ดร.กัลยาณี นำคณะเข้าไปช่วยเหลือ 2 แม่ลูก ป่วยเป็นโรคหัวใจตีบตาบอด ขณะที่ภาครัฐเร่งเข้าไปให้การช่วยเหลือด่วนแล้ว

ศรีสะเกษ ดร.กัลยาณีนำคณะเข้าไปช่วยเหลือ 2 แม่ลูกป่วยเป็นโรคหัวใจตีบตาบอด ขณะที่ภาครัฐเร่งเข้าไปให้การช่วยเหลือด่วนแล้ว

เมื่อวันที่ 11 ส.ค.2566 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บ้านเลขที่ 12 หมู่ 9 บ้านหนองกก ต.บัวหุ่ง อ.ราษีไศล จ.ศรีสะเกษ ดร.กัลยาณี ธรรมจารีย์ นายกสมาคมส่งเสริมเครือข่ายการท่องเที่ยวศรีสะเกษ และนักสังคมสงเคราะห์ พร้อมด้วย คณะทีมงาน ซึ่ง ดร.นิภา คงเพชร พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ได้มอบหมายให้ น.ส.ปิยะพร โพธิ์ชัย ตำแหน่ง เจ้าพนักงานพัฒนาสังคม น.ส.จิรนันท์ แสงไสว นักสังคมสงเคราะห์ เป็นผู้แทน และ น.ส.ดวงใจ แหวนหล่อ อายุ 31 ปี แม่ลูก 2 คนที่มีอาชีพขับรถดั้มและรถแบ๊คโฮ เพิ่งถูกล็อตเตอรี่รางวัลที่ 1 รับเงินรางวัล 12 ล้านบาท พร้อมครอบครัว ญาติพี่น้อง เดินทางไปด้วย เพื่อไปให้ความช่วยเหลือครอบครัวของ นางเพชร (ขอสงวนนามสกุล)  อายุ 62 ปี ป่วยเป็นโรคหัวใจตีบและหัวใจเต้นผิดจังหวะ และ น.ส.รัชนี (ขอสงวนนามสกุล)  อายุ 33 ปี ลูกสาวของนางเพชร เป็นผู้พิการทางการมองเห็นและทางสติปัญญา ไม่สามารถประกอบอาชีพได้ มีโรคประจำตัว คือ โรคภูมิแพ้ โรคประสาท โรคหัวใจอ่อน โรคหอบและโรคเนื้องอกตาข้างซ้ายเป็นตั้งแต่กำเนิด ขณะนี้ตาข้างซ้ายได้บอดสนิทแล้วต้องใส่ดวงตาเทียม ที่ได้ประสานงานทางโทรศัพท์ไปขอให้หาผู้ใจบุญมีเมตตาไปช่วยเหลือ ซึ่ง ดร.กัลยาณี ได้มอบเครื่องอุปโภคบริโภค ตัวแทน พมจ.ศรีสะเกษ ได้มอบเงินสด จำนวน 3,000 บาท น.ส.ดวงใจ แหวนหล่อ มอบเงินจำนวน 5,050 บาท เป็นการให้ความช่วยเหลือเบื้องต้น โดยมี นายสมศักดิ์ ลาลุน นายกเทศมนตรีตำบลบัวหุ่ง และ นายไพบูลย์ ก้อนฝ้าย ผญบ.หมู่ 9 นำคณะเจ้าหน้าที่เทศบาลและผู้นำหมู่บ้านหนองกก ร่วมให้การต้อนรับในครั้งนี้

 

 

