอ้โม่งตัวจริงตัวไม่เล็กมั่นใจพิธารอดหลังคลิปช่วยยันไอทีวีหยุดดำเนินการหลังถูกคดี เรืองไกรระบุไอทีวีเป็นสื่อ ยังประกอบการมีกำไร-ขาดทุน มีแผนธุรกิจในอนาคต ยังไม่ยกเลิกกิจการกับกรมพัฒนาธุรกิจการค้า พิธาหนักมองมุมไหนยังไงก็โดน

อีรุงตุงนังกันไปหมดสำหรับประเด็นการถือหุ้นไอทีวี 42,000 หุ้นของพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ที่ตอนนี้กลายเป็นประเด็นร้อน กลายเป็นประเด็นสาธารณะที่วงกาแฟ หยิบมาถกหยิบมาพูดคุยกันหมดว่าตกลงแล้วประเด็นนี้จะทำให้พิธาได้ไปต่อหรือต้องพอแค่นี้ เนื่องจากมีประเด็นมีข้อกฎหมายให้ถกเถียงกันมากมาย ทั้งประเด็นข้อเท็จจริง ประเด็นข้อกฎหมาย แม้แต่ประเด็นการประชุมเมื่อ 26 เม.ย.2566 ก็ยังกลายเป็นเรื่องร้อนว่าตกลงรายงานการประชุมที่ออกมาก่อนหน้านี้ว่าไอทีวียังเป็นสื่อยังประกอบกิจการอยู่ กับ คลิปการประชุมล่าสุดที่ฐปณีย์ เอียดศรีไชย นักข่าวดังเอามาเปิดเผย

จนล่าสุดกลายเป็นกระเด็นร้อนที่หยิบมาพูดกัน ฝ่ายหนุนพิธาก็ระบุว่าคลิปที่ออกมาระบุชัดว่า คิมห์ สิริทวีชัย ประธานการประชุมในวันนั้นอ่านคำถามจาก ภานุวัฒน์ ขวัญยืน ที่เป็นผู้ถือหุ้นที่ถามว่า “มีการดำเนินการเกี่ยวกับสื่อหรือทีวีไหมครับ” คิมห์ตอบว่า ” ตอนนี้บริษัทยังไม่มีการดำเนินการใด ๆ รอผลคดีความให้สิ้นสุดก่อนนะครับ” แต่ในเอกสารรับรองการประชุมก่อนหน้านี้ ซึ่งมีในการบันทึกการประชุมระบุว่า ภาณุวัฒน์ผู้ถือหุ้นสอบถามว่า ” itv มีการดำเนินการเกี่ยวกับสื่ออยู่หรือไม่ ? ” คิมห์ตอบว่า “ปัจจุบันบริษัทยังมีการดำเนินกิจการอยู่ ตามวัตถุประสงค์ของบริษัท และมีการส่งงบการเงินและยื่นแบบภาษีเงินได้นิติบุคคลตามปกติ” ตรงนี้แหละเลยกลายเป็นประเด็นโอละพ่อ เพราะเรื่องเดียวกันแต่คำถามกับคำตอบไม่ตรงกัน ตรงนี้เลยกลายเป็นประเด็นสืบค้นว่าตกลงคลิปเก๊หรือรายงานปลอมกันแน่ อันไหนจริง อันไหนเท็จ

