“เสรี” ถกกกต. ปม “พิธา” ถือหุ้นไอทีวี จี้เร่งหาข้อยุติ ก่อนโหวตเลือกนายกฯ

“เสรี” ซัด พิธา ขาดวุฒิภาวะยกปมแก้ม. 112 มาอ้างทำประชาชนปะทะสถาบัน ชี้อยากเป็นผู้นำต้องสร้างสรรค์ เชื่อศึกชิงปธ.สภาไม่รุนแรงถ้าสองพรรคตกลงไม่ได้ใช้เสียงสภาตัดสิน บอก “สุชาติ” เหมาะกว่า “ปดิพัทธ์” ลุยถกกกต.ปม “พิธา”ถือหุ้นไอทีวี จี้หาข้อยุติ

ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) นายเสรี สุวรรณภานนท์ ประธานคณะกรรมาธิการพัฒนาการเมืองและการมีส่วนร่วมของประชาชน วุฒิสภา กล่าวภายหลังการหารือร่วมกับ กกต.นานกว่า 2 ชม. ว่า กมธ.หารือกับทางกกต.เนื่องจากเคยนัดไว้ตั้งแต่ก่อนวันเลือกตั้ง แต่ กกต.ติดภารกิจ จึงเลื่อนมาเป็นวันนี้ ซึ่งเรื่องที่มาหารือเป็นเรื่องที่ กมธ.กำลังพิจารณารวบรวมปัญหาเกี่ยวกับการทำงานของ กกต. เพื่อเป็นแนวทางในการแก้ไขปัญหาการเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้น ให้สุจริตเที่ยงธรรม มีหลายเรื่องที่หารือร่วมกัน และได้นำข้อมูลใน กมธ.ที่ได้มีการตรวจสอบ และข้อมูลที่ปรากฏในสื่อบางส่วน รวมถึงเอกสารที่ได้ขอกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ซึ่งเกี่ยวกับปัญหาเรื่องการถือครองหุ้นสื่อของนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคก้าวไกล (ก.ก.) มามอบให้กับ กกต.ด้วยเพื่อนำไปพิจารณาประกอบกับเรื่องที่ กกต.กำลังดำเนินการในเรื่องเหล่านี้อยู่ ส่งเป็นหนังสือพร้อมหลักฐานให้กกต.แล้ว

เมื่อถามว่าข้อมูลเพิ่มเติมกรณีนายพิธาที่ยื่น กกต. มีอะไรบ้าง นายเสรี กล่าวว่า เป็นส่วนที่ปรากฏในคดีความที่ยื่นร้องจัดการมรดกเดิมส่วนหนึ่ง และส่วนที่เป็นทรัพย์มรดกเป็นทรัพย์สิน เป็นที่ดินซึ่งได้มีการโอน มีการจัดการทรัพย์มรดกไปก่อนตั้งแต่ปี 2560 เพื่อเทียบให้เห็นว่าการถือหุ้นไอทีวีที่มีในปัจจุบันนี้เป็นการถือหุ้นโดยฐานะทายาทหรือผู้จัดการมรดก หรือ ในฐานะรับมรดกมาแล้ว ผู้สื่อข่าวถามว่า วันนี้กรรมาธิการมีข้อเสนอแนะหรือความเห็นใดๆ ไปยัง กกต. เพื่อการพิจารณาคดี หรือไม่อย่างไร นายเสรี กล่าวว่า เป็นการนำข้อมูลหลักฐานที่ปรากฎมาเสนอเพิ่มเติม แล้วกราบเรียนในอำนาจหน้าที่ของ กกต. ขอให้ทำหน้าที่ให้ ปรากฎ และหากสามารถดำเนินการเสร็จโดยเร็วได้ก็ขอให้ใช้อำนาจหน้าที่ดำเนินการ เพื่อแก้ปัญหาความขัดแย้งที่เกิดขึ้นอยู่ในสังคม ข้อถกเถียงทางการเมือง ที่ไม่อยากให้มันมีเรื่องอื่นเข้ามา และอยากให้ยุติโดยเร็ว

