จากกรณีที่เพจเฟซบุ๊ก ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน ได้รายงานข้อมูล ระบุว่า เมื่อวันที่ 25 ก.ค. 2566 ทนายความได้เข้าเยี่ยม “บาส” ประวิตร (สงวนนามสกุล) หนุ่มวัย 20 ปี ซึ่งถูกศาลอาญาพิพากษาในความผิดข้อหาฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ และวางเพลิงเผาโรงเรือนฯ รวมจำคุกทั้งสิ้น 6 ปี 4 เดือน โดยไม่รอลงการลงโทษ เมื่อวันที่ 11 ก.ค. 2566 จากกรณีถูกกล่าวหาว่าร่วมกันวางเพลิงป้อมตำรวจจราจร บริเวณใต้ทางด่วนดินแดง ภายหลังการชุมนุม #ม็อบ10สิงหา เมื่อปี 2564 ปัจจุบัน (29 ก.ค.) บาสถูกคุมขังมาแล้ว 19 วัน
บาสเล่าให้ฟังเกี่ยวกับความเป็นอยู่ในช่วงนี้ของเขาว่า “ตอนนี้ย้ายมาอยู่ที่เเดน 5 เเล้ว อยู่กับเพื่อนที่ย้ายมาจากเเดน 2 ด้วยกัน รู้สึกว่าที่นี่สบายกว่าเเดน 2 เพราะได้ลงมาเดินเล่น ไม่ได้อยู่ในห้องเฉยๆ เหมือนเเดน 2
“ตอนนี้ที่เเดน 5 ก็เล่นกีฬาฟุตซอล ยังไม่ได้ทำงานอะไรเพราะว่าเพิ่งย้ายมาเลยยังไม่ได้มีการจำเเนกกองงาน บางครั้งว่างๆ ก็เข้าไปห้องสมุด พยายามหัดอ่านหัดเขียนให้เก่งขึ้น”
“เรื่องการนอนหลับก็ดีขึ้น นอนหลับได้มากขึ้น เเต่ก็ยังคิดถึงลูก”
เมื่อบาสเริ่มพูดเรื่องลูก จึงได้ยินเสียงสะอื้นของบาส ทนายจึงชวนคุยเรื่องลูก บาสบอกว่าเจ้าตัวเล็กหน้าเหมือนเขาตอนเด็กๆ
ทนายยังได้ปรินซ์ภาพลูกสาวคนเล็กของบาสมาให้ดู พอบาสเห็นก็ร้องไห้ในทันที เเละก็สะอื้นพร้อมกับชำเลืองมองรูปลูกสาวตลอด เขาบอกว่า
“ผมคิดถึงลูก ผมอยู่ได้ เเต่ผมคิดถึงลูก”
บาสยังคงพูดแบบเดิมทุกครั้งที่ถามว่าเป็นไงบ้าง อยู่ไหวไหม ดีขึ้นไหม สิ่งที่เเตกต่างจากการเยี่ยมครั้งก่อน คือ บาสเริ่มถามเรื่องประกัน เเละเรื่องคดี ถามว่าพอมีทางไหนที่จะทำให้เขาออกไปเจอลูกเร็ว ๆ ไหม
วันนี้บาสยังเล่าเรื่องคุณเเม่ของเขาให้ทนายฟังว่า
“คุณแม่เดินไม่ค่อยดีเท่าไร ตอนนี้แม่ก็ทำงานอยู่ที่โรงงานเดียวกันกับภรรยา แม่อายุ 56 ปีเเล้ว เป็นห่วงและคิดถึงเขาเหมือนกัน”
นอกจากนี้เขายังได้ฝากความรักและความคิดถึงถึงภรรยา “อยากเจอเหมือนกัน”
บาสบอกว่าเขามีปัญหาเรื่องเขียนชื่อญาติเข้าเยี่ยมไปแต่ชื่อไม่ขึ้นในระบบ ซึ่งเขาเองก็ไม่แน่ใจว่าเขียนชื่อถูกไหม เพราะว่าตัวเองเขียนหนังสือไม่ค่อยเก่ง แต่ตอนนี้ได้ให้ ธี ถิรนัย ช่วยเขียนให้ และอยู่ระหว่างกระบวนการเพิ่มชื่อ โดยทางเรือนจำแจ้งว่าใช้เวลาประมาณ 15 วัน ด้วยปัญหาดังกล่าวทำให้วันหยุดที่ทางเรือนจำเปิดให้ญาติเยี่ยมพิเศษ ภรรยาและลูกก็ยังจะไม่สามารถเข้าไปเยี่ยมเขาได้