วานนี้ชัยธวัชกับฝ่ายก๊วนส้มก็ออกมารับลูกเรื่องนี้ที่เปิดจากฐปณีย์ ทั้งโหนว่ามีความพยายามจากขบวนการปลุกผีไอทีวีเพื่อมาล้มล้างพิธาสกัดกั้นไม่ให้ขึ้นเป็น ร่ายยาวไล่เรียงมาตั้งแต่นิกม์ แสงศิรินาวิน ผู้สมัครส.ส.กทม. พรรคภูมิใจไทย โพสต์ FB 24 เม.ย.2566 ว่า “หัวหน้าพรรคการเมือง ถือหุ้นไอทีวี 42,000 หุ้น ” ถัดมา 26 เม.ย.2566 ตัวเองกับภาณุวัฒน์ ขวัญยืน ก็ไปดักถามเรื่องนี้กับประธานการประชุม แต่เสียงในคลิปของคิมห์กับรายงานบันทึกการประชุมไปกันคนละทาง แถมในรายงานการประชุมยังมีหลายเรื่องเขียนไม่สอดคล้องกับข้อเท็จจริง อาทิ ปี 2561-62 เขียนประเภทธุรกิจว่าเป็น ” กิจกรรมของ บ.โฮลดิ้งที่ไม่ได้ลงทุนในธุรกิจการเงินเป็นหลัก” ปี 2563-64 เขียนประเภทธุรกิจว่า “สื่อโทรทัศน์” ส่วนรูปแบบสินค้า/บริการ “ปัจจุบันไม่ได้ดำเนินการเนื่องจากติดคดีความ” ปี 2565 เขียนประเภทธุรกิจว่า “สื่อโทรทัศน์” แต่รูปแบบสินค้า/บริการ เปลี่ยนเป็น “สื่อโฆษณาและผลตอบแทนจากการลงทุน” ชัยธวัชซัดว่าเกิดความไม่ชอบมาพากล ไม่ใช่ความบังเอิญแต่มีความพยายามจงใจตกแต่งเอกสารขึ้นมา หวังที่จะคืนชีพไอทีวี เพื่อเอามาหยุดพิธาเป็นนายกฯเอามาเบรกก้าวไกลไม่ให้เป็นรัฐบาล ก่อนเผยปริศนาว่ามีไอ้โม่งอยู่เบื้องหลังเรื่องนี้ไม่ใช่นิกม์เพราะ “ตัวเล็กไป” แต่ก็ไม่กล้าพอจะบอกว่าเป็นใคร

ความเชื่อกับความจริงบ่อยครั้งก็สวนทางกัน ชัยธวัชเชื่อว่าพิธาบริสุทธิ์ก็ว่ากันไป แต่ความจริงที่ทุกคนรับรู้ ประการแรกไอทีวีเริ่มก่อตั้งจากการเป็นกลุ่มบริษัทที่ทำธุรกิจเกี่ยวกับสื่อโทรทัศน์ โดยได้รับอนุมัติให้ดำเนินการสัมปทานสถานีโทรทัศน์ระบบ UHF จากสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี สถานนะปัจจุบันจากกรมพัฒนาธุรกิจการค้า ประกอบกิจการรับจ้างโฆษณา ประชาสัมพันธ์ทุกชนิดทุกประเภท ประการต่อมาไอทีวียังเป็นสื่อ แม้ตอนนี้ไม่ได้ออกอากาศ ไม่มีช่องสัญญาณ แต่ยังทำธุรกิจสื่อแน่นอน รายงานการประชุมสามัญผู้ถือหุ้น ประจำปี 2566 เมื่อ 26 เม.ย.2566 ที่ภาณุวัฒน์ถามว่า ” บริษัท ไอทีวีมีการดำเนินงานเกี่ยวกับสื่อหรือไม่” คำตอบ “ปัจจุบันยังดำเนินกิจการอยู่ ตามวัตถุประสงค์ของบริษัท และมีการส่งงบการเงินและยื่นแบบภาษีเงินได้นิติบุคคลตามปกติ” ตรงนี้ก็ชัดเจนว่า ไอทีวีเป็นสื่อ ยังประกอบธุรกิจ มีรายรับ รายจ่าย มีการประชุมผู้ถือหุ้น มีการพิจารณาและดำเนินการทุกอย่างเหมือนบริษัทสื่อมหาชนตามปกติ แค่ไม่ได้ออกอากาศทีวีแต่ยังทำธุรกิจสื่อในรูปแบบอื่นๆ อย่างต่อเนื่อง