ข่าวที่น่าสนใจ

ผู้สื่อข่าวถามอีกว่า ทาง กกต. มีระยะเวลาอีกนานแค่ไหน กว่าจะจัดการเรื่องนี้ได้ นายเสรี ระบุว่า เรื่องนี้มี 2 ส่วน ส่วนแรกคือ ส่วนที่ท่านทำไปก่อนหน้านี้ได้ คือช่วงที่ยังไม่ได้ประกาศรับรอง ท่านได้สืบสวนหาข้อเท็จจริงดำเนินคดีในมาตรา 151 อย่างที่กล่าว และอีกส่วนหนึ่งหลังจากที่กกต.ได้ประกาศรับรองแล้ว ส่วนใดที่เป็นอำนาจหน้าที่ของ กกต.หากมีความปรากฎกับ กกต. อย่างไร ขอให้ท่านใช้อำนาจหน้าที่ในช่วงนี้

ผู้สื่อข่าวถามต่อ ประเด็นเก้าอี้ประธานสภา พรรคเพื่อไทย-ก้าวไกล ยังมีการเจรจาต่อรองกันอยู่ มองว่าจะเป็นการจุดฉนวนรอยร้าวหรือไม่ นายเสรี กล่าวว่า ในมุมมองของตน เป็นเรื่องของการตกลงกันของแต่ละพรรคการเมือง ไม่ว่าจะตกลงกันตำแหน่งใด หรือจะเป็นของพรรคการเมืองใด แต่ความแตกแยกคงไม่รุนแรง เพราะถือว่าในความคิดเห็นทางการเมือง หากมีความขัดแย้งเห็นไม่ตรงกัน โดยหลักต้องใช้เสียงในสภาในการตัดสินปัญหา หากเป็นพรรคเดียวกัน ก็เป็นไปตามมติของพรรค

ผู้สื่อข่าวถามต่อ ส่วนตัวท่านมองว่า ประธานสภา จะต้องเป็นคนที่มีคุณสมบัติ ลักษณะอย่างไร นายเสรี กล่าวว่า ประธานสภาผู้แทนราษฎร ต้องดูได้จากการทำหน้าที่ประธานท่านก่อนๆ ที่ผ่านมา ว่าทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพหรือไม่ เป็นที่เคารพ และเชื่อถือของบรรดาสมาชิกของทุกพรรคหรือไม่ สิ่งสำคัญคือ การวางตัวที่เหมาะสม กับการวางตัว เพื่อทำหน้าที่เป็นตัวแทนของทุกพรรค และคนทั้งสภา แต่หากมีการแสดงออกในลักษณะก้าวร้าว ลักษณะที่ทำผลประโยชน์เพื่อพรรคตนเอง หรือส่วนตัวเอง ตนมองว่าเป็นเรื่องที่ต้องพิจารณาถึงความเหมาะสม หรือไม่เหมาะสม ทุกคนที่เป็นสมาชิกของสภา สมารถนำเรื่องนี้มาตัดสินใจได้ เนื่องจากจะกระทบต่อการทำงานของสภา และประชาชนทั้งประเทศ

ผู้สื่อข่าวถามต่อ ส่วนตัวมองว่า นายสุชาติ ตันเจริญ เหมาะกับตำแหน่งประธานสภาหรือไม่ นายเสรีตอบว่า จากประสบการณ์การทำงานที่ผ่านมา นายสุชาติมีความสามารถ มีประสบการณ์และทำมาหลายสมัย ไม่น่าจะติดขัดอะไร ส่วนที่พรรคก้าวไกลจะเสนอชื่อนายปดิพัทธ์ สันติภาดา เป็นประธานสภาเหมาะสมหรือไม่ นายเสรี กล่าวว่า เสนอได้ เพราะมาจากพรรคการเมืองของแต่ละพรรค แต่การจะเป็นได้ดีหรือไม่ดีต้องดูจากความรู้ความสามารถ การวางตัว การแสดงออก ซึ่งหากให้เทียบกันตนว่านายสุชาติดีกว่า

ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีที่นายพิธา ระบุว่าหากนำมาตรา 112 มาเป็นเงื่อนไขไม่โหวตเลือกมาเป็นนายกรัฐมนตรี เท่ากับว่าเป็นการนำเสียงของประชาชน มาปะทะกับสถาบันนั้น นายเสรี กล่าวว่า ตอบว่า ข้อเสนอแค่นี้ก็ขาดวุฒิภาวะแล้ว เพราะว่าสิ่งที่เสนอกันมา หรือแสดงออกกันมาชัดเจนอยู่แล้วว่ากระทบกับสถาบัน เมื่อสมาชิกวุฒิสภา ไม่เห็นด้วย ก็เป็นเหตุเป็นผล แต่ไม่ได้หมายความถึงที่ต้องนำประชาชน มาทำให้เกิดการปะทะกัน การเป็นผู้นำประเทศ หากต้องการให้อยู่ในตำแหน่งควรเสนออะไรที่สร้างสรรค์ และไม่ก่อปัญหา ความเห็นที่แตกต่าง เพียงเสนอแค่นี้ตนมองว่า วุฒิภาวะอย่างที่พยายามพูดกันอยู่ตลอด ต้องดูให้ดีแล้ว ”

ผู้สื่อข่าวถาม ถึงกรณีที่มีกระแส ว่า มีพรรคการเมืองซื้อเสียง ส.ว. โหวตเลือกนายกรัฐมนตรีนั้น นายเสรี ตอบว่า มันเป็นแค่ข่าว และมองว่าไม่มีใครมาลงทุนกับ ส.ว. ได้ ต้องเข้าใจว่าไม่สามารถที่จะมาปิดบังอะไรกันได้ และสมัยนี้มีทั้งคลิป อัดเสียง อัดภาพ ดังนั้นใครก็ตามหากคิดจะทำ ตนมองว่าคิดผิด และเรื่องเหล่านี้ไม่น่าจะเกิดขึ้น และส.ว. ทุกคนไม่สามารถซื้อได้ หากให้คือให้ ไม่ให้ก็คือไม่ให้ อยู่ที่เห็นชอบ และเหตุผลตรงไปตรงมา

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

"พระปีนเสา" เล่านาที ถูกทำร้ายหน้าช่อง 8 เจ็บจนเห็นดาวเห็นเดือน โร่แจ้งความตำรวจ สน.บางเขน
"กลุ่มชายปริศนา" แหวกวงล้อมสื่อ เข้ารุมทำร้าย "พระปีนเสา" ขณะให้สัมภาษณ์
เปิดตัว "TKR Connect" แพลตฟอร์มจัดหางานครบวงจร สร้างมิติใหม่รองรับแรงงานต่างด้าวอย่างถูกกม.
ออกหมายจับ "หมอบุญ" พร้อมพวกรวม 9 คน “ฉ้อโกง-ฟอกเงิน” ปลอมลายเซ็นอดีตลูกสะใภ้กู้เงิน 8 พันล้าน
ระทึกกลางดึก ไฟไหม้ "ร้านกาแฟ" เผาวอดทั้งหลัง เสียหายกว่า 7 แสนบาท
"อุตุฯ" เผย "เหนือ-อีสาน-กลาง" อากาศเย็นตอนเช้า เตือนใต้ยังรับมือฝนตก
แม่ทัพภาคที่ 2 ลงพื้นที่เยี่ยมเยียนครอบครัวกำลังพล ห่วงใยไปถึงบ้าน เพราะเราคือครอบครัวกองทัพบก
สวนนงนุชพัทยาเปิดเวที CHONBURI PROUD EXPO 2024 หนุน SMEs ชลบุรีสู่ตลาดโลก
“เอกภพ” ได้ประกันตัว ปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา ปมให้ข้อมูลเท็จดิไอคอน จ่อฟ้องกลับ
สามเชฟดังร่วมรังสรรค์เมนูเพื่อการกุศลทางการแพทย์

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น