“พล.ท.นันทเดช” จี้ส.ว.หนุน “พิธา” นั่งนายกฯ แจงเหตุผลที่เลือก แนะทบทวนหน้าที่ ส.ว.คืออะไร

“พล.ท.นันทเดช" จี้ส.ว.ที่หนุน “พิธา” เป็นนายกฯ แจงเหตุผลที่เลือก อย่าอ้างแค่ประชาชนเลือกมาอันดับหนึ่ง หากไม่ชี้แจง อาจถูกกล่าวหารับเงิน กับอยากได้ตำแหน่งอีกครั้งหนึ่ง แนะ ทบทวนหน้าที่ ส.ว. คืออะไร

วันที่ 7 ก.ค.66 เวลา 14.00 น. ที่บ้านพัก พล.ท.นันทเดช เมฆสวัสดิ์ อดีตหัวหน้าศูนย์ปฏิบัติการพิเศษ ศูนย์รักษาความปลอดภัยแห่งชาติ (ศรภ.) ให้สัมภาษณ์ท็อปนิวส์ ถึงกรณีที่สมาชิกวุฒิสภา จะต้องโหวตเลือกนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรค และแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรคก้าวไกล ว่า ต้องเข้าใจก่อนว่า พรรคก้าวไกล ได้จำนวน ส.ส.มากที่สุด เนื่องจากประชานเลือกเข้ามา แต่ไม่ได้เป็นการเลือก ส.ส.เข้ามาทำหน้าที่ พร้อมทั้งไม่ได้เลือกนายกรัฐมนตรีโดยตรง ฉะนั้นจำนวน ส.ส. ที่ได้รับเลือกตั้งเข้ามา ไม่ได้บอกว่าคุณมี ส.ส. มากแล้วจะได้เก้าอี้นายกฯ เราเห็นตัวอย่างมาหลายครั้งแล้ว ว่า พรรคที่มี ส.ส.มากที่สุด ไม่ได้เป็นนายกรัฐมนตรี ก็มีมาแล้ว เนื่องจากการเลือกนายกฯ ต้องเข้ามาเลือกกันในสภา เป็นระบบการเลือกทางอ้อมไม่ใช่เลือกประธานาธิบดี ที่เลือกเข้ามาแล้วเป็นเลย

ข่าวที่น่าสนใจ

“เป็นการเลือกทางอ้อมให้ ส.ส.มาเลือกนายกรัฐมนตรีอีกที ฉะนั้นจะบอกไม่ได้ว่า ประชาชนได้มีมติให้คุณเข้ามาเป็นนายกรัฐมนตรี หากประชาชนมีมติให้คุณเข้ามาเป็นนายกฯ ลองคิดถึงประชาชนอีกส่วนที่เลือกคนอื่นสิ เขามีความคิดอย่างไร ประชาชนอีกจำนวนเท่าไหร่ที่ไม่ได้เลือกพรรคก้าวไกลเข้ามา รัฐธรรมนูญให้สมาชิกรัฐสภาเป็นคนเลือก จึงต้องรวม ส.ว.ด้วย ฉะนั้นทุกคนจะต้องอยู่ภายใต้กฎกติกาของรัฐธรรมนูญ ซึ่งคุณก็ต้องรอ หากเสียงสนับสนุนไม่พอ หรือ ส.ว.ไม่ลงคะแนนเสียงให้ คุณก็ไม่ได้เป็นนายกรัฐมนตรี” พล.ท.นันทเดช กล่าว

ต่อข้อถามว่า มีกระแสข่าว ส.ว.จะโหวตให้นายพิธา เป็นนายกรัฐมนตรี เท่าที่มีเปิดตัวออกมา มีประมาณ 10 คน ไม่เกิน 15 คน พล.ท.นันทเดช กล่าวว่า ส.ว. ที่สนับสนุนนายพิธา ส่วนใหญ่อ้างว่า ต้องการทำตามเสียงประชาชนส่วนใหญ่ แต่กลับไม่ได้คิดถึงหน้าที่ของ ส.ว. ส.ว.ไม่ได้เข้ามาทำตามเสียงของประชาชน แต่มีหน้าที่เพื่อคัดเลือกบุคคลที่มีคุณสมบัติเข้ามาเป็นนายกรัฐมนตรี และบุคคลนั้นสมควรเป็นนายกรัฐมนตรีหรือไม่ การอ้างว่าประชาชนส่วนใหญ่เลือกพรรคก้าวไกลมา ส.ว.จึงเลือกตาม ” ไอนี่คุณเกเรนี่หว่า คุณไม่ได้ทำหน้าที่ ส.ว. ”

