วันที่ 8 ส.ค. ที่รัฐสภา นายเสรี สุวรรณภานนท์ สมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการการพัฒนาการเมืองและการมีส่วนร่วมของประชาชน วุฒิสภา กล่าวถึงการจัดตั้งรัฐบาลของพรรคเพื่อไทย (พท.)และ พรรคภูมิใจไทย (ภท.) ที่รวมเสียงขั้นต้นได้ 212 เสียง ว่า วุฒิสภาต้องรอให้แต่ละพรรคการเมืองที่ไปจัดตั้งรัฐบาลรวมตัวกันให้เสร็จ เพราะต้องการให้รัฐบาลมีเสถียรภาพต้องได้เสียงเกินกว่า 250 คนขึ้นไป ซึ่งตอนนี้ได้ 200 กว่าแล้ว คงต้องดูว่าแต่ละพรรคที่จะมารวมตัวกันว่ามีพรรคใดบ้างเพื่อให้รัฐบาลมีเสถียรภาพและคนที่เป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาลคงต้องไปตกลงกันว่าจะเอาชื่อที่อยู่ในบัญชีแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีคนใด แม้พรรคเพื่อไทยจะเสนอชื่อนายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกฯ แต่ระยะเวลายังมีอยู่ ก็คงต้องรอต่อไปว่าสุดท้ายการเสนอชื่อในสภาจะเป็นชื่อใดกันแน่
เมื่อถามว่า ขณะนี้พรรคเพื่อไทยและพรรคภูมิใจไทยรวมเสียงได้เกิน 253 เสียงแล้ว ส.ว.มีความมั่นใจเพียงพอหรือไม่ในการจัดตั้งรัฐบาล นายเสรี กล่าวว่า พรรคการเมืองต้องไปตกลงกันให้ได้ว่าพรรคใดจะมาร่วม แต่การที่จะมี 2 ลุงอยู่หรือไม่ขึ้นอยู่กับแต่ละพรรคต้องตกลงกันเอง ในส่วนของ ส.ว.คงต้องรอว่าจะสำเร็จมากน้อยเพียงใด หากตอบตอนนี้จะกลายเป็นว่าเราไปสนับสนุนพรรคนั้น พรรคนี้อาจจะไม่เหมาะสม
เมื่อถามว่าแคนดิเดตของพรรคเพื่อไทยตอนนี้ยังเป็นนายเศรษฐาอยู่ ทางส.ว.จะให้ความเห็นชอบหรือไม่ นายเสรี กล่าวว่า อยู่ในเกณฑ์พิจารณามากกว่า เพราะการเสนอชื่อมาแล้วต้องอยู่ในมาตรฐานที่เราเคยตัดสินใจไปแล้วว่า 1. ต้องไม่แตะมาตรา 112 หรือไม่แก้รัฐธรรมนูญหมวดพระมหากษัตริย์ ถือเป็นหลักสำคัญในการพิจารณาครั้งก่อน 2. ดูคุณสมบัติและลักษณะต้องห้ามของคนที่ได้รับการเสนอชื่อขัดรัฐธรรมนูญหรือไม่ 3.นโยบายของแต่ละพรรคเพื่อนำมาประกอบในการตัดสินใจ ถือว่ามีส่วนสำคัญเพราะมีผลกระทบกับประชาชน
เมื่อถามว่า ทางส.ว.จะมีการตรวจสอบคุณสมบัติของนายเศรษฐาในกรณีเลี่ยงภาษีที่ดินหรือไม่ นายเสรี กล่าวว่า ตอนนี้มีนายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ สมาชิกพรรคพลังประชารัฐ(พชปร.) มายื่นตรวจสอบแล้ว ซึ่งทางกรรมาธิการจะพิจารณารายละเอียดในการประชุมกรรมาธิการในวันนี้ ซึ่งจะดูในเรื่องที่ร้องเรียนมามีเรื่องใดบ้าง เกี่ยวข้องกับกรรมาธิการหรือไม่ ถ้าเกี่ยวข้องก็พิจารณา ถ้าไม่เกี่ยวข้องก็ส่งต่อให้กรรมาธิการที่เกี่ยวข้องไปดำเนินการต่อ