เจมส์ แคเมอรอน ผู้กำกับภาพยนตร์ไททานิค ได้ให้สัมภาษณ์กับแอนดิสัน คูเปอร์ ผู้ประกาศข่าวชื่อดังของ CNN เมื่อวานนี้ โดยเขาเปรียบเทียบโศกนาฏกรรมเรือดำน้ำไททันว่าคล้ายๆกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับไททานิค และกลายเป็นบทเรียนสำคัญที่น่าเรียนรู้ โดยกล่าวว่าโศกนาฏกรรมเรือไททานิคเกิดขึ้นเนื่องจากกัปตันได้ขับเคลื่อนเรือไททานิคด้วยความเร็วที่เต็มสตีมในคืนเดือนมืด ที่ไร้แสงจันทร์ จนทำให้เรือพุ่งชนภูเขาน้ำแข็ง จนจมดิ่งสู่ก้นแอตแลนติกพร้อมผู้โดยสารกว่า 1 พัน 500 คน ทั้งๆที่กัปตันได้รับคำเตือนหลายครั้งเกี่ยวกับทัศนวิสัยในคืนนั้น แต่เขาก็ไม่ฟัง
ส่วนอุบัติเหตุเรือไททันก็คล้ายๆกัน โดยบริษัทโอเชียนเกต เจ้าของเรือไททันก็ได้รับคำเตือนหลายครั้งก่อนหน้านี้เกี่ยวกับปัญหาตัวถังเรือที่ทำด้วยวัสดุคาร์บอนไฟเบอร์ แต่โอเชียนเกตก็ไม่ฟัง
นอกจากนี้เวนดี้ รัช ภรรยาของสต็อคตัน รัช ผู้บริหารโอเชียนเกต ซึ่งเป็น 1 ในผู้เสียชีวิตในเรือไททันก็เป็นลูกหลานของ 1 ในผู้โดยสารที่เสียชีวิตในเรือไททานิค ซึ่งข้อมูลนี้ปรากฎอยู่ในรายงานของนิวยอร์ก ไทม์ส
แคเมอรอนเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการดำน้ำลึก ซึ่งเคยมีประสบการณ์ลงไปสำรวจซากเรือไททานิคมากถึง 33 ครั้ง เขาบอกว่าการลงไปชมซากไททานิคเหมือนกับการย้อนเวลาในอดีตกลับไปชมเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริง ทำให้เกิดแรงจูงใจและเหมือนเป็นสิ่งล่อลวงที่ดึงดูดผุ้คนให้ลงไปชม และรับรู้ถึงโศกนาฎกรรมและเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในอดีต อย่างไรก็ตามมันเป็นเรื่องสำคัญที่ผู้คนควรต้องจดจำประวัติศาสตร์และเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในอดีต รวมทั้งเรียนรู้บทเรียนที่เคยเกิดขึ้น เพื่อไม่ให้ซ้ำรอย และโศกนาฎกรรมครั้งนี้ยิ่งเป็นเรื่องที่น่าเสียใจเพราะเป็นเหตุการณ์ที่ไม่ควรเกิดขึ้นและเป็นสิ่งที่สามารถป้องกันได้
แคเมอรอนเคยให้สัมภาษณ์กับนิวยอร์ค ไทม์สในปี 2555 โดยเตือนถึงอันตรายของการสำรวจใต้ทะเลลึกว่าเป็นพื้นที่ที่หากเกิดอะไรขึ้นแล้ว ไม่สามารถแก้ไขอะไรได้ ไม่สามารถโทรเรียกเจ้าหน้าที่กุ้ภัยมาลากเรือได้