พล.ท.นันทเดช กล่าวว่า สำหรับข่าวลือซื้อตัวส.ว.ที่ออกมานั้น ทำให้ ส.ว.เสียชื่อเสียง ส.ว.ชุดนี้จะหมดวาระการดำรงตำแหน่งปีหน้า หากหมดวาระแล้ว ก็เป็นบุคคลธรรมดา มีเงื่อนไขห้ามยุ่งเกี่ยวกับการเมือง จะเป็นกรรมการรัฐวิสาหกิจ หรือบอร์ด ไม่ได้ จึงมีข่าวว่ามีคนเข้าไปเสนอว่า หากมีการแก้รัฐธรรมนูญ จะแก้เงื่อนไขนี้ด้วย ดังนั้น ส.ว.คนไหน จะเลือกนายพิธา เป็นนายกรัฐมนตรี จะต้องมีเหตุผลที่ชัดเจน ว่าทำไมถึงเลือก หากไม่ชี้แจงก็จะถูกกล่าวหาใน 2 เรื่องทันที คือ เรื่องรับเงิน กับอยากได้ตำแหน่งอีกครั้งหนึ่ง

“ส.ว. ที่จะโหวตนายพิธา เป็นนายกรัฐมนตรี ต้องชี้แจง ในประเด็นต่าง ๆ อาทิ แก้ไขกฎหมายมาตรา 112 การออกกฎหมายนิรโทษกรรม เกี่ยวกับมาตรา 112 การแบ่งแยกดินแดน ซึ่งทั้งหมดนี้ ส.ว.มีเหตุผลอะไรที่จะเลือก และเป็นเหตุผลที่ต้องชี้แจง ทั้ง 3 ประเด็นนี้ หากชี้แจงประเด็นดังกล่าวได้อย่างมีเหตุและผล ก็ไม่มีใครว่า เพราะว่าได้พิจารณาแล้ว ถึงจะเลือกพรรคก้าวไกลได้ จะถูกจะผิดก็ไม่เป็นไร แต่ต้องกล้า ๆ หน่อย ไม่ใช่บอกว่าแค่ประชาชน เลือกพรรคก้าวไกลเข้ามาอันดับหนึ่ง อย่างนี้เป็นส.ว.มาได้ยังไง” พล.ท.นันทเดช กล่าวและว่า ต้องการให้ ส.ว. ทุกคน คิด ทบทวนว่าหน้าที่ของส.ว.คืออะไร

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

“เอกภพ” ได้ประกันตัว ปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา ปมให้ข้อมูลเท็จดิไอคอน จ่อฟ้องกลับ
สามเชฟดังร่วมรังสรรค์เมนูเพื่อการกุศลทางการแพทย์
"ทนายบอสพอล" เผยเป็นไปตามคาด "เอก สายไหม" ถูกจับ จ่อดำเนินคดีหมิ่นประมาท เรียกค่าเสียหาย 100 ล้าน
ศาลออกหมายจับ 'เจ๊หนิง' พร้อมสามีและหลาน ร่วมกันแจ้งความเท็จ 'ภรรยาบิ๊กโจ๊ก'
อิสราเอลถล่มเลบานอนดับครึ่งร้อย
หมายจับ ICC กระทบอิสราเอลอย่างไร
เปิดวิสัยทัศน์ประธานเครือข่ายธุรกิจ Bizclub นครราชสีมาคนใหม่ “กิม ฐิติพรรณ จันทร์ประทักษ์”
เกาหลีใต้ชี้รัสเซียส่งระบบป้องกันภัยทางอากาศให้เกาหลีเหนือ
สหรัฐเมินไฮเปอร์โซนิครัสเซียลั่นไม่หยุดหนุนยูเครน
เมียเอเย่นต์ค้ายาบ้า ร้องถูกตร.รีด 5 แสน แลกปล่อยตัว พ่วงเรียกเก็บเงินรายเดือน

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น