นายอัษฎางค์ ยมนาค นักวิชาการอิสระ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก “เอ็ดดี้ อัษฎางค์ ยมนาค” ระบุว่า สามก๊ก “โทนี่ สัประยุทธ์ ก้าวไกล”
นิยายสามก๊กเขียนจากเค้าโครงเรื่องจริงในประวัติศาสตร์ ซึ่งกลายมาเป็นตำราพิชัยยุทธ์ที่สำคัญและเป็นที่นิยมทั้งโลกการเมือง การทหารและการค้า ที่ต้องนำมาศึกษาเป็นตัวอย่างในยุคปัจจุบัน
มีอยู่ตอนหนึ่งซึ่งเป็นตอนต้นๆ เรื่อง ที่นึกแล้วมันช่างคล้ายกับสถานการณ์บ้านเมืองของเราเสียเหลือเกิน เรากำลังอยู่สถานการณ์ที่เรียกว่า “หนีเสือปะจระเข้” หนีทักษิณเจอธนาธร หนีเพื่อไทยเจอก้าวไกล รวมทั้งสถานการณ์ “ชักศึกเข้าบ้าน”
เมื่อโจโฉหนีออกจากลกเอี๋ยง เพราะลอบสังหารทรราชตั๋งโต๊ะไม่สำเร็จ โจโฉหนีมาถึงอำเภอจงมู่ ที่ซึ่งตันก๋งเป็นผู้ว่าราชการ โจโฉถูกจับกุมตัวตามประกาศจับ และนำไปให้ตันก๋งสอบสวน
แต่เมื่อพูดคุยกันแล้วตันก๋งประทับใจในความจงรักภักดีที่โจโฉมีต่อพระมหากษัตริย์ จึงตกลงปลงใจทิ้งราชการออกติดตามโจโฉไปทั่ว ตันก๋งนั้นหมายใจจะกลับไปยังบ้านเกิดที่เมืองเฉินหลิว อยู่แถบเมืองไคเฟิงในปัจจุบัน ทั้งนี้ เพื่อตั้งกองกำลังมาปราบปรามตั๋งโต๊ะต่อไป
ตันก๋งเสนอโจโฉว่า ให้มุ่งหน้าไปสวามิภักดิ์กับอ้วนเสี้ยว ขุนศึกที่ทรงอำนาจมากที่สุดในยุคสมัยนั้น โดยอ้วนเสี้ยวเป็นหัวหอกของเหล่าขุนศึกที่จัดตั้งแนวร่วมพันธมิตรต่อต้านตั๋งโต๊ะ
แต่โจโฉบอกกับตันก๋งว่า “อ้วนเสี้ยวไม่ใช่นักปกครองที่ดี”
โจโฉถามตันก๋งว่า “รู้ไหมว่าอ้วนเสี้ยวตั้งกองทัพทำไม”
ตันก๋งตอบว่า “ก็เพื่อกำจัดตั๋งโต๊ะ”
โจโฉถาม “ความผิดของตั๋งโต๊ะคืออะไร
ตันก๋งตอบว่า “บ้านเมืองวุ่นวาย เกิดกลุ่ม 10 ขันทีฉ้อฉลขึ้นมาเป็นใหญ่ โฮจิ๋นต้องกวาดล้างกลุ่ม 10 ขันที จึงเปิดประตูเมืองให้ขุนศึกนอกเมืองเข้าเมือง ซึ่งเป็นเหตุให้ตั๋งโต๊ะเข้ามาเป็นใหญ่แทนกลุ่ม 10 ขันทีในที่สุด