“ชัยธวัช” เผย “พิธา” นอนรพ.รับรู้ MOU โดนฉีก “เพื่อไทย” แจ้งไปต่อไม่ได้เพราะแก้ 112

วันที่ 2 ส.ค.66 ที่อาคารไทยซัมมิท นายชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรคก้าวไกล แถลงท่าทีของพรรคภายหลังพรรคเพื่อไทยแยกตัวเพื่อเดินหน้าจัดตั้งรัฐบาลใหม่โดยไม่มีพรรคก้าวไกลร่วมรัฐบาล โดยระบุว่า พรรคก้าวไกลต้องขอโทษพี่น้องประชาชนทุกท่าน ที่เราไม่สามารถผลักดันให้เกิดการจัดตั้งรัฐบาลที่เคารพเจตจำนงของพี่น้องประชาชนผ่านการเลือกตั้งได้สำเร็จ ตามที่พรรคเพื่อไทยแถลงว่าหลังจากนี้จะแยกไปจัดตั้งรัฐบาลด้วยตนเอง

นายชัยธวัช เผยว่า ในการหารือเมื่อเช้านี้ พรรคเพื่อไทยได้แจ้งกับพรรคก้าวไกลว่า ต้องการออกจากบันทึกข้อตกลงร่วม หรือ MOU ที่ทั้ง 2 พรรค ได้ทำร่วมกันทั้ง 2 ฉบับ และได้หารือกันในประเด็น ดังนี้

1) พรรคเพื่อไทยไม่ได้มีการขอให้พรรคก้าวไกลพิจารณาถอยเรื่องการเสนอแก้ไขประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 ตลอดเวลาที่ผ่านมาก็ไม่เคยมีการเจรจากันเรื่องนี้ โดยพรรคเพื่อไทยให้เหตุผลว่า พรรคการเมืองเกือบทั้งหมดที่พรรคเพื่อไทยไปพูดคุยมา ไม่ต้องการให้พรรคก้าวไกลเป็นรัฐบาล ไม่ว่าจะเสนอแก้ไขมาตรา 112 หรือไม่ก็ตาม

 

 

2) พรรคเพื่อไทยไม่ได้ขอให้พรรคก้าวไกลโหวตให้แคนดิเดตนายกฯ ของพรรคเพื่อไทยในวันที่ 4 ส.ค. นี้ เพราะถือเป็นเอกสิทธิ์ของแต่ละพรรค อีกทั้งแกนนำของพรรคเพื่อไทยบางคนยังแสดงความกังวลด้วยว่า หากพรรคก้าวไกลมาช่วยโหวตแคนดิเดตนายกฯ จากเพื่อไทย อาจทำให้ สว. กังวลว่า พรรคเพื่อไทยอาจจะดึงพรรคก้าวไกลมาร่วมรัฐบาลอีก

3) พรรคก้าวไกลไม่ว่าจะอยู่ในสถานะใดหลังจากนี้ จะทำงานในฐานะผู้แทนราษฎรอย่างดีที่สุด ตามที่ได้รับความไว้วางใจจากการเลือกตั้ง เพื่อผลักดันให้ประชาชนมีคุณภาพชีวิตที่ดี ให้เกิดระบบเศรษฐกิจที่เท่าทันโลก เปิดโอกาสให้ทุกคนเติบโตอย่างเสมอภาคเท่าเทียม ผลักดันการกระจายอำนาจ ปฏิรูประบบราชการ สร้างรัฐที่โปร่งใสเป็นธรรม เคารพสิทธิเสรีภาพของประชาชน

“เราจะทำงานอย่างเต็มที่ไม่ว่าจะอยู่ในสถานะไหน เพื่อสร้างระบบการเมืองไทยให้เป็นระบอบประชาธิปไตยอย่างแท้จริง เป็นระบบที่เสียงของพี่น้องประชาชนจะมีความหมายจริงๆ ให้ได้ สักวันหนึ่ง” นายชัยธวัช กล่าว

 

 

ข่าวที่น่าสนใจ

สำหรับเรื่องการโหวตนายกฯ ของพรรคก้าวไกล นายชัยธวัช ระบุว่า วันนี้ได้เปิดโอกาสให้ ส.ส.พรรคก้าวไกล ได้แสดงความเห็นอย่างเต็มที่ และในวันพรุ่งนี้จะมีการสรุปมติของพรรคออกมาอีกครั้งหนึ่ง