นางเพชร (ขอสงวนนามสกุล)  อายุ 62 ปี เล่าว่า ตนป่วยเป็นโรคหัวใจตีบและหัวใจเต้นผิดจังหวะ ส่วน น.ส.รัชนี ลูกสาวของตนเป็นผู้พิการทางการมองเห็นและทางสติปัญญา มีโรคประจำตัว คือ โรคภูมิแพ้ โรคประสาท โรคหัวใจอ่อน โรคหอบและโรคเนื้องอกตาข้างซ้ายเป็นตั้งแต่กำเนิด ขณะนี้ตาข้างซ้ายได้บอดสนิทแล้วต้องใส่ดวงตาเทียม ต้องไปพบแพทย์รับการรักษาที่โรงพยาบาลศรีสะเกษเป็นประจำ เนื่องจากครอบครัวประสบปัญหาความเดือดร้น ครอบครัวฐานะยากจน ไม่ได้ประกอบอาชีพ ทั้งรับภาระในการดูแลบุตรสาวที่พิการทางการมองเห็นและทางสติปัญญา มีรายได้ไม่เพียงพอกับรายจ่าย เนื่องจากต้องเดินทางไปพบแพทย์เป็นประจำ โดยครอบครัวประกอบอาชีพรับจ้างทั่วไป มีภาระหนี้สินมากที่ต้องรับผิดชอบ เนื่องจากนำที่นาไปจำนอง เพื่อนำเงินมาเป็นค่ารักษาตัวบุตรสาวและค่าเดินทางไปพบแพทย์ จึงได้ร้องขอความช่วยเหลือจากผู้ใจบุญ

 

 

 

 

ข่าวที่น่าสนใจ

นายสมศักดิ์ ลาลุน นายกเทศมนตรีตำบลบัวหุ่ง กล่าวว่า ครอบครัวนี้อาศัยรายได้จากแหล่งต่างๆ ในการเลี้ยงชีพ คือ น.ส.รัชนี ได้รับเบี้ยผู้พิการ เดือนละ 800 บาท นายนิวัฒน์ สามีนางเพชร ได้เบี้ยผู้สูงอายุ เดือนละ600 บาท นางเพชร ได้รับเบี้ยผู้สูงอายุ 600 บาท มีที่นาทำกิน 10 ไร่ แบ่งที่นาจำนองกับนายทุน 3 ไร่ จำนวน 80,000 บาท มีหนี้สินจากกองทุนเงินล้านหมู่บ้าน จำนวน 80,000 บาท กองทุนร้านค้า จำนวน 8,000 บาท กองทุนกลุ่มแม่บ้าน จำนวน 15,000 บาท และหนี้ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธกส) จำนวน 270,000 บาท เนื่องจากนำเอาเงินมาเป็นค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาล น.ส.รัชนี เป็นคน ซึ่งทางเทศบาลตำบลบัวหุ่ง ได้เข้ามาให้การช่วยเหลืออย่างต่อเนื่องและเมื่อเวลาจะไปพบแพทย์ ได้จัดรถของทางราชการนำไปพบแพทย์ตามนัดทุกครั้ง

น.ส.ดวงใจ แหวนหล่อ อายุ 31 ปี แม่ลูก 2 คนที่มีอาชีพขับรถดั้มและรถแบ๊คโฮ เพิ่งถูกล็อตเตอรี่รางวัลที่ 1 รับเงินรางวัล 12 ล้านบาท กล่าวกับ นางเพชรว่า หลายคนไม่มีสิ่งที่ดีๆเหมือนป้าไม่ว่าน้องผู้หญิงจะไม่มีตาข้างหนึ่ง แต่ก็ยังเหลือตาอีกข้างหนึ่งบางคนไม่มีตาทั้งสองข้างเวลาเดินทางไปไหนเค้าต้องเดินงมทางไป และใช้อักษรเบลล์ ก็ยังอยู่ได้ ตนขอให้เอาเงินที่ได้รับมอบครั้งนี้ไปใช้ในสิ่งที่จำเป็น ขอให้ป้าสุขภาพ แข็งแรงหายป่วยจากโรคภัยไข้เจ็บโดยเร็ว ไม่มีโรคเป็นลาภอันประเสริฐมาก ตนถูกลอตเตอรี่รางวัลที่ 1 ก็ดีอยู่ แต่ถ้าไม่มีโรคก็จะดีกว่าการถูกรางวัลที่ 1

 

 

 

