” เบื้องลึก-เบื้องหลัง” เบรกอุ๊งอิ๊งค์นั่งนายกฯ

คุณหญิงพจมานนัดลูกๆ เคลียร์ใจปมการเมือง นัดกินข้าวโรงแรมดังย่านหลานหลวง ยันเบรก "อุ๊งอิ๊ง" นั่งนายกฯเพราะเป็นห่วง ยังมีเวลาอีกมาก สถานการณ์ยังไม่ปกติ ขอ "ทักษิณ อย่าเพิ่งรีบกลับเพราะบ้านเมืองยังไม่นิ่ง กังวลถูกหลอกเหมือนยุคคสช. กลับมาโดนเรียกรายงานตัวคดีที่ดินรัชดา สุดท้ายต้องออกอุบายหนีไปดูโอลิมปิกส์ที่จีนก่อนชิ่งไปอังกฤษ ไฟเขียวเศรษฐาเป็นนายกฯเพื่อไทย ไม่กลัวซ้ำรอยลุงหมัก

ข่าวใหญ่การเมืองช่วงนี้หนีไม่กรณีถือหุ้นไอทีวีของ “ทิม” พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ที่ปลายทางยังไม่รู้ว่าเจ้าตัวจะไปจบลงแบบใด ระหว่าหลุดพ้นมลทินหรือถูกชี้ว่าขาดคุณสมบัติไปจนถึงติดคุก ที่ต้องตามลุ้นกันต่อไปยาวๆยิ่งกว่าซีรี่ย์เกาหลี แต่ในแวดวงการเมืองก็มีเรื่องอื่นประเด็นร้อนอื่นๆ ที่น่าสนใจน่าติดตามไม่แพ้กัน โดยเฉพาะข่าวครอบครัวชินวัตรสั่งเบรก “อุ๊งอิ๊ง” แพทองธาร ชินวัตร เป็นนายกฯ เรื่องนี้ปรากฎเป็นข่าวช่วงหัวค่ำของวันอังคารที่ 6 มิ.ย.2566 เป็นวันเดียวกับที่พิธานัด 8 พรรคร่วมรัฐบาลใหม่ หารือกันที่พรรคเพื่อไทยในช่วงสาย ย้อนกลับไปดูรายละเอียดข่าวในวันนั้น หนังสือพิมพ์ทุกหัว สำนักข่าวทุกแห่ง อ้าง “แหล่งข่าวใกล้ชิด ครอบครัวชินวัตร” เปิดเผยว่า “คุณหญิงอ้อ” พจมาน ดามาพงศ์ นัดรับประทานอาหารกับครอบครัว ประกอบด้วย “เอม” น.ส.พิณทองทา คุณากรวงศ์ และสามี “อุ๊งอิ๊ง” น.ส.แพทองธาร ชินวัตร แคนดิเดตนายกฯพรรคเพื่อไทย และ หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย และสามี ที่โรงแรมแห่งหนึ่งใน กทม. หลังจากเสร็จสิ้นการประชุม 8 พรรคที่พรรคเพื่อไทย ประเด็นสำคัญของการพูดคุยในวันนั้น ปรากฎเป็นข่าวความว่า ” คนในครอบครัวชินวัตรไม่เห็นด้วยที่จะให้ น.ส.แพทองธาร เป็นนายกฯ ในสถานการณ์ขณะนี้ เนื่องจากยังไม่พร้อม อยากให้รออีก 5 ปี และไม่ใช่เรื่องง่ายกับสถานการณ์เมืองในปัจจุบัน เพราะอายุแค่เพียง 37 ปีเท่านั้น อีกทั้งยังมีแคนดิเดตนายกฯคนอื่นที่เหมาะสมกว่า เช่น เศรษฐา ทวีสิน ก็มีความเชี่ยวชาญในเรื่องทางเศรษฐกิจ และอยากให้เศรษฐกิจของประเทศกระเตื้องขึ้นด้วย รวมถึงพิธา ”