ขณะที่การทำงานร่วมกับพรรคเพื่อไทยต่อไปในอนาคต นายชัยธวัช เน้นย้ำว่า MOU ของทั้ง 8 พรรค ไม่มีอีกแล้ว ซึ่งเนื้อหาใน MOU เคยตกลงกันว่าจะร่วมกันผลักดันกฎหมายหลายฉบับ ส่วนใหญ่เกี่ยวกับการปฏิรูปกองทัพ และการนิรโทษกรรมคดีทางการเมือง ข้อตกลงเหล่านี้จะหายไป และในฐานะ ส.ส. เราจะสามารถเสนอกฎหมายและมาตรการต่างๆ หวังว่าแม้ สส.จะไม่ใช่ฝ่ายเดียวกัน ก็จะมาเห็นชอบด้วย แม้ในสมัยที่ผ่านมา กฎหมายที่เสนอไปจะไม่เคยผ่านสภาฯ แต่หวังว่าสมัยนี้จะได้รับความร่วมมือจากฝ่ายรัฐบาล

ส่วนการยกเงื่อนไขไม่เห็นด้วยกับการเสนอแก้ไขมาตรา 112 นายชัยธวัช ย้ำว่า ตามที่ได้ชี้แจงไปหลายครั้ง ว่าเรื่องมาตรา 112 เป็นเพียงข้ออ้าง แต่ฝ่ายการเมืองโดยเฉพาะกลุ่มอำนาจเก่าไม่ต้องการให้พรรคก้าวไกลได้เป็นรัฐบาล หลายพรรคการเมืองที่เคยแถลงร่วมกับพรรคเพื่อไทย ก็ชัดเจนว่าอุดมการณ์ทางการเมืองไม่ตรงกับพรรคก้าวไกล จึงไม่สามารถร่วมงานกันได้

 

 

นายชัยธวัช ยังระบุว่า ไม่ทราบจะมีพรรคการเมืองใดใน 8 พรรคร่วม ที่จะไปร่วมรัฐบาลกับพรรคเพื่อไทยบ้าง แต่เข้าใจว่าพรรคเพื่อไทยได้แจ้งผลการพูดคุยไปยังแกนนำของ 8 พรรคร่วมทุกพรรคแล้ว แต่ท่าทีก็ต้องรอดูในวันพรุ่งนี้ และยังไม่ได้พูดคุยกับพรรคพันธมิตรอื่นๆ เลย

“สิ่งที่เกิดขึ้นแสดงให้เห็นถึงความบิดเบี้ยวของการเมืองไทย ปัญหาที่แท้จริงของการเมืองไทยในยุคนี้ คืออำนาจสูงสุดไม่ได้เป็นของประชาขน เป็นหน้าที่ของพวกเราต้องทำอย่างสุดความสามารถ เพื่อให้ประเทศไทยกลับสู่ระบอบประชาธิปไตยปกติ ที่เสียงและอำนาจของประชาชนสำคัญที่สุด”

ส่วนถ้ามีการรวมเสียงของ 2 พรรคลุง มาร่วมนั้น นายชัยธวัช ระบุว่า คงไม่เกี่ยวข้องกับพรรคก้าวไกล เนื่องจากตอนนี้พรรคเพื่อไทยและพรรคก้าวไกลไม่ได้จัดตั้งรัฐบาลร่วมกันแล้ว เป็นเรื่องของพรรคเพื่อไทย และเมื่อถามว่า จากกันด้วยดีหรือไม่ ชัยธวัช กล่าวว่า “จากที่พูดคุยกันเมื่อเช้า เราเข้าใจซึ่งกันและกัน”

 

 

นายชัยธวัช ยังกล่าวถึงความรู้สึกของ ส.ส. ภายในพรรค โดยเชื่อว่าทุกคนเข้าใจสถานการณ์ แม้จะเชื่อว่าหาก 8 พรรคการเมืองจับมือกันแน่น ก็ไม่เชื่อว่าจะเกิดการพลิกขั้วรัฐบาลได้ แต่เมื่อวันนี้พรรคเพื่อไทยตัดสินใจออกจาก MOU แล้ว การจัดตั้งรัฐบาลก็คงเป็นอีกแบบหนึ่ง

