ส่วนเงื่อนไขตามข้อกฎหมาย ที่พิจารณางดเว้นโทษประหารหากผู้ต้องหาเป็นหญิงตั้งครรภ์นั้น พ.ต.อ.เอนก กล่าวว่า ตามที่นางสรารัตน์ ได้แท้งลูกไปแล้ว จึงถือว่าไม่เข้าเงื่อนไขข้างต้น และข้อหาที่สั่งฟ้องมีโทษสูงสุดถึงขั้นประหารชีวิต ขณะที่สำนวนทั้ง 15 คดีจะเริ่มทยอยส่งให้อัยการภายในวันนี้
ด้านพ.ต.อ.ทัศน์ภูมิ เผยว่า จากการตรวจสอบไซยาไนด์ที่ใช้ก่อเหตุมียี่ห้อชื่อแพรีแอค ผลิตที่ประเทศสเปน นำเข้าโดย 1 ใน 5 บริษัทในไทย
ซึ่งเป็นไซยาไนด์ที่มีความเข้มข้นถึง 75% และสั่งนำเข้ามา 2,000 ขวด ตั้งแต่ปี 2564 ซึ่งพบเป็นล็อตเดียวกันกับขวดของกลางที่ใช้
สำหรับสินค้าพบว่าคงเหลือที่ 543 ขวด และอีก 1,600 กว่าขวด ถูกจำหน่ายไปหลายแห่ง ทั้งสถานศึกษา และเทรดเดอร์ต่างๆ 6 แห่ง ที่ประชาชนสามารถสั่งซื้อได้
โดยพบว่ามีแห่งหนึ่ง จำหน่ายให้ประชาชนแล้วนำไปใช้ฆ่าตัวตาย ฆ่าสัตว์ หรือใช้ผิดวัตถุประสงค์ สำหรับนางสรารัตน์ ได้สั่งซื้อผ่านช่องทางออนไลน์ของบริษัทแห่งหนึ่งข้างต้น และผู้ต้องหาให้จัดส่งผ่านแมสเซ็นเจอร์แทนไปรษณีย์
หากย้อนไปดูข้อมูล ที่คณะพนักงานสืบสวนสอบสวนสามารถสรุปเหตุการณ์ที่เกี่ยวข้องกับการกระทำผิดของ นางสรารัตน์ฯ ได้ทั้งหมด 15 คดี มีรายละเอียดดังนี้
รายที่ 1 น.ส.มณฑาทิพย์ ขาวอินทร์ เสียชีวิตเมื่อวันที่ 7 ก.ค.58 ภายในคอนโดพื้นที่ สน.ทองหล่อ รู้จักกับ นางสรารัตน์ฯ ตั้งแต่ช่วงที่อยู่ อ.สามพราน จ.นครปฐม โดย นางสรารัตน์ฯ เสนอตัวช่วยดูแลอาคารปล่อยเช่าให้ในระหว่างที่ผู้ตายเดินทางไปอยู่กับสามีที่ต่างประเทศ และจะขับรถไปรับที่สนามบินทุกครั้งที่กลับไทย ในวันเกิดเหตุ นางสรารัตน์ฯ ได้ขับรถไปรับผู้ตายที่สนามบิน แล้วนำมาส่งที่คอนโดที่พัก ก่อนจะพบเสียชีวิตในวันต่อมา นอกจากนี้พบว่า นางสรารัตน์ฯมีการเอาเงินจากผู้ตายไป รวมถึงทรัพย์สินภายในอาคารปล่อยเช่าได้สูญหายไปหลังจากผู้ตายเสียชีวิต
รายที่ 2 น.ส.นิตยา แก้วบุบผา เสียชีวิตเมื่อวันที่ 23 ส.ค.63 ภายในห้องพักพื้นที่ สภ.โพรงมะเดื่อ ภ.จว.นครปฐม ก่อนเสียชีวิต ผู้ตายกับ นางสรารัตน์ฯ ได้มีการนำรถยนต์ไปจำนำจนได้เงินมาจำนวน 150,000 บาท