นอกจากนี้ยังมีประเด็นการเดินทางกลับไทยของโทนี่ ที่ทางครอบครัวชินวัตร อยากให้ทอดเวลาออกไปก่อน แต่ตัวพี่โทนี่อยากเดินทางกลับมาเลย ซึ่งทางครอบครัวยังไม่มั่นใจว่าจะถูกหลอกหรือไม่ และใจจริงก็อยากให้กลับมาหลังตั้งรัฐบาลเรียบร้อยแล้ว หรือมีรัฐบาลเรียบร้อยแล้ว รวมถึงมีโค้ดคำพูดสำคัญที่กล่าวว่า “ อิ๊งค์ยังอายุน้อย ประสบการณ์ก็น้อย แต่การที่เข้ามาทำงานการเมืองก็เพื่ออยากทำให้พรรคเพื่อไทยเข้มแข็ง ส่วนทิศทางการเมืองของอิ๊งค์ ให้เป็นไปตามสเต็ป ขณะเดียวกันตัวอิ๊งค์ก็บอกพ่อว่าเที่ยวบินตัวเองยังไม่ได้ ซึ่งพ่อเค้าก็เข้าใจ” แหล่งข่าวระบุ คล้อยหลังมีการรายงานข่าวนี้ออกไปอุ๊งอิ๊งก็ออกมาให้สัมภาษณ์เมื่อ 14 มิ.ย.2566 ที่ผ่านมา พูดยอมรับว่ามีการเตือนเรื่องนี้จากฝ่ายคุณหญิงพจมานจริงๆ ” จริง ๆ แล้ว ไม่ใช่ทางครอบครัวเบรก แต่เป็นเรื่องที่แม่พูดคุยกับลูกสาวคนเล็ก ที่ในใจท่านก็มีความภูมิใจลูกสาวคนเล็กที่มายืนจุดนี้ แต่ลึก ๆ แม่ก็ยังเห็นตนเป็นเด็ก แต่ในชีวิตจริงตนก็รู้ว่าตนเองไม่ใช่เด็ก การที่แม่เป็นห่วงก็ไม่รู้สึกโกรธอะไรเลยด้วยซ้ำ เพราะเรารู้ว่าเราไม่ใช่เด็ก รู้สึกว่าเขาเป็นห่วง ทั้งตอนที่ท้องแล้วไปหาเสียงท่านก็เป็นห่วงมาก ตนก็ต้องคอยพูดตลอดว่ายังโอเค หาหมอแล้ว และบอกแม่อยู่ทุกครั้ง เป็นแค่ความเป็นห่วงเท่านั้นไม่มีมิติอื่นจริง ๆ” แพทองธารระบุ ก่อนยืนยันว่าเรื่องการกินข้าวในครอบครัวไม่มีอะไรในก่อไผ่เป็นแค่ความห่วงใยกันในครอบครัว ” เรื่องนี้ไม่มีอะไรเลย มิติทางการเมืองก็ไม่มีอะไร มีแต่มิติเรื่องครอบครัว หากเป็นเรื่องที่จริงจังขนาดนั้น ก็คงไม่ต้องนัดกันกินข้าวนอกบ้าน เพราะคุยที่บ้านก็คงจบได้”

อุ๊งอิ๊งค์อธิบายความห่วงใยของคุณหญิงพจมานเกี่ยวกับการกลับไทยของทักษิณว่า ” สิ่งที่เกิดขึ้นเป็นเพียงแค่ความห่วงใยของคุณหญิงพจมาน ดามาพงศ์ เพราะเป็นเหมือนเสาหลักของครอบครัวที่ห่างกับพ่อมา 17 ปี แม่ก็เป็นห่วงทุกเรื่อง ไม่ว่าจะเรื่องของตนเอง เวลาที่พูดก็พูดในฐานะแม่ของลูกสาว ไม่ได้พูดในฐานะแม่ของแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคเพื่อไทย ดังนั้นความเป็นห่วงเป็นใยคุณพ่อ ครอบครัวมีมาเสมอ ซึ่งไม่มีมิติทางการเมืองด้านอื่นจริง ๆ และตนได้อ่านข่าวก็มีการวิเคราะห์กันไปมากมาย ก็อยากจะบอกว่ามันไม่มีอะไรเลย มีแค่ความเป็นห่วงเท่านั้น” ความจริงถ้าไม่มีข่าวพิธามาเบียด ข่าวนี้จะเป็นข่าวใหญ่ที่ได้รับความสใจมากกว่านี้อีกพะเรอเกวียน การออกมาพูดของอุ๊งอิ๊งก็เป็นการยอมรับอย่างกลายๆ ว่ามีการเจอกันตามข่าวจริงๆ “เบื้องลึก-เบื้องหลัง” ของข่าวนี้ เกิดขึ้นตามที่เป็นข่าวจริงๆ คุณหญิงอ้อนัดลูกๆกินข้าวกันที่โรงแรมชื่อดังแห่งหนึ่งย่านหลานหลวง โรงแรมนี้ขึ้นชื่อเรื่องห้องอาหารจีน สมัยก่อนนักการเมือง ขาใหญ่ต้องนัดกันไปกินอาหารจีนที่นี้ เพราะดังมากๆ ในจำนวนนั้นมีสมัคร สุนทรเวช บรรหาร ศิลปอาชา 2 อดีตนายกฯของไทยรวมอยู่ด้วย เป็น 2 อดีตผู้นำประเทศที่แวะเวียนไปกินอาหารจีนที่โรงแรมนี้บ่อยๆ

