นายสมชาย แสวงการ ส.ว. กล่าวถึงการประชุมรัฐสภาเพื่อโหวตนายกฯ ในวันที่ 13 ก.ค. ว่า ในวงประชุม 3 ฝ่าย จะเปิดให้มีการอภิปรายในรายละเอียดที่เกี่ยวข้อง จนถึงเวลา 17.00 น. ก่อนจะลงมติ กรณีของ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรค ในฐานะแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรคก้าวไกล ที่มีประเด็นเรื่องถูกตรวจสอบคุณสมบัติกรณีถือหุ้นไอทีวี ตนมองว่า คณะกรรมการการเลือกตั้ง ต้องส่งศาลรัฐธรมนูญเพื่อชี้ขาด เนื่องจาก กกต. ไม่มีอำนาจตัดสินด้วยตนเอง
ส่วนประเด็นดังกล่าวจะมีผลต่อการโหวตของ ส.ว. หรือไม่นั้น ส่วนตัวเชื่อว่า ส.ว. จะพิจารณาบนหลักการของรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2560 มาตรา 272 รวมถึงใช้หลักการที่เทียบเคียงกับการสรรหากรรมการองค์กรอิสระ ต้องฟังข้อมูลและฟังการแสดงวิสัยทัศน์ รวมถึงประเด็นของ กกต. ที่จะส่งเรื่องไปยังศาลรัฐธรรมนูญ
ส่วนกระแสข่าวว่า ส.ว. 90% จะงดออกเสียงโหวต นายพิธา เป็นนายกฯ นายสมชาย เชื่อว่า ส.ว. จะใช้ดุลยพินิจต่อบ้านเมืองและประเทศชาติ รวมถึงชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และประชาชน
“เลือกนายกฯ ไม่ได้เลือกในระบอบประธานาธิบดี แต่เราเลือกที่รัฐสภาเป็นผู้เลือก ดังนั้นต้องคำนึงถึงการทำหน้าที่หลังจากได้รับเลือกด้วย หากทำงานไม่มีปัญหาก็เลือก แต่หากมีปัญหา พาประเทศไปสู่วิกฤต พาไปสู่การเปลี่ยนแปลงแบบพลิกฟ้าคว่ำแผ่นดิน ส.ว. 250 คนต้องร่วมรับผิดชอบ”