ดร.กัลยาณี ธรรมจารีย์ นายกสมาคมส่งเสริมเครือข่ายการท่องเที่ยวศรีสะเกษและนักสังคมสงเคราะห์ กล่าวว่า พอได้รับทราบข่าวนี้ตอนแรกก็ตกใจมาก แต่เมื่อมาดูสภาพจริงของ 2 แม่ลูกแล้วอาการก็อยู่ในสภาพมีคนดูแลมีคนคอยรักษารวมทั้งชุมชนเองก็ได้ให้ความช่วยเหลือไม่ว่าจะเป็นนายกเทศมนตรี ผู้ใหญ่บ้าน เวลาจะไปหาหมอก็ช่วยจัดรถไปส่งให้ แต่ตอนนี้ก็อยากให้คุณยายเข้าใจว่าทุกคนก็เป็นโรคถ้าบอกว่าตัวเองเหนื่อยเป็นโรคและคิดว่าบ้านตนเองมีคนหลายคนที่ป่วยอยู่ก็จะทำให้ไม่มีกำลังใจ เราก็ต้องบอกว่าเรื่องป่วยนี้ทุกบ้านก็มีผู้ป่วยหมดก็ให้เข้าใจกับโรค ตอนนี้ถ้าหมอบอกว่านัดเดือนมกราคม 2567 ก็ถือว่าไม่ได้เป็นอะไรร้ายแรง การนัดนานหลายเดือนก็ถือว่าหมอเห็นว่าไม่ได้เป็นอันตรายเหมือนกับที่แพทย์ต้องนัดทุกเดือน ซึ่งอาการป่วยจะต้องดูแลอย่างใกล้ชิด ก็ขอให้คุณยายเข้าใจอาการป่วย ก็ถือว่าขณะนี้อาการยังดีอยู่ เราต้องเข้มแข็งก็อยู่กันไปดูแลกันไป ตอนนี้ พมจ.ศก.ก็มาช่วยมีรายได้จากเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ เงินผู้พิการ ซึ่งขณะนี้น้องผู้หญิงก็รอเงินเพื่อจะได้ไปเปลี่ยนดวงตา ต่อไปถ้ามีอะไรพอช่วยได้ก็จะได้เข้ามาช่วยกันดูแล ก็ขอให้เข้มแข็ง อีกหน่อยอาการป่วยก็คงจะดีขึ้นตามลำดับ.

 

 

 

ภาพ/ข่าว ศิริเกษ หมายสุข ผู้สื่อข่าวประจำ จ.ศรีสะเกษ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

เปิดตัว "TKR Connect" แพลตฟอร์มจัดหางานครบวงจร สร้างมิติใหม่รองรับแรงงานต่างด้าวอย่างถูกกม.
ออกหมายจับ "หมอบุญ" พร้อมพวกรวม 9 คน “ฉ้อโกง-ฟอกเงิน” ปลอมลายเซ็นอดีตลูกสะใภ้กู้เงิน 8 พันล้าน
ระทึกกลางดึก ไฟไหม้ "ร้านกาแฟ" เผาวอดทั้งหลัง เสียหายกว่า 7 แสนบาท
"อุตุฯ" เผย "เหนือ-อีสาน-กลาง" อากาศเย็นตอนเช้า เตือนใต้ยังรับมือฝนตก
แม่ทัพภาคที่ 2 ลงพื้นที่เยี่ยมเยียนครอบครัวกำลังพล ห่วงใยไปถึงบ้าน เพราะเราคือครอบครัวกองทัพบก
สวนนงนุชพัทยาเปิดเวที CHONBURI PROUD EXPO 2024 หนุน SMEs ชลบุรีสู่ตลาดโลก
“เอกภพ” ได้ประกันตัว ปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา ปมให้ข้อมูลเท็จดิไอคอน จ่อฟ้องกลับ
สามเชฟดังร่วมรังสรรค์เมนูเพื่อการกุศลทางการแพทย์
"ทนายบอสพอล" เผยเป็นไปตามคาด "เอก สายไหม" ถูกจับ จ่อดำเนินคดีหมิ่นประมาท เรียกค่าเสียหาย 100 ล้าน
ศาลออกหมายจับ 'เจ๊หนิง' พร้อมสามีและหลาน ร่วมกันแจ้งความเท็จ 'ภรรยาบิ๊กโจ๊ก'

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น