วันที่ 21 สิงหาคม 2564 ที่ศูนย์การค้าหัวหินมาร์เก็ตวิลเลจ อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ ว่าที่เรืออากาศตรีหญิงพาณิภัค วงศ์พัฒนกิจ หรือ “น้องเทนนิส” นักกีฬาเทควันโดหญิง ทีมชาติไทยสังกัดกองทัพอากาศ เจ้าของรางวัลเหรียญทองเทควันโดรุ่น 49 กิโลกรัม คนล่าสุด จากการเข้าร่วมแข่งขันกีฬากีฬาโอลิมปิกเกมส์ ครั้งที่ 32 ประเทศญี่ปุ่น ฮีโร่เหรียญทองที่ 10 ของทัพนักกีฬาไทย พร้อมด้วย นายสิริชัย วงศ์พัฒนกิจ คุณพ่อ เดินทางเป็นการส่วนตัวมาที่ อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ เพื่อนำเหรียญทองโอลิมปิก มาให้โค้ชทรงศักดิ์ ทิพย์นาง ซึ่งเป็นโค้ชคนแรกของน้องเทนนิสได้ชื่นชม
จากนั้นน้องเทนนิสได้ก้มลงกราบโค้ชทรงศักดิ์ที่ฝึกสอนและผลักดันให้เข้าสู่การเป็นนักกีฬาเทควันโดเยาวชนทีมชาติในปี 2554 ทำให้มีโอกาสคว้าเหรียญทองโอลิมปิกให้กับประเทศไทยได้สำเร็จ ทั้งคู่ต่างสวมกอดกันด้วยความดีใจ หลังจากที่ไม่ได้เจอกันนาน เพราะน้องเทนนิสต้องเก็บตัวฝึกซ้อมอย่างหนัก และ โค้ชทรงศักดิ์ ได้ย้ายจาก จ.สุราษฎร์ธานี มาเปิดโรงเรียนฝึกสอนเทควันโด ชื่อ HUAHIN TAEKWONDO ให้กับเยาวชนใน อ.หัวหิน นานกว่า 1 ปี ทั้งนี้โค้ชทรงศักดิ์ได้สวมเหรียญทองโอลิมปิกคืนให้กับน้องเทนนิส และอุ้มน้องเทนนิสขึ้น คล้ายกับวินาทีที่รู้ผลชนะการแข่งขันในรอบชิงชนะเลิศ และชเว ย็อง-ซ็อก หรือ โค้ชเช หัวหน้าผู้ฝึกสอนนักกีฬาเทควันโดทีมชาติไทย ได้อุ้มน้องเทนนิสขึ้นมาด้วยความดีใจ กลายเป็นภาพที่สร้างความประทับใจให้กับทุกคนเป็นอย่างยิ่ง
โอกาสนี้ นายนพพร วุฒิกุล นายกเทศมนตรีเมืองหัวหิน ได้เป็นตัวแทนชาวหัวหินมอบช่อดอกไม้เพื่อชื่นชมและแสดงยินดีกับน้องเทนนิส หลังสร้างชื่อเสียงให้กับประเทศไทยและถือเป็นความภาคภูมิใจให้กับคนไทยทั้งประเทศ ซึ่งน้องเทนนิส ยังได้มอบลายเซ็นต์เป็นกำลังใจให้กับน้องๆเยาวชนนักกีฬาเทควันโด ซึ่งเป็นลูกศิษย์ของโค้ชทรงศักดิ์ ที่ อ.หัวหิน พร้อมกับเขียนข้อความว่า “สู้ ๆ นะเด็กๆ พี่เชียร์อยู่” สร้างความดีใจให้กับน้อง ๆ เยาวชนชาวหัวหินเป็นอย่างยิ่ง เนื่องจากขณะนี้ น้องเทนนิสกลายเป็นขวัญใจของเด็ก ๆ ทุกคนที่ชื่นชอบกีฬาเทควันโดไปแล้ว
น้องเทนนิส กล่าวว่า หลังเสร็จสิ้นการแข่งขันกลับมาถึงประเทศไทย เพิ่งจะมีเวลาและตั้งใจเดินทางมาหาโค้ชทรงศักดิ์ที่ อ.หัวหิน อยากมาขอบคุณโค้ชที่ฝึกสอนมาตั้งแต่ต้น เป็นครูคนแรกที่ฝึกสอนตนเองมาตั้งแต่เด็ก ๆ จากที่เล่นไม่เป็นกระทั่งกลายเป็นนักกีฬา และเชื่อมั่นใจในตัวของลูกศิษย์คนนี้ ผลักดันจนกลายเป็นนักกีฬาเทควันโดเยาวชนทีมชาติในปี 2554 จนถึงวันนี้ตนประสบความสำเร็จ จึงอยากมาหาโค้ชด้วยตนเอง เนื่องจากไม่ได้เจอกันมานานเป็นปี รู้สึกดีใจมาก ๆ และอยากมาเป็นแรงบันดาลใจให้กับเยาวชนรุ่นใหม่ที่หัวหินด้วย และขอสัญญากับครูว่าจะมุ่งมั่นทุ่มเทกับกีฬาต่อไป
ทางด้านโค้ชทรงศักดิ์ กล่าวว่า รู้สึกดีใจและภูมิใจกับความสำเร็จของน้องเทนนิสเป็นอย่างยิ่ง ซึ่งตนสอนมาตั้งแต่เด็ก ๆ ซึ่งน้องเป็นเด็กที่มีความตั้งใจฝึกซ้อมและเล่นกีฬาเป็นอย่างมาก ทำให้เรารู้สึกว่า ต้องส่งเสริม ต้องผลักดันให้เด็กคนนี้เป็นนักกีฬาทีมชาติไทยให้ได้ ซึ่งนอกจากน้องเทนนิสจะทำความความฝันของตัวเองสำเร็จแล้ว ยังได้ทำให้ความฝันของโค้ชอย่างตนสำเร็จด้วยเช่นกัน ความฝันที่จะเห็นลูกศิษย์ประสบความสำเร็จในเส้นทางกีฬา อยากได้ยินเพลงชาติไทยในการแข่งขันระดับโลก และวันนี้น้องเทนนิสก็ทำได้แล้ว อยากจะบอกเยาวชนทุกคนว่า ไม่ยากให้มองแค่ความสำเร็จของน้องเทนนิสเท่านั้น แต่อยากให้มองด้วยว่า ทุกย่างก้าวของความสำเร็จ มีความลำบาก มีอุปสรรคมากมาย แต่ถ้าเราพยายามอย่างเต็มที่เราก็จะประสบความสำเร็จได้เช่นกัน ต้องขอบคุณน้องเทนนิสที่สร้างความสุขให้กับวงการเทควันโด แต่คิดว่าคนไทยทุกคนมีความสุขไปด้วย ท่ามกลางความยากลำบากของโควิด-19 แต่ความสำเร็จของน้องเทนนิสที่คว้าเหรียญทองโอลิมปิกได้สำเร็จ ทำให้หัวใจของเราทุกคนกระชุ่มกระชวยขึ้นมาได้ ก่อนเดินทางกลับ น้องเทนนิสยังได้มอบภาพพร้อมลายเซ็นพร้อมของที่ระลึกให้กับโค้ชทรงศักดิ์ และถ่ายภาพหมู่เป็นที่ระลึกร่วมกับน้อง ๆ เยาวชนชาวหัวหินอีกด้วย
ศวิษฐ สำราญรมย์ ผู้สื่อข่าวภูมิภาค จ.ประจวบคีรีขันธ์