"อดีตผู้พิพากษา" ไขกระจ่าง จริงหรือไม่ กกต.ลัดขั้นตอนยื่นร้องศาลรธน.วินิจฉัยสมาชิกภาพ "พิธา"

เมื่อวันที่ 12 ก.ค. 66 นายวัส ติงสมิตร อดีตประธาน กสม.และอดีตผู้พิพากษาอาวุโสในศาลฎีกา โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ระบุว่า กกต. ต้องแจ้งข้อกล่าวหาและเปิดโอกาสให้นายพิธา ชี้แจงข้อกล่าวหาก่อนส่งเรื่องไปยังศาลรัฐธรรมนูญเพื่อวินิจฉัยหรือไม่

1) วันนี้ (พุธที่ 12 ก.ค. 66) พรรคก้าวไกลออก แถลงการณ์ว่า เมื่อ กกต. ได้ตั้งคณะกรรมการสืบสวนและไต่สวนแล้วเห็นว่ามีพยานหลักฐานสนับสนุนพอฟังได้ว่า นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล กระทำการอันเป็นการฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามกฎหมายเกี่ยวกับการเลือกตั้ง ย่อมต้องดำเนินการแจ้งข้อกล่าวหา และเปิดโอกาสให้นายพิธาชี้แจงข้อกล่าวหาก่อน ส่งเรื่องไปยังศาลรัฐธรรมนูญเพื่อวินิจฉยปัญหาลักษณะต้องห้ามถือหุ้นสื่อมวลชน การที่ กกต. ไม่แจ้งข้อกล่าวหา และไม่เปิดโอกาสให้มีการชี้แจงแก้ข้อกล่าวหา จึงเป็นการปฏิบัติตามระเบียบแต่เพียงบางส่วน และจงใจไม่ปฏิบัติตามระเบียบที่ตนได้ตราขึ้น อันอาจเป็นการกระทำผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 ได้

ข่าวที่น่าสนใจ

2) ผู้เขียนพิจารณาแล้วมีความเห็นดังนี้

2.1 กรณีที่คณะกรรมการสืบสวนและไต่สวนต้องแจ้งข้อกล่าวหา และให้ผู้ถูกกล่าวหาชี้แจงข้อกล่าวหา เป็นเรื่องการตรวจมูลกรณีเพื่อทราบว่ามีการกระทำความผิดตามกฎหมายเกี่ยวกับการเลือกตั้งหรือพรรคการเมือง หรือการกระทำอันอาจเป็นเหตุให้การเลือกตั้งมิได้เป็นไปโดยสุจริตหรือเที่ยงธรรมหรือมิได้เป็นไปโดยชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ หากปรากฏว่า ส.ส. ผู้ถูกร้องกระทำการดังกล่าว คณะกรรมการสืบสวนและไต่สวนต้องแจ้งข้อกล่าวหาแก่ผู้ถูกกล่าวหา โดยจัดทำบันทึกการแจ้งข้อกล่าวหาระบุข้อเท็จจริงและพยานหลักฐานโดยสรุป ส่งให้ผู้ถูกกล่าวหา 1 ฉบับ (ระเบียบ กกต. ว่าด้วยการสืบสวน การไต่สวน และการวินิจฉัยชี้ขาด พ.ศ.2561 ข้อ 54, 57 และ 58)

2.2 กรณีที่ กกต. เห็นว่า สมาชิกภาพของ ส.ส. หรือส.ว. คนใดคนหนึ่งมีเหตุสิ้นสุดลงเพราะขาดคุณสมบัติหรือมีลักษณะต้องห้ามอันเป็นกรณีที่เป็นปัญหาอยู่ในขณะนี้ รัฐธรรมนูญ มาตรา 82 วรรคสี่บัญญัติให้ กกต. ส่งเรื่องไปยังศาลรัฐธรรมนูญเพื่อวินิจฉัยได้ด้วย เป็นกรณีที่รัฐธรรมนูญบัญญัติให้อำนาจแก่ กกต. ไว้โดยตรง และไม่ใช่กรณีที่มีการกระทำความผิดตามกฎหมายเกี่ยวกับการเลือกตั้งหรือพรรคการเมือง หรือการกระทำอันอาจเป็นเหตุให้การเลือกตั้งมิได้เป็นไปโดยสุจริตหรือเที่ยงธรรมหรือมิได้เป็นไปโดยชอบด้วยกฎหมาย อันจะต้อง ดำเนินการตามระเบียบ กกต. ว่าด้วยการสืบสวนการไต่สวน และการวินิจฉัยชี้ขาด พ.ศ. 2561 ดังกรณีตามข้อ 2.1 เมื่อไม่มีกฎหมายหรือระเบียบกกต. ฉบับใดกำหนดรายละเอียดให้ดำเนินการไว้เป็นอย่างอื่น กกต. จึงไม่ต้องแจ้งข้อกล่าวหาและให้ส.ส. ผู้ถูกร้องชี้แจงข้อกล่าวหาก่อนส่งเรื่องไปยังศาลรัฐธรรมนูญเพื่อวินิจฉัย