ประเด็นเรื่องคลิปกับรายงานการประชุมที่ไม่ตรงกันก็ว่ากันไปตามกระบวนการ พิสูจน์ตามข้อกฎหมายเดี๋ยวก็รู้ว่าใครจริงใครเท็จ คนไทยที่ตามเรื่องนี้ก็อยากรู้เหมือนกัน ฐปณีย์ในฐานะคนเปิดประเด็นถ้ามีคลิปจริงคลิปเต็มก็ต้องเปิดออกมา จะได้รู้ว่าที่คลิปกระตุกเพราะสัญญารเน็ตไม่ดีหรือมีการตัดต่อ อินทัชในฐานะบ.ผู้ถือหุ้นของไอทีวีก็ควรเอาคลิปเต็มมายืนยัน คนที่ตามเรื่องนี้อยู่จะได้รู้ว่า ระหว่างนักข่าวดังกับบริษัทยักษ์ใหญ่ใครจริงใจหรือไก่กา เรื่องนี้มันชัดเจนว่าต้องมีฝ่ายหนึ่งพูดจริงอีกฝ่ายต้องโกหก พูดจริงก็เป็นศรีแก่ตัวพูดชั่วปั้นหลักฐานเท็จก็ต้องโดนโทษคดีอาญา ปลายทางของเรื่องนี้ก็มีอยู่แค่นี้ มันพิสูจน์กันไม่ยากอยู่แล้ว เดี๋ยวก็รู้ว่าสื่อรับงานหรือเอกชนรับใบสั่ง เรื่องไอ้โม่งที่อยู่เบื้องหลังเรื่องนี้ ฝ่ายส้มก้าวไกลก็ต้องเอาให้ชัด คิดจะเป็นใหญ่ใจต้องกล้าอย่าพูดจาฉวัดเฉวียนไปมา ขี้ม้าเลียบค่ายตีกินคนอื่นไปเรื่อย ถ้ามั่นใจว่ามีใครอยู่เบื้องหลังวางแผนจะล้มพิธาอยู่หรือมีขบวนการจะคว่ำก้าวไกลไม่ให้เป็นรัฐบาล ฝ่ายส้มล้มเจ้าก็ต้องประกาศออกมาให้ชัด อย่ามัวอมพะนำพูดจาครึ่งๆกลางๆ ตีหัวเข้าบ้านแบบนี้ โลกไปถึงไหนก้าวไกลชอบพูดเรื่องพรรค์อย่างนี้อยู่แล้ว ด่าคนอื่นมันส์ปากถึงทีตัวเองโดนเล่นบ้างก็อย่าทำเป็นหงอ ข้อมูลจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ต.ล.ท.) คู่กรณีของพิธากับก้าวไกล ที่พัลวันกันตอนนี้อย่าง บ.อินทัช โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) ปัจจุบันมีผู้ถือหุ้นรายใหญ่ ดังนี้ 1.บริษัท กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) 1,320,914,679 หุ้น คิดเป็น 41.19 % 2. SINGTEL GLOBAL INVESTMENT PTE. LTD. 801,328,970 หุ้น คิดเป็น 24.99 % 3. บริษัท ไทยเอ็นวีดีอาร์ จำกัด 208,453,973 หุ้น คิดเป็น 6.50 % 4.GULF ENERGY DEVELOPMENT PCL.173,812,727 หุ้น คิดเป็น 5.42 ส่วน บ. ไอทีวี จำกัด (มหาชน) ผู้ถือหุ้นใหญ่อันดับหนึ่ง ก็คือ บริษัท อินทัช โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) ถือหุ้นกว่า 52.92%

