กลับมาดังในทางเสียๆอีกครั้ง หลังจากที่ “พ.ต.อ.ธิติสรรค์ อุทธนผล” ผกก.สภ.เมืองนครสวรรค์ ซุ่มเงียบ ไต่เต้าตำแหน่งจาก สารวัตร หรือ สารวัตรโจ้ เฟอรารี่ อดีตหวานใจ ของ “เมย์ พิชญ์นาฏ สาขากร” ดาราสาว ถึงขั้นขอแต่งงาน แต่โป๊ะแตกเมื่อดาราสาวสืบทราบว่า สารวัตรโจ้ มีเมีย มีลูกแล้ว สารวัตรโจ้ เฟอรารี่ ในวันนั้น กลายเป็น “ผู้กำกับ” ติดยศ พ.ต.อ. เอกอย่างรวดเร็ว ในวันนี้ เรียกว่าวิ่งไวแซงหน้าเพื่อนนักเรียนนายร้อยร่วม รุ่น57 ไปหลายสเต็ป
สุดท้ายกลายเป็นข่าวครึกโครมอีกจนได้ เมื่อ พล.ต.ท.อภิชาติ ศิริสิทธิ์ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 6 เซ็นคำสั่งย้ายด่วน “ผู้กำกับโจ้” หรือ “พ.ต.อ.ธิติสรรค์ อุทธนผล” ผกก.สภ.เมืองนครสวรรค์ นรต.รุ่น 57 ออกจากพื้นที่ไป ศปก.ภ.6 โดยคำสั่งย้ายระบุเพื่อเปิดทางให้ จเรตำรวจ ลงพื้นที่สอบสวนข้อเท็จจริง หลังจากมีเรื่องร้องเรียนจากตำรวจชั้นผู้น้อย ถึงกรณี “น้องมาวิน” นายจิระพงศ์ ธนะพัฒน์ อายุ 24 ปี ผู้ต้องหาคดียาเสพติดเสียชีวิตคาโรงพัก ขณะถูกตำรวจชุดปราบปรามยาเสพติดของ “ผู้กำกับโจ้” คุมตัวมาสอบขยายผล
ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าว เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 5 ส.ค. ต่อเนื่องถึงวันที่ 6 ส.ค.ที่ผ่านมา จนเรื่องปูดปมเพราะตำรวจชั้นผู้น้อยทำใจไม่ได้ เพราะสาเหตุการตาย สืบเนื่องมาจาก “ตำรวจนครสวรรค์” ได้ทำการจับกุม “น้องมาวิน” ผู้ต้องหาคดียาเสพติด และมีการเรียกเงินผู้ต้องหา จนผู้ต้องหาชายยอมจ่าย 1 ล้านบาท แต่เมื่อเรื่องถึงหู “ผู้กำกับโจ้” กลับไม่ยอม จะเอา 2 ล้านบาท บานปลายไปจนถึงขั้นที่ว่า เกิดเหตุการณ์เอาถุงดำมาคลุมหัวผู้ต้องหา เพื่อทรมานจนขาดอากาศหายใจ และตายในที่สุด โดย “ผู้กำกับโจ้” บังคับผู้น้อย ว่า ให้บอกกับหมอว่าเสพยาเกินขนาดตาย
“พ.ต.อ.ธิติสรรค์ อุทธนผล” ผกก.สภ.เมืองนครสวรรค์ นายตำรวจหนุ่มหน้าตาดี ฐานะดี และรุ่งเรืองเป็นอันดับต้นๆของ นรต. 57 เค้า มีรสนิยมชื่นชอบ “ซูเปอร์คาร์” เป็นพิเศษ จนครั้งนึงเคยมีชื่อเสียงโด่งดัง ถูกตั้งฉายาเรียกกันอย่างกว้างขวางว่า “สารวัตรโจ้ เฟอร์รารี่” ซึ่งเป็นเวลาเดียวกับ ที่เค้ากำลังตามจีบ “เมย์ พิชญ์นาฏ สาขากร” ดาราสาว ถึงขั้นขอแต่งงาน แต่โป๊ะแตกเมื่อดาราสาวสืบทราบว่า สารวัตรโจ้ มีเมีย มีลูกแล้ว ซึ่งมีหลักฐานคือ เป็นภาพสารวัตรโจ้ กำลังเข้าพิธีแต่งงานกับสาวสวยคนหนึ่ง
กระทั่งต่อมาเค้าถูกพูดถึงอีกครั้ง ขณะที่ดำรงตำแหน่ง “พ.ต.ท.ธิติสรรค์ อุทธนผล รอง ผกก.กก.1 บก.ปส.4” เหตุเพราะนำกำลังกว่า 30 นาย เข้าจับกุมคดียาเสพติดข้ามชาติ ซึ่งในห้วงเวลาดังกล่าว ผู้กำกับโจ้ได้คลุกคลีตีโมง และคุ้นเคยกับการจับกุมผู้ต้องหายาเสพติดอยู่พักใหญ่ และเคยทำคดีใหญ่ๆมาหลายเคส
และเมื่อได้ฟังความจริงอีกด้านนึงจากเพื่อนนักเรียนนายร้อยรุ่น 57 ของ ผู้กำกับโจ้ ได้ให้ข้อมูลว่า เค้าเป็นคนที่วางตัวอยู่เหนือเพื่อนเสมอ ด้วยฐานะหน้าตาทางสังคมที่โดดเด่น ชอบใช้ชีวิตหรูหรากับแก๊งไฮโซ น้อยมากที่จะเข้ามาคลุกคลีกับเพื่อนในวงการตำรวจ สำหรับบุคลิกส่วนตัวค่อนข้างเป็นคนชอบอวด ชอบโชว์ และมั่นใจว่า ตัวเองเป็นตำรวจที่มีทั้งชื่อชั้น และชื่อเสียง
และสำหรับเรื่องที่เป็นประเด็นใหญ่โตอยู่ขณะนี้ คงต้องว่าไปตามกฎหมาย ส่วนผลการสอบสวนจะออกมาอย่างไรนั้น เชื่อว่าหลายๆคนตั้งใจติดตามอย่างใกล้ชิด