จากนั้นนางสรารัตน์ฯ ได้ขับรถมารับผู้ตายออกไปรับประทานอาหาร แล้วกลับมาส่งที่ห้องพัก และพบผู้ตายเสียชีวิตในบ้านพักในวันต่อมา
โดยเงินจากการจำนำรถดังกล่าวได้สูญหายไป หลังเกิดเหตุ นางสรารัตน์ฯ ยังให้สามีของผู้ตายนำเงินจำนวน 150,000 บาท ไปไถ่รถคืนและเอารถยนต์คันที่ผู้ตายใช้สอยไปเป็นของตนเอง
รายที่ 3 น.ส.สาวิตรี บุตรศรีรักษ์ เสียชีวิตเมื่อวันที่ 25 พ.ย.63 ที่บ้านพักในพื้นที่ สภ.เมืองมุกดาหาร รู้จักกับ นางสรารัตน์ฯ เนื่องจากเล่นแชร์วงเดียวกัน
และเป็นภรรยาตำรวจเหมือนกัน ก่อนเสียชีวิต ผู้ตายได้ทวงเงินค่าแชร์จำนวน 600,000 บาท จาก นางสรารัตน์ฯ แต่ไม่ได้รับการชำระแต่อย่างใด
ต่อมา นางสรารัตน์ฯ ได้ส่งยาลดความอ้วนซึ่งปลอมปนสารพิษไซยาไนด์มาให้ผู้ตายทางไปรษณีย์ ผู้ตายทานยาดังกล่าวและเสียชีวิตในเวลาต่อมา
รายที่ 4 น.ส.ดาริณี เทพทวี เสียชีวิตเมื่อวันที่ 13 ธ.ค.63 ภายในบ้านพักพื้นที่ สภ.สามพราน ภ.จว.นครปฐม รู้จักกับ นางสรารัตน์ฯ จากการที่พักอาศัยอยู่ใกล้กัน
เนื่องจากสามีเป็นข้าราชการตำรวจด้วยกัน และเล่นวงแชร์รวมถึงมีการกู้ยืมเงินด้วยกัน ซึ่งนางสรารัตน์ฯ เป็นหนี้ผู้ตายอยู่ 60,000 บาท
ก่อนเสียชีวิต นางสรารัตน์ฯ ขับรถมารับผู้ตายไปรับประทานข้าวมันไก่ที่ตลาดสามพราน ต่อมาผู้ตายมีอาการแน่นหน้าอก นางสรารัตน์ฯ จึงพามาส่งบ้าน และเสียชีวิตในเวลาต่อมา
รายที่ 5 นายสุรัตน์ ทรพับ เสียชีวิตเมื่อวันที่ 6 ม.ค.64 ที่บ้านพักในพื้นที่ สภ.ลูกแก ภ.จว.กาญจนบุรี รู้จักกับ นางสรารัตน์ฯ เนื่องจากเป็นเพื่อนกันตั้งแต่สมัยเรียนมัธยม
ก่อนเสียชีวิต นางสรารัตน์ฯ ได้ยืมเงินของผู้ตายไป 60,000 บาท จากนั้นนางสรารัตน์ฯ ได้ขับรถยนต์มารับผู้ตายออกไปรับประทานอาหารที่ร้านกาแฟ ก่อนจะพากลับมาส่งที่บ้าน และเสียชีวิตในเวลาต่อมา
รายที่ 6 ร.ต.อ.หญิง กานดา โตไร่ เสียชีวิตเมื่อวันที่ 9 ส.ค.65 นอนเสียชีวิตอยู่ภายในรถยนต์ของตนเองบนถนนในพื้นที่ สภ.เมืองนครปฐม รู้จักกับ นางสรารัตน์ฯ จากการเล่นวงแชร์วงเดียวกัน