พิธากับก้าวไกลจะซัดว่าใครอยู่เบื้องหลัง ใครวางแผน ใครจัดทำขบวนการล้มพิธาล้มตัวเอง ก็เปิดหน้ากระกาศตัวงัดหลักฐานเอามาแฉกันให้ชัด ใช้วิธีการเดิมๆ ใช้มุกเก่าๆ ใช้เล่ห์เพทุบายเหมือนเคยมันไม่ได้แล้ว แต่ไม่ว่าเรื่องไอทีวีปลายทางจะไปจบอย่างไร ไม่ว่าจะออกหน้าไหน คลิปเก๊ของนักข่าวดังหรือรายงานปลอมของธุรกิจใหญ่ ยังไงพิธาก็ไม่รอด รธน.98 เขียนสั้นๆ แต่โคตรชัด ” บุคคลผู้มีลักษณะดังต่อไปนี้เป็นบุคคลต้องห้ามมิให้ใช้สิทธิสมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (3) เป็นเจ้าของหรือผู้ถือหุ้นในกิจการหนังสือพิมพ์หรือสื่อมวลชนใด ๆ ไอทีวีก่อตั้งด้วยการเป็นสื่อโทรทัศน์ ปัจจุบันแม้ไม่มีช่องให้ออกอากาศ แต่บริษัทก็ยังทำธุรกิจสื่อด้านอื่นๆ ยังประกอบการ ยังมีผลกำไร-ขาดทุน ยังมีการประชุมผู้ถือหุ้น ยีงมีแผนการดำเนินงานในอนาคตอันใกล้ ยังไม่บอกเลิกกิจการกับกรมพัฒนาธุรกิจการค้า พิธาสมัครเป็นส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อ 4-7 เม.ย. 2566 ถูกเสนอชื่อเป็นปาร์ตี้ลิสต์หมายเลข 1 พ่วงเป็นแคนดิเดตนายกฯของก้าวไกล ระหว่างสมัครส.ส.ยังถือหุ้นไอทีวีอยู่ 42,000 หุ้น เพิ่งปรากฎหลักฐานโอนหุ้นไปให้น้องชายเมื่อ 24 พ.ค.2566 ที่ผ่านมา รู้ว่าไม่มีสิทธิ์สมัครรับเลือกตั้งเนื่องจากขาดคุณสมบัติหรือมีลักษณะต้องห้าม กฎหมายลูก พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้งส.ส. 2561 ม.151 ระบุโทษชัด ” ระวางโทษจําคุกตั้งแต่​1​ปี​ ถึง10​ ปี และปรับตั้งแต่ ​20, 000 ถึง 200,000 บาท และให้ศาลสั่งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งของผู้นั้นมีกําหนด​ 20​ ปี” ด้อมส้มต้องลุ้นว่าปลายทางพิธาจะไปจบยังไง แต่มองมุมไหนไม่ว่ายังไงพิธาก็โดน
/////////////////////////

ข่าวที่น่าสนใจ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

"พายุงวงช้าง" พัดถล่มหมู่บ้านริมทะเล-นครศรีฯ กระเบื้องปลิวเสียหายนับ 10 หลังคาเรือน
กรมอุตุฯ ประกาศฉบับ 4 เตือน ฝนตกหนักบริเวณภาคใต้ อ่าวไทยตอนล่างคลื่นลมแรง ไทยตอนบนอุณหภูมิลดฮวบ 6 องศา
"ธนกร" ฝากรัฐบาล-ผบ.ตร. เร่งเช็กบิลพวก "คนบาปในคราบนักบุญ" ทำทีช่วยร้องเรียนแต่เรียกรับทรัพย์
ซอนต้ารวมพลังจัดกิจกรรมจิตอาสาพลังรักสร้างวัยรุ่นเติบโตด้วยหัวใจ
สุดช้ำ หลังคำพิพากษาศาลฎีกา พ่อแม่ น้องหลิว 8 ปี ที่รอคอย โอดครวญ คงตายก่อนเยียวยา ไม่เคยได้รับการเยียวยา จากจำเลย หลังศาลฎีกา ตัดสิน จำคุกจำเลย ตลอดชีวิต คดี ผอ.โรงเรียน ฆาตกรรมลูกสาว สาวโรงงาน
พ่อเลี้ยงหื่น! มอมเหล้าลูกเลี้ยง วัย 16 ปี จนขาดสติก่อน ลวนลาม ขณะแม่อยู่ด้วยก็ไม่เว้น เครียดหนักเคยคิดสั้นฆ่าตัวตาย สุดอึ้ง!! เอาเรื่องไปบอกแม่ กลับไม่เชื่อ
พล.ต.ท.ธนายุตม์ ยื่นสำนวนคดี “แอม ไซยาไนด์” ให้อัยการด้วยตัวเอง 14 รายการ
ราชกิจจาฯเผยแพร่ พระบรมราชโองการ ประกาศ ให้ชื่อใหม่ "เจ้าคุณพระสินีนาถ พิลาสกัลยาณี"
“แม่สามารถ” เครียดจัด ผูกคอคาห้องขังดีเอสไอ จนท.ช่วยระทึก ห่วงลูกจะอดข้าวประท้วง ขอความเป็นธรรม
เคราะห์ร้าย ! หนุ่มวัย 18 ปี ขี่จยย. ถูกกันสาดหล่นใส่หัวเจ็บสาหัส

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น