กรมราชทัณฑ์ พร้อมปล่อยตัวผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับพืชกระท่อมคดีเดียว ตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ (ฉบับที่ 8) พ.ศ.2564 ซึ่งได้ประกาศในราชกิจจานุเบกษา เมื่อวันที่ 26 พฤษภาคม 2564 กำหนดให้ใช้บังคับเมื่อพ้นกำหนดเก้าสิบวัน นับตั้งแต่วันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป จึงทำให้เริ่มมีผลบังคับใช้ในวันนี้ (24 สิงหาคม 2564) เป็นวันแรก โดยมีการยกเลิกฐานความผิดที่เกี่ยวกับพืชกระท่อม จากการเป็นยาเสพติดให้โทษประเภทที่ 5 ส่งผลให้บทกำหนดโทษเปลี่ยนแปลงไป รวมทั้งผลต่อคำพิพากษาและการลงโทษจำเลย กล่าวคือ ให้ถือว่าผู้นั้นไม่เคยต้องคำพิพากษาว่าได้กระทำความผิดนั้น หากยังรับโทษอยู่ก็ให้การลงโทษนั้นสิ้นสุดลง
กรมราชทัณฑ์ ขอเรียนว่า การที่พระราชบัญญัติฯ ดังกล่าวมีผลบังคับใช้ ส่งผลให้ผู้ต้องขังที่ถูกตัดสินจำคุกในฐานความผิดเกี่ยวกับพืชกระท่อมจะได้รับการพิจารณาปล่อยตัวพ้นโทษ หรือพิจารณาโทษจำคุกใหม่ตามแต่กรณี โดยผู้ต้องขัง ทั้งกลุ่มผู้ต้องขังระหว่างพิจารณาคดีและนักโทษเด็ดขาดที่กระทำความผิดเกี่ยวกับพืชกระท่อมคดีเดียว จะได้รับการปล่อยตัว ส่วนในรายที่กระทำความผิดคดีอื่นร่วมด้วย หากเป็นผู้ต้องขังระหว่างการพิจารณาคดี จะยังอยู่ในกระบวนการพิจารณาคดีต่อไป ส่วนนักโทษเด็ดขาด จะได้รับการพิจารณาออกหมายจำคุกฉบับใหม่แทนหมายเดิม ซึ่งกรมราชทัณฑ์ได้ส่งรายชื่อและคำร้องของผู้ต้องขังไปยังศาลที่ออกหมายจำคุก เพื่อดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
ปัจจุบัน มีผู้ต้องขังที่กระทำความผิดเกี่ยวกับพืชกระท่อมในเรือนจำและทัณฑสถานทั่วประเทศ ทั้งสิ้น 1,297 ราย โดยเป็นการกระทำความผิดเกี่ยวกับพืชกระท่อมคดีเดียว และจะได้รับการปล่อยตัว จำนวน 121 ราย ซึ่งอยู่ระหว่างรอหมายศาลเพื่อปล่อยตัว และที่กระทำความผิดคดีอื่นร่วมด้วย จำนวน 1,176 ราย ขณะนี้อยู่ระหว่างพิจารณาคดีและออกหมายจำคุกฉบับใหม่
ทั้งนี้ การปล่อยตัวผู้ต้องขังทุกราย เป็นไปตามแนวทางการปล่อยตัวผู้พ้นโทษในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 กรมราชทัณฑ์อย่างเคร่งครัด ทั้งกระบวนการตรวจหาเชื้อ กักโรค รักษา และการกักตัว โดยผู้ที่ได้รับการปล่อยตัวกลับภูมิลำเนาทุกรายจะต้องปลอดเชื้อ และต้องไม่มีการปล่อยตัวผู้พ้นโทษที่ติดเชื้อเพื่อทำการกักตัวที่บ้าน (Home Isolation) โดยเด็ดขาด