และมีการยืมเงินจากผู้ตาย ก่อนเสียชีวิต ผู้ตายได้มีการโอนเงินให้กับ นางสรารัตน์ฯ จำนวน 150,000 บาท จากนั้นนางสรารัตน์ฯ ได้พาผู้ตายไปดูดวงที่ จ.สมุทรสาคร
และรับประทานอาหารด้วยกัน ก่อนที่ผู้ตายจะขับรถไปส่งนางสรารัตน์ฯ ที่บ้านพัก และพบผู้ตายเสียชีวิตในรถในเวลาต่อมา
รายที่ 7 น.ส.รสจรินทร์ นิลน้อย เสียชีวิตเมื่อวันที่ 10 ส.ค.65 ที่ร้านขายผักในตลาดสดมหาชัย พื้นที่ สภ.เมืองสมุทรสาคร รู้จักกับ นางสรารัตน์ฯ เนื่องจากอยู่ในวงแชร์ของ นางสรารัตน์ และถูกนางสรารัตน์ฯ กู้ยืมเงินบ่อยครั้ง ก่อนเสียชีวิต นางสรารัตน์ฯ ได้ยืมเงินผู้ตายอีกจำนวน 60,000 บาท จากนั้นนางสรารัตน์ฯ ได้ขับรถมาหาผู้ตายที่ตลาด และซื้อสลัดมาให้ จากนั้นผู้ตายได้นั่งกินสลัดและเสียชีวิตในเวลาต่อมา
รายที่ 8 นางจันทร์รัตน์ วงศ์ไกรสิน เสียชีวิตเมื่อวันที่ 15 ส.ค.65 ที่บ้านพักในพื้นที่ สภ.ชะอำ เพชรบุรี รู้จักกับ นางสรารัตน์ฯ
เนื่องจาก นางสรารัตน์ฯ ได้หลอกลวงให้ผู้ตายเอาเงินมาปล่อยกู้ ก่อนเสียชีวิต ผู้ตายได้มีการนัดพบกับ นางสรารัตน์ฯ ที่ปั๊มน้ำมันใกล้บ้าน
และได้ทานยาจาก นางสรารัตน์ฯ อ้างว่าช่วยรักษาอาการลองโควิด จากนั้นจึงได้กลับมาที่บ้านและเสียชีวิตในเวลาต่อมา
รายที่ 9 นางมณีรัตน์ พจนารถ เสียชีวิตเมื่อวันที่ 10 ก.ย.65 ที่ตลาดนครปฐมในพื้นที่ สภ.เมืองนครปฐม รู้จักกับ นางสรารัตน์ฯ มาประมาณ 3-4 ปี
เนื่องจาก นางสรารัตน์ฯ เป็นญาติของคนรู้จัก และได้มายืมเงินของผู้ตายไปปล่อยกู้ต่อ โดยจะได้ดอกเบี้ยในอัตราสูง
ก่อนเสียชีวิต นางสรารัตน์ฯ ได้นัดผู้ตายไปพบที่ตลาดนครปฐม ก่อนจะล้มหมดสติและเสียชีวิตในเวลาต่อมา
รายที่ 10 น.ส.กะณิกา ตุลาเดชารัตน์ เสียชีวิตเมื่อวันที่ 12 ก.ย.65 ที่ร้านกาแฟภายในปั๊มน้ำมัน พื้นที่ สภ.โพธาราม ภ.จว.ราชบุรี
รู้จักกับ นางสรารัตน์ฯ เนื่องจาก นางสรารัตน์ฯ ได้หลอกลวงให้ผู้ตายนำเงินไปไถ่ทองจากโรงรับจำนำ เพื่อนำไปขายต่อทำกำไรจำนวน 650,000 บาท
วันเกิดเหตุ นางสรารัตน์ฯ ได้ชวนผู้ตายไปไถ่ทองจากโรงรับจำนำ จากนั้นได้พาผู้ตายมาที่ร้าน