เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ภาคีเครือข่ายพิทักษ์มาตุภูมิ เดินทางไปยังสถานฑูตอเมริกา ประจำประเทศไทย เพื่อยื่นหนังสือเปิดผนึก เรียกร้องขอให้ อเมริกาหยุดแทรกแซงกิจการภายในของประเทศไทย โดยระบุว่า เนื่องด้วยประเทศไทยเรามีเอกราชมาอย่างยาวนานเป็นราชอาณาจักรปกครองโดยระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข มีรัฐธรรมนูญเป็นของตนเองมาตั้งแต่ ปีพุทธศักราช 2475แต่ ณ ปัจจุบันประชาชนคนไทยมีคำถามต่อท่าทีของสหรัฐอเมริกาในการแสดงออกหลายเรื่องต่อกิจการภายในของประเทศไทย
ภาคีเครือข่ายพิทักษ์มาตุภูมิยื่นหนังสือเรียกร้องขอให้ อเมริกาหยุดแทรกแซงกิจการภายในของประเทศไทย โดยมี Mr. เควิน เอ็ม แม็คดาวน์ เลขานุการโท สถานทูตสหรัฐ เป็นคนมารับหนังสือ
ข่าวที่น่าสนใจ
หยุดแทรกแซงต่อกิจการภายในของไทย เช่นร่างมติ สภาผู้แทนราษฎร369 (H.Res 369)ซ่งรายละเอียดข้อ 5 ของร่างมตินี้ที่เรียกร้องให้รัฐบาลไทยปล่อยและยุติการดำเนินคดีกับนักกิจกรรมทางการเมือง โดยเฉพาะเด็กและนักเรียนเว้นจากการข่มขู่ คุกคามหรือฟ้องดำเนินคดีผู้ที่เข้าร่วมการชุมนุมโดยสงบและกิจารรมทางพลเมืองโดยทั่วไป และในช้อที่ 8 มีการเรียกร้องให้รัฐบาลไทยแก้ไขกฎหมายที่จำกัดสิทธิเสรีภาพในการแสดงออกของประชาชน โดยเฉพาะในช่วงสถานการณ์การเลือกตั้ง ยกตัวอย่างเช่น มาตรา 112 ประมวลกฎหมายอาญา พรบ คอมพวเตอร์ฯ และกฎหมายเกี่ยวกับยุยงปลุกปั่น
เนื่องจากมีรายงานว่า Mr. Christopher kelland พบผู้นำ NUG(National Unity Govemment of Myanmar)ที่เชียงใหม่ทำ หากเป็นจริงอาจส่งผลถึงการแทรกแซง เกิดการยุยงปลุกปั่นให้ทยกับพม่ามีปัญหาระหว่างประเทศ รวมถึงเล็งประเทศไทยเป็นฐานทัพทหารสหรัฐอเมริกาในอนาคตทั้งที่ปิดผยและไม่เปิดเผย ขอให้ท่านยืนยันและรับปากว่าไม่มีเรื่องดังกล่าว ขอให้สหรัฐฟังความให้รอบด้าน จากหลายกลุ่ม ไม่รับข้อมูลเฉพาะพวก NGOS เช่น ILaw คณะก้าวหน้าหรือพวก humanight ต่างๆ ซึ่งให้แต่ข้อมูลต้านลบที่ไม่ตรงกับความจริง โดยเฉพาะเรื่อง ม. 112 ซึ่งปัจจุบันมีมาตรการกลั่นกรองก่อนฟ้องและให้ประกันตัวตามมาตรฐานสากลขอให้เชื่อมั่นในกฎหมายประเทศไทย
จากสิ่งที่เกิดขึ้นมาทั้งหมดข้างต้น ภาคีเครือช่ายพิทักษ์มาตภูมิ มีความรู้สึกไม่สบายใจที่มิตรประเทศของเรากำลังเข้ามาแทรกแซงกิจการภายในของประทศไทยในลักษณะก้าวก่าย, ครอบงำและกดดันให้ประเทศไทย ทำตามที่สหรัฐอเมริกาต้องการให้เป็นซึ่งระเบียบและกฎเกณฑ์กติกาสากล มีการระบุไว้ชัดเจนว่าแต่ละประเทศมีอำนาจอธิปโตยเป็นของตนเอง ดังนั้นทางภาดีเครือช่ายพิทักษ์มาตภูมิ จึงขอยื่น หนังสือถึง M. Robet . Godec เอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทย เพื่อให้ประเทศสหรัฐอเมริกาทบทวนบทบาทที่กำลังทำอยู่ ณ ขณะนี้
ข่าวที่เกี่ยวข้อง