ภายหลังจากที่ตำรวจได้ปล่อยให้กลุ่มม็อบที่อ้างตัวว่ามาชุมนุมเพื่อเรียกร้องประชาธิปไตยขับไล่รัฐบาลพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้ก่อความเดือดร้อนวุ่นวายติดต่อกันหลายวัน กลายเป็นสมรภูมิ กลางกรุงเทพมหานคร เผาป้อมตำรวจ ทำลายทรัพย์สินประชาชน แต่เจ้าหน้าที่ควบคุมฝูงชนไม่สามารถควบคุมได้ เสมือนออมมือ หรือยอมเปิดทางให้ม็อบได้ก่อเหตุรุนแรงหรือไม่
กระทั่งล่าสุดเมื่อวานนี้ (22 สิงหาคม 64) เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการปรับแผนเข้าประชิดตัวและไล่จับวัยรุ่นผู้ที่ก่อความวุ่นวายดังกล่าวได้ประมาณ 25 ราย ทำให้สามารถปิดเกมเร็ว ไม่ปล่อยให้กลุ่มที่อ้างตัวเองว่าม็อบ ดึงสถานการณ์ลากยาวเผาทำรายข้าวของเหมือนครั้งที่ผ่านๆมา
ต่อมาแหล่งข่าวสายตำรวจซึ่งมีหน้าที่ปรับยุทธวิธี เผชิญหน้ากับกลุ่มม็อบ ให้ข้อมูลกับ ทีมข่าวท็อปนิวส์ ว่า สิ่งที่ตำรวจปฏิบัติ ไม่ได้เรียกว่ายุทธวิธีใดๆ แต่มันเป็นการปรับเปลี่ยนการจับกุมตามสถานการณ์ ซึ่งที่ผ่านมากลุ่มบุคคลเหล่านี้เรียกตัวเองว่าม็อบที่เข้ามารวมตัวเพื่อเรียกร้องประชาธิปไตย เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงต้องใช้เจ้าหน้าที่ควบคุมฝูงชนเข้าจัดการ แต่ยิ่งนานวัน ความเลยเถิด และวิธีการเรียกร้องของกลุ่มคนเหล่านี้ ไม่ได้มาเพื่อประชาธิปไตย แต่มาเพื่อก่อกวนป่วนบ้านเมือง ตำรวจจึงกระทำการตามกฎหมายต่อผู้ที่ชุมนุมมั่วสุม ป่วนเมือง ผู้ที่สร้างความเดือดร้อนรำคาญ ไม่ใช่การชุมนุมทางการเมืองแบบปกติ
สำหรับเหตุการณ์เมื่อวานนี้ไม่มีการใช้ตู้คอนเทนเนอร์มาตั้งเหมือนทุกครั้ง เพราะการตั้งตู้คอนเทนเนอร์ ก็สร้างความเสียหายให้ประชาชนเป็นจำนวนมากในการสัญจรผ่านไปมา ดังนั้นเมื่อเอาตู้คอนเทนเนอร์ออก ประชาชนสามารถผ่านเส้นทางได้แล้ว แต่ก็ยังมีกลุ่มวัยรุ่น ที่ได้มาสร้างความเดือดร้อนรำคาญเช่นเดิม ตำรวจจึงต้องจู่โจมจัดการกลุ่มวัยรุ่นเหล่านี้ เพื่อให้ชาวบ้านสัญจรได้
ดังนั้น ณ ขณะนี้ แผนการทำงานของตำรวจ มีทั้งนำกำลังไปควบคุมฝูงชน เพื่อป้องกันไม่ให้เข้าไปรุกล้ำในสถานที่ราชการแล้วทำให้เกิดความเสียหาย และอีกส่วนนึงก็คือการจัดการกับ รถจักรยานยนต์ ที่เข้ามาก่อความเดือดร้อนรำคาญ ทำทรัพย์สินทางราชการเสียหาย ทั้ง 2 อย่างนี้มันต้องทำควบคู่กันไป การบุกเข้าจู่โจมครั้งนี้ จังไม่ได้มีนัยยะพิเศษอะไร ส่วนใครจะมองว่ารุนแรงเกินไป มันก็เป็นเรื่องของเขา แต่ตำรวจใช้ความระมัดระวังอย่างดีที่สุด
แต่ถ้าหากใครจะมีข้อกังขาว่า การจับกุมครั้งนี้ ไม่เป็นไปตามหลักสากล ก็ต้องบอกว่า แต่ละพฤติกรรม แต่ละประเทศ แต่ละพื้นที่ไม่เหมือนกัน มันไม่มีหลักตายตัวว่าต้องทำอย่างไร แต่ตำรวจต้องทำยังไงก็ได้ให้การชุมนุมทุกครั้ง ไม่ก่อให้เกิดความเดือดร้อนเสียหายสู่บุคคลที่3 ไม่ก่อให้เกิดความเดือดร้อนต่อทรัพย์สิน และต้องยึดหลักการก็คือ ระมัดระวังไม่ให้เกิดการบาดเจ็บ เกิดการเสียชีวิตของประชาชนที่ไม่เกี่ยวข้อง
ซึ่งต้องขอย้ำว่า เหตุการณ์ทั้งหมดที่เกิดขึ้น มันไม่ใช่เป็นการเรียกร้องทางการเมือง หรือเรียกร้องประชาธิปไตยแล้ว มันกลายเป็นอันธพาล แก๊งป่วนเมืองออกมาสร้างความวุ่นวายสร้างความเดือดร้อนให้กับตำรวจและประชาชน