วันที่ 28 มิถุนายน 2566 ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) นายกิตติศักดิ์ รัตนวราหะ สมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) กล่าวถึงความเห็นของ ส.ว.ในการโหวตนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ ในฐานะหัวหน้าพรรคและแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคก้าวไกล เป็นนายกรัฐมนตรีอ ว่า ขณะนี้คลื่นลมสงบได้ข้อยุติแล้ว และมองว่ากลุ่ม ส.ว.ที่สนับสนุนนายพิธา น่าจะน้อยกว่า 5 คน ซึ่งสิ่งที่ ส.ว.ส่วนใหญ่ตัดสินใจน่าจะเป็นการปิดสวิตช์ตนเอง คือ การงดออกเสียง แต่ย้ำว่า ส.ว.มีเอกสิทธิ์ส่วนตัวในการลงมติอย่างไรก็ได้
ต่อข้อถามว่า ถ้าเสียง ส.ว.ไม่ครบ ฟันธงว่านายพิธา ไปต่อไม่ได้เลยใช่หรือไม่ นายกิตติศักดิ์ กล่าวว่า หากวันที่เสนอนายกรัฐมนตรี คาดว่ามีแคนดิเดตนายกฯ มากกว่า 1 คน เพราะกฎหมายพรรคการเมือง ระบุว่า พรรคที่ได้ ส.ส. เกิน 25 คน สามารถเสนอแคนดิเดตนายกฯ ได้ ส่วนตัวมองว่ามีหลายพรรคการเมืองที่ได้ ส.ส เกิน 25 คน จะเสนอแคนดิเดตนายกฯ มากกว่า 1 พรรค ต่อข้อถามว่า พรรคที่ไม่ใช่ก้าวไกล ได้มาพูดกับกับ ส.ว. หรือขอเสียงโหวตจาก ส.ว. บ้างหรือไม่ นายกิตติศักดิ์ กล่าวว่า ไม่มีพรรคใดที่จะมาเจรจาพูดคุยกับ ส.ว. เพราะว่า ส.ว.ตกผลึกแล้ว และมีคำตอบในใจว่าจะตัดสินใจกับบ้านเมืองอย่างไร
ต่อข้อถามว่า พรรคการเมืองฝ่ายประชาธิปไตย และพรรคการเมืองที่เป็นรัฐบาลรักษาการ ณ ปัจจุบัน เสนอแคนดิเดตนายก ส.ว. ถูกใจฝั่งไหนมากกว่ากัน นายกิตติศักดิ์ ชี้ว่า คำว่าประชาธิปไตย ตนอยู่ฝ่ายประชาธิปไตยที่มีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ฉะนั้นฝ่ายที่อ้างประชาธิปไตย อาจจะเป็นประชาธิปไตยปลอมก็ได้
ต่อข้อถามว่าหากพรรคก้าวไกลไม่ได้นายพิธาเป็นนายกฯ และพรรคเพื่อไทยเสนอนายกฯ มีโอกาสหรือไม่ นายกิตติศักดิ์ กล่าวว่า เดี๋ยวจะหาว่า ส.ว. อะไรก็ไม่เอา ตนขอเรียนว่าบ้านเมืองต้องเดินต่อไปได้ หากนายพิธา ไปไม่ถึงนายกฯ พรรคอันดับ 2 ก็ต้องขึ้นมาแทน และตนตอบไม่ได้ว่าพรรคใดได้ เพราะ ส.ว. จะไม่ก้าวก่ายการจัดตั้งรัฐบาล ตนเรียนได้แค่ว่า ผู้ที่เสนอแคนดิเดตนายกมากกว่า 1 พรรค แต่ใครจะได้หรือไม่ได้ ส.ว.ไม่เข้าไปก้าวก่าย