เมื่อถามว่า หาก พรรคลุง ต้องเป็นฝ่ายค้าน พรรคก้าวไกลจะสามารถร่วมงานด้วยได้หรือไม่ นายชัยธวัช กล่าวว่า นี่ไม่ใช่สิ่งที่เราเลือก ฝ่ายที่ไม่ถูกเลือกให้เป็นรัฐบาลก็จะต้องเป็นฝ่ายค้าน คงไม่มีการจับขั้วพรรคร่วมฝ่ายค้าน

นายชัยธวัช ยังมองว่า การที่พรรคเพื่อไทยผลักดันวาระเร่งด่วนให้มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญ โดยสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ (สสร.) ถือเป็นเรื่องที่ดี และเป็นสิ่งที่ประชาชนคาดหวัง อีกทั้งหลายพรรคการเมืองก็ผลักดันอยู่แล้ว

ทั้งนี้ นายชัยธวัช ยังเผยว่า ได้แจ้งเรื่องนี้ให้ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ทราบแล้วทางออนไลน์ แต่ตอนนี้ นายพิธา ยังอยู่ในโรงพยาบาล เนื่องจากอาการไข้หวัดใหญ่หนักกว่าที่คาดไว้ โดย นายพิธา ไม่ได้มีความเห็นอย่างไร ในเมื่อพรรคเพื่อไทยตัดสินใจแบบนี้แล้ว ก็คงเรียกร้องอะไรไม่ได้ แต่พร้อมทำงานต่อไปไม่ว่าในสถานะไหน

 

 


“ใหม่ Galaxy Z Fold 5 | Flip 5 สีพิเศษ โปรสุดคุ้ม จองวันนี้รับส่วนลดสูงสุด 6 ต่อ

🔥 เพิ่มความจุเป็น 2 เท่า มูลค่าสูงสุด 10,000.-
🔥 ฟรี! Samsung Care+ 2 ปี มูลค่าสูงสุด 19,990.-
🔥 เก่าแลกใหม่ลดสูงสุด 6,500.-
🔥 ส่วนลด 30% เมื่อซื้อ Watch 6 series
🔥 รับเครดิตเงินคืน 5%* สูงสุด 3,300.-
🔥 ลูกค้าใหม่ โค้ด NEWMEM ลดเพิ่ม 1,000.-

จำนวนจำกัด 1,000 เครื่องเท่านั้น
เฉพาะที่ samsung.com

📅 26 ก.ค. – 10 ส.ค. 66
*เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทฯกำหนด”

คลิกเพื่อพรีออเดอร์ได้ที่นี่ : https://omgrefer.com/w14hd

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

"กลุ่มชายปริศนา" แหวกวงล้อมสื่อ เข้ารุมทำร้าย "พระปีนเสา" ขณะให้สัมภาษณ์
เปิดตัว "TKR Connect" แพลตฟอร์มจัดหางานครบวงจร สร้างมิติใหม่รองรับแรงงานต่างด้าวอย่างถูกกม.
ออกหมายจับ "หมอบุญ" พร้อมพวกรวม 9 คน “ฉ้อโกง-ฟอกเงิน” ปลอมลายเซ็นอดีตลูกสะใภ้กู้เงิน 8 พันล้าน
ระทึกกลางดึก ไฟไหม้ "ร้านกาแฟ" เผาวอดทั้งหลัง เสียหายกว่า 7 แสนบาท
"อุตุฯ" เผย "เหนือ-อีสาน-กลาง" อากาศเย็นตอนเช้า เตือนใต้ยังรับมือฝนตก
แม่ทัพภาคที่ 2 ลงพื้นที่เยี่ยมเยียนครอบครัวกำลังพล ห่วงใยไปถึงบ้าน เพราะเราคือครอบครัวกองทัพบก
สวนนงนุชพัทยาเปิดเวที CHONBURI PROUD EXPO 2024 หนุน SMEs ชลบุรีสู่ตลาดโลก
“เอกภพ” ได้ประกันตัว ปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา ปมให้ข้อมูลเท็จดิไอคอน จ่อฟ้องกลับ
สามเชฟดังร่วมรังสรรค์เมนูเพื่อการกุศลทางการแพทย์
"ทนายบอสพอล" เผยเป็นไปตามคาด "เอก สายไหม" ถูกจับ จ่อดำเนินคดีหมิ่นประมาท เรียกค่าเสียหาย 100 ล้าน

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น