กรมทรัพยากรธรณี พบสุสานแอมโมนอยด์ สัตว์ทะเล "ดึกดำบรรพ์" อายุกว่า 240 ล้านปี ที่ลำปาง นับเป็นครั้งแรที่เห็นชัดและมีจำนวนมากขนาดนี้
ข่าวที่น่าสนใจ
กรมทรัพยากรธรณี โดยสำนักงานทรัพยากรธรณี เขต 1 เข้าตรวจสอบพื้นที่พบสิ่งอันควรเชื่อได้ว่าเป็นซาก “ดึกดำบรรพ์” เมื่อวันที่ 26 มิถุนายนที่ผ่านมา บริเวณบ้านไผ่งาม ตำบลเมืองมาย อำเภอแจ้ห่ม จังหวัดลำปาง
ผลการตรวจสอบพบซากดึก ดำบรรพ์ที่พบเป็นรอยพิมพ์ของแอมโมไนต์ที่สมบูรณ์จำนวนมาก มีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 1.5-14 ชม. กระจายตัวอยู่หนาแน่นบนผิวหน้าของชั้นหินทรายจำนวนทั้งหมดประมาณ 5 ขั้น ซึ่งไม่เคยปรากฏให้เห็นชัดเจนและจำนวนมากในประเทศไทยมาก่อน
จุดที่พบเป็นชั้นหินหินทราย แทรกสลับกับหินดินดานและหินทรายแป้งที่จะมองเห็นในช่วงที่ไม่มีน้ำหลากจากลำห้วย ความหนาประมาณ 1.0-13 ซม. จัดอยู่ในหมวดหินฮ่องหอย กลุ่มหินลำปาง อายุไทรแอสสิก (ประมาณ 240 ล้านปี)
ซากดึก ดำบรรพ์แอมโมไนต์สามารถเจอได้ทั่วไป แต่ที่แห่งนี้ถือว่ามีจำนวนซากดึก ดำบรรพ์หนาแน่นมากอย่างที่ไม่เคยพบมาก่อนในประเทศ ในพื้นที่ประมาณ 3 ตารางเมตร จากสายตตาคาดว่าอยู่ในหลักร้อยตัวและมีหลากหลายขนาด ซึ่งบอกถึงความแตกต่างช่วงอายุ จึงเป็นจุดที่จะนำไปศึกษาต่อว่าเพราะเหตุใดถึงตายลงในเวลาเดียวกับในที่แห่งนี้ กมลลักษณ์ วงษ์โก นักธรณีวิทยาชำนาญการพิเศษและผู้อำนวยการพิพิธภัณฑ์ซากดึก ดำบรรพ์ ธรณีวิทยา และธรรมชาติวิทยา จังหวัดลำปาง อธิบาย
แอมโมนอยด์ เป็นสัตว์ทะเลโบราณน้ำลึกกลุ่มเดียวกับหมึกทะเลปัจจุบัน มีเปลือกหนาขดเป็นวง ส่วนใหญ่จะลอยตัวอยู่บนผิวน้ำ ดำรงเผ่ามาตั้งแต่ยุคดีโวเนียนตอนต้นหรือประมาณ 410 ล้านปี มีวิวัฒนาการอย่างช้า ๆ จนกระทั่งเพิ่มความหลากหลายและจำนวนในยุคต่อมา
และและสูญพันธุ์ไปในยุคครีเทียสหรือประมาณ 66 ล้านปีพร้อมกับไดโนเสาร์ ปัจจุบันมีญาติใกล้ชิดที่ยังหลงเหลืออยู่ปัจจุบันในกลุ่มนอติลอยด์ (Nautiloid) ซึ่งรู้จักกันในชื่อหอยงวงช้าง ตามข้อมูลซากดึก ดำบรรพ์ที่ขึ้นทะเบียนของประเทศไทย เคยพบชิ้นส่วนซาก “ดึกดำบรรพ์” แอมโมนอยด์ในภาคเหนือ ที่อำเภอเมืองลำปาง อำเภอแม่เมาะ จังหวัดลำปาง จังหวัดตาก จังหวัดเพชรบูรณ์
การเข้าตรวจสอบสิ่งที่สงสัยว่าเป็นซากดึก ดำบรรพ์ในครั้งนี้ กรมทรัพยากรธรณีได้รับแจ้งจากนายกองค์การบริหารส่วนตำบลเมืองมาย ร่วมกับนายชาญ จูดคง นายอำเภอแจ้ห่ม นายติ๊บ บุญสืบ นายกองค์การบริหารส่วนตำบลเมืองมาย และนายประทุม เกิดผล ผู้ใหญ่บ้านไผ่งาม โดยพระภิกษุในพื้นที่สังเกตเห็นและสงสัยว่าอาจเป็นซากดึก ดำบรรพ์จึงแนะนำให้แจ้งทางกรมทรัพยากรธรณีเพื่อเข้ามาตรวจสอบ
ผู้อำนวยการพิพิธภัณฑ์ซากดึก ดำบรรพ์ ธรณีวิทยา และธรรมชาติวิทยา จังหวัดลำปาง ยังกล่าวอีกว่า ครั้งนี้เป็นเพียงการตรวจสอบขั้นต้น ต่อจากนี้ควรจะมีการเข้าสำรวจเพิ่มเติมในบริเวณใกล้เคียงเนื่องจากเป็นหมวดหินเดียวกัน จึงมีโอกาสที่จะพบซากดึก ดำบรรพ์เพิ่มเติมได้ และเสนอแนะให้ทำการกันพื้นที่เพื่อสำรวจศึกษาในรายละเอียด และดำเนินการตาม พ.ร.บ. ซากดึก ดำบรรพ์ พ.ศ. 2551 นำไปสู่การอนุรักษ์และพัฒนาให้เป็นแหล่งท่องเที่ยว หรือแหล่งเรียนรู้ทางบรรพชีวินวิทยาที่มีคุณค่าความสำคัญในการศึกษาวิวัฒนาการของโลกต่อไป
ข้อมูล : กรมทรัพยากรธรณี
ข่าวที่เกี่ยวข้อง