วันที่ 24 ส.ค. 64 นายแพทย์สุภัทร ฮาสุวรรณกิจ ประธานชมรมแพทย์ชนบท ออกแถลงการณ์ชมรมแพทย์ชนบท ฉบับที่ 5 “ตู่ไม่แข็ง ชมรมแพทย์ชนบทและเครือข่ายจะยังคงตรวจสอบคุณภาพ ATK ที่ประมูลได้ต่อไป” การประขุมคณะรัฐมนตรีในวันนี้ 24 สิงหาคม 2564 ได้มีการเสนอในที่ประชุมให้แก้ไขมติ ครม.และข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรี อันสืบเนื่องจากมติครม.ในวันที่ 17 สิงหาคม 2564 ในเรื่องการจัดซื้อ ATK ในหน้า 53 วงเล็บ 6 ระบุว่า “การเร่งดำเนินการจัดหาชุดตรวจ ATK ที่ผ่านการรับรองจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) มีจำหน่ายในไทย มีคุณภาพตามมาตรฐานสากลได้รับการรับรองจากองค์การอนามัยโลก (WHO)”
โดยให้ปรับปรุงเป็นข้อความว่า “ในเรื่องการจัดหาซื้อชุดตรวจ ATK นี้ ขอให้ สธ.เร่งดำเนินการให้ได้โดยเร็ว หากมีปัญหาความขัดแย้งอยู่ในปัจจุบัน ขอให้เร่งแก้ไขปัญหาให้ดีที่สุด” ทางชมรมแพทย์ชนบทได้เห็นแนวโน้มของความพยายามแก้ไขข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรีและมติคณะรัฐมนตรีมาตลอดสัปดาห์ และวันนี้มีความชัดเจนว่า รัฐบาลของนายกประยุทธ์ จันทร์โอชานั้นไม่แข็งจริง การไม่มีหลักยึดที่มั่นชัด ไม่แข็งที่จะยืนบนหลักที่ถูกต้อง ทำให้การนำรัฐนาวาประเทศไทยสู่การฝ่าฟันวิกฤตโควิดไปได้นั้นสาหัสและเจ็บหนักมากทั้งชีวิตผู้คนและระบบเศรษฐกิจไทย
ชมรมแพทย์ชนบทยังคงยืนบนหลักการของแถลงการณ์ฉบับที่ 3 ที่เสนอไปว่า อำนาจการจัดซื้ออยู่ที่องค์กรรัฐ แต่อำนาจการตรวจสอบอยู่ที่ภาคประชาชน ชมรมแพทย์ชนบทร่วมกับเครือข่ายภาคประชาชนยังยืนยันที่จะระดมทีมปฏิบัติการจากทุกภาคทำการตรวจสอบชุดตรวจ ATK ที่ได้รับการประมูลว่ามีคุณภาพทั้ง sensitivity และ specificity ดังที่กล่าวอ้างหรือไม่ มีผลบวกปลอมและผลลบปลอมในสัดส่วนที่เกินกว่าจะรับได้หรือไม่ ทั้งนี้จะเริ่มปฏิบัติการทันทีที่ชุดตรวจได้กระจายลงสู่พื้นที่ และหากผลการตรวจสอบพบว่าชุดตรวจมีคุณภาพต่ำเกินกว่าที่จะรับได้ เรื่องนี้ต้องมีผู้รับผิดชอบ
สำหรับ ATK ที่ใช้เป็น home use เกือบทุกยี่ห้อรวมทั้งยี่ห้อที่ชนะการประมูล ราคาขายปลีกในห้างสหรัฐอเมริกาและยุโรปราคาเพียง 1 USD การที่องค์การเภสัชกรรมลดสเป็คลงโดยไม่ลดราคากลางที่ 120 บาทลงไป ทำให้เราจัดซื้อได้ ATK เกรด home use ในราคากลางของ professional use เป็นการใช้เงินกู้และภาษีประชาชนอย่างไม่คุ้มค่าเลย และจะกระทบต่อการควบคุมโรคโควิดและการเปิดประเทศ ชมรมแพทย์ชนบทขอให้กำลังใจกับบุคลากรด้านสุขภาพทั้งประเทศ ให้สู้ทำงานหนักต่อไปแม้จะเหนื่อยยาก นี่คือชะตากรรมของพวกเราภายใต้รัฐบาลปัจจุบัน