“สื่อผู้จัดการ” สวนกลับ “ธนาธร” พวกกินปูนร้อนท้อง ยันถอดคลิปคำต่อคำ ซัดไม่เคยดูตัวเองทำชาติแตกแยก

หัวข้อที่บรรยาย คือ “มองปัญหาชาติพันธุ์ในประเทศไทย” ซึ่งต้องการเปรียบเทียบให้ผู้ฟังเห็นความแตกต่างระหว่างนานาประเทศ กับประเทศไทย ในการชำระประวัติศาสตร์บาดแผลของตัวเอง และสร้างชาติที่เข้มแข็งผ่านการโอบรับความหลากหลายทางเชื้อชาติ มากกว่า “การบังคับให้ทุกคนมีจิตสำนึกในความเป็นไทยแบบเดียว”…มีสัญชาติไทย เชื้อชาติไทย เพียงอย่างเดียว

…รัฐไทยสร้างชาติผ่านการพยายามสถาปนาความเป็นไทยแบบเดียว โดยละเลยความแตกต่างทางศาสนา ชาติพันธุ์ วัฒนธรรม ความเชื่อ ของกลุ่มชนหลากหลาย ที่อาศัยอยู่ในแผ่นดินนี้มานานหลายร้อยปี ทั้ง ขะแมร์ มลายู มอญ ลาว จีน ม้ง และอื่นๆ อีกมากมาย แม้แต่การกรอกแบบฟอร์มที่ต้องระบุสัญชาติ และเชื้อชาติ กลับแทบไม่มีใครกรอกเชื้อชาติอื่น นอกจาก “ไทย” แม้แต่ตัวผม ที่เป็น “จีน” หรือ พี่น้องม้ง ปกาเกอะญอ มลายู ทุกคนกรอกว่ามี สัญชาติ “ไทย” เชื้อชาติ “ไทย” เพราะเกรงการถูกเลือกปฏิบัติในการเรียน การทำงาน การเข้ารับบริการจากภาครัฐ
ไทยแท้คืออะไร?…

…ผมเชื่อว่าความเป็นไทยที่เราภาคภูมิใจ คือไทยที่โอบรับความหลากหลายทางเชื้อชาติ ศาสนา ความเชื่อ ไทยที่ปฏิบัติต่อพลเมืองทุกคนอย่างเสมอหน้ากันใต้กฎหมาย ไทยที่ประชาชนทุกคนมีส่วนร่วมสร้างความเจริญให้กับประเทศ และรับดอกผล ของความเจริญนั้นอย่างเท่าเทียมกัน

อย่าใช้วาทกรรมเก่าๆ เดิมๆ มาขัดขวางการสร้างประเทศไทยที่ดีกว่านี้ ที่ลูกหลานของพวกเราจะได้อยู่ร่วมกันในอนาคตเลยครับ

สุดท้าย “ธนาธร” โยนบาปให้สื่อเครือผู้จัดการ ว่าควรมีจรรยาบรรณสื่อ ในการเสนอข้อเท็จจริงอย่างรอบด้าน และปราศจากอคติ ไม่นำข้อความที่ถูกนำเสนอแบบบิดเบือนให้คนเกลียดชังกันมานำเสนอ และทำให้สังคมแตกแยกไปมากกว่านี้

ซึ่งความจริงแล้ว เนื้อหาที่สื่อในเครือผู้จัดการนำเสนอออกไปนั้น ก็ถอดมาจากคำพูดของ “ธนาธร” แบบคำต่อคำ ไม่ได้ปรุงแต่งอะไร และคลิปก็เป็นคลิปจริง เสียงจริง ตัวจริง

“ธนาธร” ไม่เคยย้อนมองตัวเองกำลังปลุกปั่นให้คนในชาติแตกแยก เกลียดชังกัน โดยยกประวัติศาสตร์ชาติพันธุ์มาบังหน้า โชว์ว่าตัวเองรอบรู้ด้านประวัติศาสตร์

เมื่อย้อนไปดูพฤติกรรมก่อนหน้านี้ก็ได้ ที่ “ธนาธรแอนด์เดอะแก๊ง” ไปหาเสียงที่ภาคใต้ ก็ไปสุมเชื้อไฟใต้ หลังชนะเลือกตั้งแล้ว กำลังฮึกเหิม เมื่อวันที่ 7 มิ.ย.ที่ผ่านมานี้เอง คน 3 พรรค “ก้าวไกล-ประชาชาติ-เป็นธรรม” ก็ไปสุมเชื้อ “ที่ ม.อ.ปัตตานี อีก

ทำให้ “พล.ท.ศานติ ศกุนตนาค” แม่ทัพภาคที่ 4 และ ผอ.กอ.รมน.ภาค 4 ต้องส่งคนไปแจ้งความดำเนินคดี กับขบวนการนักศึกษาแห่งชาติ พรรคการเมือง และนักการเมือง ภาคประชาสังคมที่เกี่ยวข้องกับการจัดเสวนาครั้งนั้น ในหัวข้อเรื่อง “การกำหนดอนาคตตนเอง ในสันติภาพปาตานี” ซึ่งจัดให้มีการจำลองการลงประชามติ ในการแบ่งแยกดินแดน เป็นที่เรียบร้อย