 

คุณหญิงอ้อนัดลูกๆไปเจอกันรอบนี้ขาดครอบครัวของ “เสี่ยโอ๊ค” พานทองแท้ ที่ไม่ได้ไปด้วยเลยไม่ครบองค์ประชุม และที่เป็นข่าวหลุดออกมาให้เราได้รู้กัน ก็ช่างบังเอิญที่วันนั้นคุณหญิงอ้อดันไปพบกับกลุ่มผู้สื่อข่าวคณะหนึ่งที่บังเอิญนัดแหล่งข่าวไปพูดคุยกันที่นั้นพอดี และในจำนวนนั้นดันมีคนที่สนิทสนมกับคุณหญิงอ้อ รู้จักกับทักษิณ และคนในครอบครัวชินวัตรเป็นอย่างดี ชนิดที่เห็น “โอ๊ค-เอม-อิ๊ง” ตั้งแต่ตัวเล็กๆ งานนี้คุณหญิงอ้อเลยวางใจที่จะพูดจาทักทายกันตามปะสาคนรู้จักนานนับสิบปี พูดจาทักทายกันพอหอมปากหอมคอ เป็นธรรมดาที่คนเป็นนักข่าวต้องถามสารพัดเรื่องซอกแซกตามนิสัย แถมคนระดับ “นายหญิงแห่งเพื่อไทย” ปรากฎตัวได้พบหน้าให้พูดคุยกันทั้งที มีหรือกระจิบกระจอกข่าวจะไม่ซัดสารพัดคำถามที่อยากรู้ เรียกว่า “เสร็จโจร” เพราะไม่บ่อยที่คุณหญิงอ้อจะคุยกับนักข่าว  เจอกันก็ยาก คุยกันแทบไม่ต้องบอก “ไม่มี”    หากไม่ใช่คนที่รู้จักหรือสนิทสนมกันจริงๆ ประเด็นหลักนอกเหนือจากที่เป็นข่าวในวันนั้น มีการยืนยันว่าทั้งคุณหญิงอ้อและตัวอุ๊งอิ๊งเองได้มีการเคลียร์เรื่องอนาคตทางการเมืองกับทักษิณแล้ว โดยอุ๊งอิ๊งยืนกรานกับพ่อคือทักษิณ ในวันที่เดินทางพร้อมปิฎก สุขสวัสดิ์ ผู้เป็นสามีไปพบทักษิณกับยิ่งลักษณ์ ที่สิงคโปร์ เมื่อวันที่ 25 พ.ค.2566 ระหว่างที่ทักษิณบินมาตรวจสุขภาพประจำปี งานนี้ลูกสาวคนเล็กเคลียร์ใจเปิดอกคุยกับพ่อชัดว่า “ยังไม่พร้อม” ที่จะเป็นนายกฯในตอนนี้ จากองค์ประกอบหลายอย่าง ทั้งอายุ ประสบการณ์ คุณวุฒิ วัยวุฒิ สถานการณ์การเมือง ฯลฯ ซึ่งเรื่องนี้ทางคุณหญิงพจมานและทุกคนในครอบครัวก็เห็นด้วย เห็นตรงกัน ไม่มีสวนหรือขัดกัน ตามข่าวที่มีการนำเสนอออกไป เพราะอุ๊งอิ๊งอายุยังน้อย พรรษายังไม่ถึง สถานการณ์ก็ไม่ปกติ ตรงนี้จึงน่าจะรอเวลาได้ และชั่วโมงนี้คนที่เหมาะสมกว่าน่าจะเป็น “เสี่ยนิด” เศรษฐา นักธุรกิจหนุ่มใหญ่วัย 60 ปี ที่พร้อมลุยไฟ ฝ่าดงตีน ฝ่าด้อมส้มเข้าสู่อำนาจ

งานนี้มีการกระซิบถามนายหญิงว่าห่วงกังวลว่าเศรษฐาจะซ้ำรอย “หัวแข็ง” คุมไม่อยู่แบบลุงหมักที่พอเป็นนายกฯแล้วคุมยากไหม ที่นายหญิงตอบกลับมาว่า ” คุยกันแล้ว เรียบร้อยดี ไม่มีปัญหาอะไร” ดูแบบนี้แสดงว่าเศรษฐาคงได้ไฟเขียวเป็นนายกฯแล้ว ถ้าส้มหล่นจากพิธาไม่ได้เป็นนายกฯเสี่ยนิดจะขึ้นเป็นนายกฯของฝั่งเพื่อไทยแน่ อีกประเด็นที่ถูกพูดถึงออกมาคือเรื่อง “ถูกหลอก” ที่มีการขยายความว่า ครอบครัวชินวัตรห่วงว่าหากทักษิณกลับมาในเรื่องคดีความต่างๆที่มีอยู่อีรุงตุงนัง ถึงตอนนั้นถ้าทักษิณกลับมาจริงในช่วงเดือนก.ค. จะเคลียร์ทางได้โล่งสะดวกโยธินหรือไม่ เพราะคราวก่อนที่กลับมาเมื่อ 28 ก.พ.2551 สมัยที่สมัครเป็นนายกฯ มีการอ้างว่าฝ่ายคสช.บอกว่าจะดูแลคดีต่างๆให้ แต่พอถึงเวลาจริงๆ ทักษิณถูกเชคบิลตามกระบวนการยุติธรรม สุดท้ายเลยต้องให้ “บิ๊กอ็อด” พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา ประธานโอลิมปิกในตอนนั้น ออกอุบายทำเรื่องอ้างว่าขอไปดูการแข่งขันโอลิมปิกส์ที่ประเทศจีน โดยทั้ง 2 คน ได้ขออนุญาตศาลฎีกาฯ เดินทางออกนอกประเทศ โดยให้เหตุผลเดินทางไปปฏิบัติภารกิจประเทศจีนและญี่ปุ่น ระหว่างวันที่ 31 กรกฎาคม – 10 ส.ค. 2551 ในรายละเอียดคุณหญิงพจมาน ให้เหตุผลขอเดินทางไปร่วมพิธีเปิดงานกีฬาโอลิมปิก ที่ประเทศจีน ระหว่างในวันที่ 5-10 ส.ค. 2551 และเมื่อถึงวันนัดให้ไปรายงานตัวต่อศาลวันที่ 11 ส.ค. 2551 ทั้งสองคนก็ ไม่มารายงานตัวต่อศาล แต่ไปปรากฎตัวที่ประเทศลอนดอนพร้อมครอบครัวในวันที่ 21 ต.ค. 2551 นั้นก็คือความในอดีต อนาคตอันใกล้อุ๊งอิ๊งยังยืนกรานทักษิณกลับไทยก.ค.นี้แน่ ยังไม่เปลี่ยน ส่วนจะมาจริงหรือไก่กาก็คอยดูกันอีกไม่กี่วันก็รู้
//////////////////

ข่าวที่น่าสนใจ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

"พายุงวงช้าง" พัดถล่มหมู่บ้านริมทะเล-นครศรีฯ กระเบื้องปลิวเสียหายนับ 10 หลังคาเรือน
กรมอุตุฯ ประกาศฉบับ 4 เตือน ฝนตกหนักบริเวณภาคใต้ อ่าวไทยตอนล่างคลื่นลมแรง ไทยตอนบนอุณหภูมิลดฮวบ 6 องศา
"ธนกร" ฝากรัฐบาล-ผบ.ตร. เร่งเช็กบิลพวก "คนบาปในคราบนักบุญ" ทำทีช่วยร้องเรียนแต่เรียกรับทรัพย์
ซอนต้ารวมพลังจัดกิจกรรมจิตอาสาพลังรักสร้างวัยรุ่นเติบโตด้วยหัวใจ
สุดช้ำ หลังคำพิพากษาศาลฎีกา พ่อแม่ น้องหลิว 8 ปี ที่รอคอย โอดครวญ คงตายก่อนเยียวยา ไม่เคยได้รับการเยียวยา จากจำเลย หลังศาลฎีกา ตัดสิน จำคุกจำเลย ตลอดชีวิต คดี ผอ.โรงเรียน ฆาตกรรมลูกสาว สาวโรงงาน
พ่อเลี้ยงหื่น! มอมเหล้าลูกเลี้ยง วัย 16 ปี จนขาดสติก่อน ลวนลาม ขณะแม่อยู่ด้วยก็ไม่เว้น เครียดหนักเคยคิดสั้นฆ่าตัวตาย สุดอึ้ง!! เอาเรื่องไปบอกแม่ กลับไม่เชื่อ
พล.ต.ท.ธนายุตม์ ยื่นสำนวนคดี “แอม ไซยาไนด์” ให้อัยการด้วยตัวเอง 14 รายการ
ราชกิจจาฯเผยแพร่ พระบรมราชโองการ ประกาศ ให้ชื่อใหม่ "เจ้าคุณพระสินีนาถ พิลาสกัลยาณี"
“แม่สามารถ” เครียดจัด ผูกคอคาห้องขังดีเอสไอ จนท.ช่วยระทึก ห่วงลูกจะอดข้าวประท้วง ขอความเป็นธรรม
เคราะห์ร้าย ! หนุ่มวัย 18 ปี ขี่จยย. ถูกกันสาดหล่นใส่หัวเจ็บสาหัส

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น